ยื้อสุดแขน 1400! หุ้นไทยเน้นเก็งกำไรสั้น ระวังขาลงรอบใหญ่
ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปิดการซื้อขายวันนี้(23 พ.ย.66) อยู่ที่ 1,406.61 จุด ลดลง 7.54 จุด คิดเป็น -0.53% มูลค่าการซื้อขาย 40,407.66 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นสูงสุด 1,415.02 จุด และลดลงต่ำสุด 1,400.48 จุด
5 หุ้นซื้อขายสูงสุด ดังนี้
1. AOT ปิดที่ 62.25 บาท ลดลง 3.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 11,485,089.10 บาท
2. CPALL ปิดที่ 55.50 บาท ลดลง 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,197,418.50 บาท
3. PTT ปิดที่ 34.25 บาท ลดลง 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,121,736.45 บาท
4. COM7 ปิดที่ 23.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท มูลค่าการซื้อขาย 890,273.97 บาท
5. BDMS ปิดที่ 26.50 ราคาปิดไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 879,051.88 บาท
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยทางเทคนิค บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า หุ้นไทยวันนี้ย่อตัวลงตอบรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯรายงานวานนี้ ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ที่ระดับ 2.09 แสนคน ลดลงจากสัปดาห์ก่อนทำจุดต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ ถือว่าต่ำกว่าคาดที่ 2.25 แสนคน เช่นเดียวกับตัวเลขผู้ ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง ซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.840 ล้านคน ต่ำกว่าคาดที่ 1.875 ล้านคน
โดยหุ้นที่กดดันตลาดก็คือ AOT ที่มีความกังวลตัวเลขการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ส่งผลให้ราคาพักตัวลงนั่นเอง สำหรับนักลงทุนที่สนใจอาจรอจังหวะราคาหุ้นยืนได้ก่อน หรือมีแรงซื้อกลับที่ดี หรือนักเก็งกำไรสามารถรับเพื่อเก็งกำไร หากหลุด 60 บาทตัดขายขาดทุน ทั้งนี้กราฟหุ้น AOT เหมาะกับการเทรดดิ้ง ไม่เหมาะถือยาว ทรงกราฟเริ่มเปลี่ยน เน้นเก็งกำไรเล่นรอบสั้น แนวต้าน 64 บาท
ส่วนแนวโน้มหุ้นไทยรอบนี้ห้ามหลุด 1400 จุด เพราะอาจจะลงไปทดสอบ 1380-1370 จุดและมีโอกาสทำนิว โลว์ โดยตลาดหุ้นรอบนี้ นักลงทุนต้องเล่นด้วยความระมัดระวัง แม้ไม่ใช่ขาลงรอบใหญ่แต่ถือว่าอยู่ในรอบขาลง เป็นภาวะที่เกิดขึ้นทุกปีลงกว่า 15% เป็นโอกาสเข้าเก็บหุ้นในโซนต่ำแต่ต้องวางแผนให้ถูกต้อง มี Stop Loss ชัดเจน หรือรอให้ผ่าน 1430 จุดได้
ตัดขาดทุนหากหลุด 1390
ฝ่ายกลยุทธ์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) ระบุว่า หุ้นไทยวันพรุ่งนี้(24 พ.ย.66)คาด SET Index ภาพในรายชั่วโมง หลังเกิดทรง Rising Wedge ดัชนีลงมาทดสอบแนวรับที่เป็นขอบ Gap บริเวณ 1400 จุด โดยมีแรงซื้อกลับเข้ามาบ้าง แต่ไม่อาจเอาชนะแรงขายได้ โดยดัชนีติดแนวต้านเส้น EMA 5 - EMA 20 ทำทรงคล้ายเป็นการรีบาวด์เพื่อลงต่อ MACD ลงมาอยู่แดนลบ และมีอัตราเร่งเพิ่มขึ้นสะท้อนราคายังอยู่ในรอบการพักตัว โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1400 และ 1395 จุดตามลำดับ
กลยุทธ์การลงทุน ทางฝ่ายแนะนำให้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น โดยเริ่มสะสมหุ้นที่มีสัญญาณกลับตัวชัดเจน และตัดขาดทุนหากดัชนีต่ำกว่า 1390 จุด โดยมีแนวต้าน 1420 / 1425 จุด
หุ้น NER ภาพรายวัน ราคา Breakout ทะลุเส้น Trend Line พร้อมกับ EMA5 ที่เกิด Golden Cross กับ EMA20 ส่วน MACD ขึ้นมาอยู่แดนบวกแท่งแรก RSI Swing ขึ้นมาโซน Bullish ซึ่งในภาพใหญ่ของหุ้น NER เป็นทรง Sideways จึงหนุนโอกาสที่ราคาจะไปทดสอบกรอบด้านบน โดยคาดราคาจะไปทดสอบแนวต้านกรอบบนที่ EMA 200 แถว 5 บาท กลยุทธ์การลงทุน Buy on Breakout ที่ 4.70 บาท แนวต้าน 4.84 / 5 บาท แนวรับ 4.64 บาท STOP LOSS ต่ำกว่า 4.54 บาท
หุ้น SGC ภาพรายวัน ราคาฟอร์มตัวรูปแบบ Double Bottom โดยที่โค้งหลังราคาทำ Low เท่าเดิม แต่ RSI และ MACD ยกขึ้น เกิดเป็นสัญญาณ Bullish Divergence ราคา Breakout ขึ้นมาทะลุเส้น Trend Line และเกิด Golden Cross ระหว่าง EMA5 กับ EMA20 คาดราคาจะไปทดสอบแนวต้าน High ก่อนหน้าที่ 1.70 บาท กลยุทธ์การลงทุน Buy on Dip ที่จุด Breakout แถว 1.52-1.55 บาท แนวต้าน 1.70 / 1.74 บาท แนวรับ 1.52 / 1.55 บาท STOP LOSS ต่ำกว่า 1.47 บาท
หุ้น BYD ภาพรายวัน ราคายก High ยก Low ขึ้นมาผ่านแนวต้าน High ก่อนหน้าบริเวณ 5 บาทได้ RSI ยกตัวขึ้น มาอยู่ Bullish Zone สูงกว่า 50 ได้อกี ครั้ง MACD ตัดขึ้นเส้น Signal สะท้อนราคาเข้าสู่ช่วงการรีบาวด์ โดยคาดจะเห็นราคาไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 5.50-5.75 บาท แนะนำเก็งกำไรระยะสั้นเนื่องจากภาพใหญ่ยังอยู่แนวโน้มขาลง กลยุทธ์การลงทุน Buy on Dip ที่แนวรับ 5.00 บาท แนวต้าน 5.50 / 5.75 บาท แนวรับ 5 บาท STOP LOSS ต่ำกว่า 4.80 บาท
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.