เงินบาทวันนี้35.10-35.35เปิดเช้าอ่อนลงเล็กน้อยอยู่35.25บาท/ดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย ให้มุมมองราคาทองวันนี้ที่ 35.10-35.35 บาทต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ  35.25 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  35.20 บาทต่อดอลลาร์

โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนอ่อนค่าลงเล็กน้อย (แกว่งตัวในช่วง 35.15-35.31 บาทต่อดอลลาร์) โดยเงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นในช่วงแรก ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ และโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ อย่างไรก็ดี รายงานข้อมูลยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานสหรัฐฯ (Jobless Claims) ที่ออกมาดีกว่าคาด ได้หนุนให้ เงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น

พร้อมกับการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้ ราคาทองคำปรับตัวลดลง และกดดันให้ เงินบาทมีจังหวะอ่อนค่าทดสอบโซนแนวต้าน 35.30 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนที่เงินบาทจะแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ตามการย่อตัวลงบ้างของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท Krungthai GLOBAL MARKETS ยังคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทยังคงแกว่งตัว sideway แต่ทว่า โมเมนตัมฝั่งอ่อนค่าก็เริ่มกลับมามีกำลังมากขึ้น ตามการปรับตัวแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ รวมถึงการปรับตัวลงของราคาทองคำที่หนุนให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนทยอยเข้าซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว ขณะเดียวกัน การปรับตัวลงต่อเนื่องของราคาน้ำมันดิบในช่วงที่ผ่านมา ก็อาจเป็นปัจจัยกดดันเงินบาทฝั่งอ่อนค่าได้ จากโฟลว์ธุรกรรมซื้อน้ำมันในจังหวะย่อตัวของผู้เล่นในตลาด

อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของเงินบาทอาจยังคงจำกัดอยู่ในโซน 35.30 บาทต่อดอลลาร์ จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า หากรายงานดัชนี PMI สหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ ออกมาดีกว่าคาด ก็อาจทำให้เงินดอลลาร์ พร้อมบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อ กดดันให้เงินบาทอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้านแรก ไปทดสอบโซนแนวต้านสำคัญ 35.50 บาทต่อดอลลาร์ ได้ 

อนึ่ง ในวันนี้ ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของฝั่งยุโรป เพราะหากรายงานดัชนี PMI ของทั้งอังกฤษและยูโรโซน ออกมาแย่กว่าคาด ก็อาจยิ่งกดดันให้ทั้งเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) และเงินยูโร (EUR) อ่อนค่าลง ซึ่งจะช่วยให้เงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นได้ไม่ยาก

บรรยากาศในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มกลับมาอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุด อย่าง ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดยมหาวิทยามิชิแกน แม้ว่าข้อมูลดังกล่าวจะยังคงสะท้อนแนวโน้มการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่ก็เป็นภาพที่ยังไม่น่ากังวล ทำให้ผู้เล่นในตลาดยังคงมุมมองแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวแบบ Soft Landing และเฟดก็อาจจบรอบการขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว ซึ่งมุมมองดังกล่าวของผู้เล่นในตลาดได้ช่วยหนุนให้ดัชนี S&P500 สามารถรีบาวด์ขึ้น +0.41%   

ส่วนในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี stoxx600 พลิกกลับมาปรับตัวขึ้น +0.30% หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของบรรดาหุ้นเทคฯ และหุ้นสไตล์ Growth อาทิ ASML +1.2%, SAP +1.2% ท่ามกลางความหวังว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ได้จบรอบการขึ้นดอกเบี้ยแล้ว อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นยุโรปก็ถูกกดดันโดยแรงขายบรรดาหุ้นกลุ่มพลังงาน BP -2.2%, Shell -2.2% หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงแรง

ในฝั่งตลาดบอนด์ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้ง ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน ที่ออกมาดีกว่าคาด รวมถึง คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อระยะสั้นที่ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.5% สวนทางกับที่ตลาดประเมิน ได้หนุนให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ รีบาวด์ขึ้นต่อเนื่องทดสอบโซน 4.44% อีกครั้ง ก่อนที่จะย่อตัวลงบ้างและแกว่งตัวใกล้ระดับ 4.40% ตามแรงซื้อของผู้เล่นในตลาดบางส่วนที่รอจังหวะในช่วงบอนด์ยีลด์ปรับตัวขึ้น

โดยการเคลื่อนไหวดังกล่าว ก็สอดคล้องกับการประเมินของเรา ที่มองว่า บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังมีความเสี่ยงที่อาจผันผวนสูงขึ้นได้บ้าง โดยเฉพาะในจังหวะที่รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อออกมาดีกว่าคาด ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นในตลาดสามารถทยอยเข้าซื้อบอนด์ระยะยาวในจังหวะบอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้นได้ 

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์ทยอยปรับตัวแข็งค่าขึ้น หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดยังเชื่อมั่นในภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ Soft Landing และเฟดอาจจบรอบการขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว อย่างไรก็ดี การแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ก็ถูกจำกัดโดยแรงขายของผู้เล่นในตลาด หลังบรรยากาศในตลาดการเงินกลับมาอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับ 103.9 จุด (กรอบ 103.6-104.2 จุด)

ในส่วนของราคาทองคำ บรรยากาศในตลาดการเงินที่พลิกกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น รวมถึงจังหวะการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ และเงินดอลลาร์ ได้กดดันให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค.) ปรับตัวลดลงหลุดโซน 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังคงสามารถแกว่งตัวใกล้ระดับ 1,990 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ หลังในช่วงท้ายตลาด เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้ย่อตัวลงบ้าง

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.