โบรกส่องเกมหุ้นไทยบ่ายนี้ ลุ้นดีดกลับเหนือ 1400

     ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปิดการซื้อขายเช้านี้(10 พ.ย.66) อยู่ที่ 1,396.56 จุด ลดลง 8.41 จุด คิดเป็น -0.60% มูลค่าการซื้อขาย 23,932.44 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นสูงสุด 1,398.56 จุด และลดลงต่ำสุด 1,387.41 จุด 

5 หุ้นซื้อขายสูงสุด ดังนี้
     1. JMT ปิดที่ 28 บาท ลดลง 4.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,119.73 ลบ.
     2. BH ปิดที่ 232 บาท ลดลง 1 บาท มูลค่าการซื้อขาย 797 ลบ.
     3. KTB ปิดที่ 18.90 บาท ลดลง 0.10 บาท มูลค่าการซื้อขาย 753.93 ลบ.
     4. PTT ปิดที่ 33.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
     5. BBL ปิดที่ 158.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 658.65 ลบ.

ลุ้นดีดกลับ

     ฝ่ายวิจัย บล. เอเซีย พลัส ระบุในบททวิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ แกว่งในแดนลบ นำโดย ตลาดหุ้น ฮ่องกง -1.63% ตลาดหุ้นสิงคโปร์ -0.85% ส่วน SET Index ปรับฐานต่อ -0.60% กลับมาปิดต่ำกว่า 1400 จุด กดดันหลักๆมาจาก DELTA -4.49% และ กลุ่มอาหาร CPF -3.19%

     ส่วนแนวโน้มตลาดฯภาคบ่าย BOND YIELD ดีดรับพาวเวลส่งสัญญาณพร้อมขึ้นดอกเบี้ยหากจำเป็นเพื่อกดเงินเฟ้อลงสู่เป้าหมายที่ 2% ฉุดตลาดหุ้นเอเชียปรับลง ขณะที่ FED Watch Tool ขยับคาดการณ์โอกาส FED ขึ้นดอกเบี้ยปลายปีเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแตะ 14% และน่าจะคงดอกเบี้ย 5.25-5.50% ไปถึงกลางปีหน้า ส่งผลให้ BOND YIELD ระยะยาว(10 ปี: 4.61%) ที่ต่ำกว่าระยะสั้น (2 ปี: 5.02%) มีโอกาสปรับขึ้น

     ระยะสั้นกดดันเม็ดเงินที่จะไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง แต่ SET INDEX จ่อแนวรับที่มีโอกาสดีดสูงในช่วง 1385 - 1390 จุด ฉะนั้นบ่ายให้ระยะดีด แนวต้าน 1400 - 1414 จุด กรณีผิดคาดและพลิกต่ำกว่า 1385 - 1390 จุด จะดึงภาพรายเดือนเป็นลบ

     ขณะที่ในสัปดาห์หน้า 14 พ.ย. ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ โดย Bloomberg Consensus คาดจะชะลอตัวแตะ 3.3% YoY และ 17 พ.ย. การผ่านร่างงบประมาณของสหรัฐฯ เพื่อเลี่ยงภาวะ Government Shutdown แต่คาดจะประสบความสำเร็จต่อการเลื่อนงบประมาณรัฐบาลออกไปชั่วคราว

     อย่างไรก็ดีในช่วงเวลา 14.00 น. รอนายกฯแถลง Full Package Digital Wallet 10,000 บาท ประกอบด้วย 1.หลักการโครงการ 2.ที่มาของเงิน 3.ใครเข้าเกณฑ์ได้รับสิทธิ์ 4.ใช้กับสินค้าประเภทใดได้บ้าง 5.ระยะทางการใช้เงิน อาจปลดล็อคกลุ่มค้าปลีกที่ราคาปรับลงมาเยอะ

     โดยมองแนวรับ 1385-1390 จุด แนวต้าน 1405 จุด หุ้นทางเทคนิค แนะนำ SAT แนวรับ 17.50 บาท แนวต้าน 18.80 บาท และ MBK แนวรับ 16.20 บาท แนวต้าน 17 บาท

เชียร์ 4 หุ้นใหญ่น้ำดี

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า เช้านี้ตลาดหุ้นไทยดูมีแนวโน้มซึมลงตามทิศทางของตลาดหุ้นโลก โดย SET Index ถอยหลุด 1,407 จุด โมเมนตัมระยะสั้นพลิกเป็นลบ เราให้ลดน้ำหนักหุ้นเหลือ 55% เน้นหุ้นที่มีประเด็นบวกเพียงอย่างเดียว

     โดยแนะนำซื้อ หุ้น BBL ราคาเป้าหมาย 207 บาท กำไร 3Q66 ยังโตสูง +48%YoY ผลจากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นสูงตามการปรับขึ้นดอกเบี้ย บวกการตั้งสำรองลด ส่งผลให้ 9M66 กำไรโตถึง +51% YoY หนุนทั้งปีกำไรโตได้ดี คาดสูงถึง 44% ถือเป็นธนาคารที่คาดว่าปีนี้จะมีกำไรโตโดดเด่นสุดในกลุ่ม BBL เป็นหุ้นพื้นฐานดี เงินกองทุนแข็งแกร่ง สำรองสูง มี Coverage ratio สูงถึง 283% และยังคุมคุณภาพสินทรัพย์ได้ดี ราคาปัจจุบันยังถูกมาก เทรดเพียง PBV 0.58x มองแนวรับ 156.5 / 158 บาท แนวต้าน 162 / 166 บาท

     CPN ราคาเป้าหมาย 81 บาท คาดกำไร 3Q66 เพิ่มขึ้น +10%QoQ , +40%YoY ขณะ Occ. Rate ยังทรงตัว QoQ, YoY จากส่วนแบ่งจากยอดขายผู้เช่าเพิ่มขึ้น, ปรับขึ้นค่าบริการส่วนกลาง และเริ่มโอนคอนโดใหม่ 3โครงการ โดยคาดกำไร 4Q66 จะยังโต YoY จากการโอนคอนโดต่อเนื่องจาก 3Q66 บวก traffic เพิ่มขึ้นในช่วง high season แต่จะชะลอ QoQ จากค่าใช้จ่ายการตลาดเพิ่มขึ้น จากการจัดงานเทศกาลปีใหม่ หนุนให้กำไรทั้งปีนี้เติบโตราว 20% จากปีก่อน มองแนวรับ 62 / 62.5 บาท แนวต้าน 65 / 66 บาท

     GULF ราคาเป้าหมาย 60 บาท คาดกำไรปกติ 2H66F จะเพิ่มขึ้น HoH จากการเริ่ม COD ของโครงการ GPD หน่วยที่ 2 (ต.ค.66) บวกรับรู้กำไรจากโครงการ Mekong หลัง COD ครบถ้วนแล้ว อีกทั้งส่วนแบ่งกำไรจาก Wind ที่เยอรมนีเพิ่มขึ้น ขณะที่แนวโน้มกำไรเพิ่มต่อเนื่องจากการทยอย COD โครงการใหม่ขนาดใหญ่อีก 4 โครงการจนถึงปี 73 (GPD, หินกอง, บูรพา, หลวงพระบาง) รวมถึงโครงการ Renewable ในประเทศ นอกจากนี้เพิ่งลงนามในสัญญา PPA ในโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม 2 โครงการ 16 MW (8.16 MWe)
และโครงการ Solar 12 โครงการ 649.3 MWe ซึ่งจะหนุนการเติบโตปีหน้าเป็นต้นไป มองแนวรับ 44 / 44.75 บาท แนวต้าน 46 / 47 บาท

     TISCO ราคาเป้าหมาย 114 บาท กำไร 3Q66 เพิ่มขึ้น +5.7% YoY ดีตามคาด แต่ยังมีแรงกดดัน cost of fund และ คุณภาพสินทรัพย์ที่ต้องเฝ้าระวัง ประกอบกับปีนี้คาดกำไรยังทรงตัวถึงบวกเล็กน้อย ได้สำรองส่วนเกินหนุนตั้งสำรองลด ช่วยดันกำไรโต ส่วนปี67 ไม่เน้นโตสินเชื่อ แต่สำรองส่วนเกินที่มีมากคาดยังส่งผลบวกเล็กน้อยต่อกำไรปี 67 ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมถ้าดีขึ้นเป็น upside ต่อกำไร ทั้งนี้ TISCO ยังเป็นธนาคารที่มี ROE และปันผลสูงสุดในกลุ่ม มองแนวรับ 96.25 / 96.75 บาท แนวต้าน 99.5 / 102 บาท

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.