TRUE แจ้งงบไตรมาส 3/66 ขาดทุนลดลงเหลือ 1,598 ล้าน

นางสาวยุภา ลีวงศ์เจริญ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE เปดเผยว่า ในไตรมาส 3/2566 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 1,598 ล้านบาท จากไตมาสก่อน ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 2,320 ล้านบาท ผลขาดทุนสุทธิภายหลังการปรับปรุง (Normalized) ดีขึ้นประมาณ 300 ล้านบาท จากไตรมาสก่อน จากการกลับรายการของสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญขีจากการยกยอดผลขาดทนุของ DTN จากการควบรวมบริษัทกับ TUC และจากการยุติข้อพิพาททางกฎหมายในไตรมาส 2/2566 

ทั้งนี้ ผลขาดทุนสุทธิในไตรมาส 3/2566 ยังได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายเพื่อให้ได้มาซึ่งประโยชน์จากการควบรวม (Integration Costs) จำนวนประมาณ 400 ล้านบาท

ขณะที่บริษัทมีรายได้รวมภายหลังจากการจัดประเภทรายการใหม่ในไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ 50,137 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4% จากไตรมาสก่อน โดยมีเหตุมาจากรายได้จากการให้บริการและการขายสินค้าที่เติบโตขึ้น รายได้จากการให้บริการไม่รวมรายได้ค่าเชื่อมต่อโครงข่าย IC ภายหลังจากการจัดประเภทรายการใหม่ อยู่ที่ 39,840 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.4% จากไตรมาสก่อน จากการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นของกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และธุรกิจโทรทัศน์บอกรับสมาชิก พร้อมกับการเติบโตอย่างต่อเนื่องของจำนวนผู้ใช้บริการ

สำหรับธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีรายได้จากการให้บริการภายหลังจากการจัดประเภทรายการใหม่ อยู่ที่ 31,540 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.4% จากไตรมาสก่อน โดยมีสาเหตุมาจากการปรับตัวอย่างต่อเนื่องของการแข่งขันในตลาด และการเติบโตของจำนวนผู้ใช้บริการ 

โดยผู้ใช้บริการระบบเติมเงินยังคงเติบโตแข็งแกร่งเป็นผลจากการกลับมาอย่างต่อเนื่องของนักท่องเที่ยวและแรงงานต่างด้าว อยู่ที่ 35.7 ล้านราย เพิ่มขึ้น 0.3 ล้านราย จากไตรมาสก่อน ในขณะที่ผู้ใช้บริการระบบรายเดือน ทรงตัวอยู่ที่ 15.7 ล้านราย ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมดเติบโต 0.5% จากไตรมาสก่อน โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/2566 มีญานผู้ใช้ยริการรวม 51.4 ล้านราย 

ขณะที่ธุรกิจออนไลน์ มีรายได้จากการให้บริการอยู่ที่ 5,910 ล้านบาท ลดลง 0.4% จากไตรมาสก่อน ในขณะที่ ARPU เพิ่มขึ้น 0.5% จากไตรมาสก่อน เป็นผลมาจากการปรับตัวของการแข่งขันในตลาด การเพิ่มคุณภาพของการได้มาซึ่งผู้ใช้บริการใหม่ผ่านการยกเลิกส่วนลดและการเพิ่มโอกาสจากการขายพ่วงหลังจากการควบรวมบริษัท

ในส่วนธุรกิจโทรทัศน์บอกรับสมาชิก มีรายได้จากการให้บริการอยู่ที่ 1,660 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8% จากไตรมาสก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจดนตรีและบันเทิงสืบเนื่องมาจากการจัดกิจกรรมในไตรมาส คิดเป็น 14% ของรายได้จากการให้บริการธุรกิจโทรทัศน์บอกรับสมาชิก รายได้ค่าสมาชิกและค่าติดตั้งคิดเป็น 71% ของรายได้จากการให้บริการธุรกิจโทรทัศน์บอกรับสมาชิก ซึ่งลดลงจากไตรมาสก่อน ขณะที่จำนวนผู้ใช้บริการลดลงเล็กน้อย 1% ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยต่อ ผู้ใช้บริการ (ARPU) ลดลง 0.5% จากไตรมาสก่อน

ทั้งนี้ ภาพรวมปี 2566 บริษัทคง Guidance สำหรับระยะเวลา 10 เดือนของการดำเนินงานนับจากวันที่มีการควบรวม โดยรายได้จากการให้บริการไม่รวมรายได้จากการเชื่อมต่อโครงข่าย (ตามการจัดประเภทรายการใหม่) ทรงตัว ขณะที่ EBITDA มีการปรับปรุงการเติบโตที่เป็นตัวเลขหลักเดียวในระดับต่ำ-ปานกลาง ส่วนเงินลงทุน อยู่ที่ประมาณ 25,000-30,000 ล้านบาท

บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่า มอง ‘บวกเล็กน้อย’ ต่อขาดทุนปกติไตรมาส 3/2566 ของ TRUE ที่ 1,650 ล้านบาท ดีกว่าตลาดคาด เพราะบันทึกค่าใช้จ่ายปรับโครงสร้างกิจการและภาษีต่ำกว่าคาด 

สำหรับขาดทุนปกติไตรมาส 3/2566 น้อยกว่าไตรมาสก่อนที่ 2,360 ล้านบาท เพราะรายได้บริการไม่รวม IC ฟื้นตัวต่อ และต้นทุนลงจากเริ่มเห็นผลบวกจากการทำ single grid ทั้งนี้แม้บริษัทจะยังคงเป้าหมาย EBITDA ปี 2566 โตต่ำๆ และไม่กังวลต่อประเด็นขายหุ้นกู้ไม่ครบจำนวน เพราะมีสภาพคล่องวงเงินกู้ยังไม่ใช้เหลืออีกมาก 

อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 4/2566 คาดมีโอกาสเห็นค่าใช้จ่ายส่วนในการปรับโครงสร้างมากขึ้น ดังนั้น ยังคงคาดผลการดำเนินงานช่วง 2-3 ไตรมาสข้างหน้า ยังไม่สดใส จึงคงแนะนำเพียง “Trading Buy” ราคาเป้าหมาย 8.10 บาท มองจังหวะสะสมหุ้นอยู่ในช่วงต้นปี 2567

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.