คู่หูคู่หุ้นเห็นพ้อง ศก.โลกถดถอย รอจังหวะลงทุนพันธบัตร-หุ้นดีมีปันผล

      นายกวี ชูกิจเกษม Head of Research and Content บล.พาย กล่าวในงาน Health & Wealth Expro 2023 ว่า ไม่ว่าตลาดหุ้นจะเหวี่ยงแค่ไหน ซึ่งแน่นอนว่าภาพตลาดหุ้นไทยเป็นขาลงและตลาดต่างประเทศอยู่ในช่วงขาลงเช่นกันสะท้อนกำไรบริษัทจดทะเบียนที่ปรับตัวลดลง ซึ่งในปีหน้าถ้ากำไร บจ.ลดลงตลาดหุ้นก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน ทั้งนี้จะเห็นว่าแบรนด์เนมในต่างประเทศยอดขายลดลงสะท้อนเงินของประชาชนลดลงเช่นกัน 

      วันนี้หนี้ในระบบที่จดบันทึกได้ของคนไทยเฉลี่ย 1 คนมีหนี้ 5 แสนบาท ซึ่งยังไม่รวมหนี้นอกระบบที่ไม่รู้ว่ามีเท่าไหร่ เศรษฐกิจไทยที่คิดว่าจะโต 4%ไม่ง่าย แบงก์ไม่อยากปล่อยกู้ ซึ่งการที่รัฐบาลจะกระตุ้นเศรษฐกิจแต่จะเอาเงินมาจากไหน อีกทั้งการปิดกองทุน LTF ทำให้สถาบันในประเทศไม่มีกระสุน จะเห็นว่าไม่มี LTF ตลาดหุ้นเหวี่ยงมาก แต่วันใดที่ตลาดเปิดกองทุนออมหุ้นระยะยาวถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่จะได้นำไปลดภาษีและกองทุนมีกระสุนในมือ  

      อย่างไรก็ดี นักลงทุนที่เป็นแนว VI สามารถถือลงทุนหุ้นที่ดีเพื่อถือลงทุนในระยะยาวได้ โดยไม่ต้องสนใจปัจจัยดังกล่าวข้างต้นได้เช่นกัน

      นายเผดิมภพ สงเคราะห์ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) กล่าวเช่นกันว่า เราเริ่มได้ยินคำว่า “เศรษฐกิจโลกถดถอย” มานาน 2-3 เดือนแล้ว ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณ จนมาถึงตอนนี้ว่าเศรษฐกิจเริ่มหดตัว ตัวเลขชี้นำจากตัวเลข PMI ภาคการผลิต และภาคการบริการของโลก ล่าสุด ออกมาเห็นชัดเจนว่าช่วงไตรมาส 4/66 ถึงไตรมาส 1/67 มีแนวโน้มเศรษฐกิจโลกหดตัว ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนควรสำรวจก่อนตัดสินใจซื้อหุ้น

      “ในมุนมองการลงทุนหุ้น ควรติดตามปัจจัยพื้นฐาน เช่น แนวโน้มเศรษฐกิจโลกหดตัว ซึ่งส่งสัญญาณมานาน และต่อมา ยังมีสัญญาณการจ้างงานอเมริกาออก ตัวเลขลดลง จึงทำให้หุ้นไม่ได้ขึ้น แต่ตัวที่ขึ้นแรงสุด คือ พันธบัตรอเมริกา หากลงทุนในพันธบัตรวันนั้น ที่ยีลด์ 5% ขณะนี้ 4.5% จะทำให้นักลงทุนได้กำไรจากการลงทุนพันธบัตรกว่า 10% และนักลงทุนที่มีหลักการลงทุนที่ดี คือ โยกสินทรัพย์จากหุ้นมาสู่ตราสารหนี้”

      ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจรายไตรมาสของไทยเติบโตดีขึ้น แต่เงินเฟ้อติดลบ ทำให้หุ้นไม่ขึ้น เพราะเงินเฟ้อติดลบ นักลงทุนต่างมองไทย และจีน คล้ายญี่ปุ่น ปี 1990 เหตุผลที่หุ้นจีน และหุ้นไทยขึ้นได้ช้า เนื่องจากเงินเฟ้อต่ำเกินไป ฉะนั้น พฤติกรรมการซื้อขายตอนนี้ มองว่าลำบากจากการลงทุนในหุ้น โดยบางกลุ่มสามารถขึ้นได้ดี แต่ตอนนี้จะเกิดคำว่าเศรษฐกิจถดถอยของอเมริกาในอีก 2 ไตรมาสข้างหน้า จึงแนะนำว่าควรซื้อหุ้น แต่ต้องรอจังหวะที่เหมาะสม

      ส่วนแนวโน้มลงทุนจากนี้ มองว่าการซื้อพันธบัตรโดยตรงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด คนที่ซื้อหุ้นกู้ยังมีความเสี่ยง โดยพันธบัตรอเมริกาที่ครบอายุช่วงเดือนก.พ.-ต.ค.67 ผลตอบแทนประมาณ 4-5% ส่วนผลตอบแทนพันธบัตรของไทยประมาณ 3% ซึ่งหากหาหุ้นที่มีความสัมพันธ์กับพันธบัตรรัฐบาลที่มีทิศทางปรับตัวลดลง ต้องหาสินทรัพย์ หรือหุ้นที่ได้รับผลตอบแทนเทียบเท่ากับพันธบัตร

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.