เก็บตกหลังเกม! ลิเวอร์พูล 9 ตัวบุกพ่าย สเปอร์ส ทดเจ็บแบบสุดช้ำศึกพรีเมียร์ลีก
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่เหลือผู้เล่นเพียงแค่ 9 คน พลาดแบ่งแต้มหลังจากที่มาเสียประตูในช่วงทดเจ็บทำให้บุกแพ้ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ไปแบบสุดช้ำ 1-2 ในการแข่งขันพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา เราลองไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นในเกมกันบ้าง
ใบแดงแรกพอเข้าใจ
เกมนี้เริ่มไปได้เพียง 26 นาทีก็มีจังหวะเจ้าปัญหาแรกเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วสำหรับจังหวะทำฟาวล์ของ เคอร์ติส โจนส์ ที่เปิดปุ่มย่ำเข้าไปที่หน้าแข้ง ปาป ซารร์ ที่ตอนแรก ไซมอน ฮูเปอร์ ให้เป็นใบเหลืองแต่หลังจากไปดู VAR ก็ปรับเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป ซึ่งก็น่าเห็นใจเพราะเป็นจังหวะที่ โจนส์ เองก็เหยียบบอลก่อนไถลฟอลโลวไปยันใส่แข้ง สเปอร์ส แต่ก็ยังถือว่าเข้าใจได้เพราะว่ามันรุนแรงถ้าจะให้เป็นใบแดงก็ไม่น่าเกลียด
Simon Hooper, Curtis JonesTottenham Hotspur v Liverpool FC - Premier League / Ryan Pierse/GettyImages
ประตูของ ดิอาซ นี่แหละที่เรื่องใหญ่
หลังจากใบแดงของ โจนส์ ไม่นานมีจังหวะที่เชื่อว่าแฟน ลิเวอร์พูล คงจะข้องใจมากที่สุดกับการที่ หลุยส์ ดิอาซ หลุดเข้าไปยิงสวนตัว วิคาริโอ เข้าประตูไป อย่างที่ทราบกันว่าผู้ตัดสินยกธงว่าเป็นลูกล้ำหน้า แต่... หลังจากดูภาพช้าในมุมกล้องที่ถ่ายทอดสด ดูยังไงก็ไม่ล้ำแน่นอน ซึ่งมันแย่ตรงที่ไม่มีการเช็ค VAR ใด ๆ ไม่มีการทักท้วงหรือการวิ่งไปดูจอ และที่น่าเจ็บใจที่สุดคือไม่มีแม้แต่การตีเส้นพิสูจน์ความโปรงใส จนกลายเป็นว่าแฟนบอลต้องมาวาดเส้นกันเองพร้อมกับเครื่องหมายคำถามที่ว่าจะมี VAR ไว้เพื่ออะไรถ้ามันมีข้อขุ่นเคืองโจ้งแจ้งขนาดนี้ ชนิดที่สุดท้ายแฟนบอลต้องมาแค็ปรูปตีเส้นพิสูจน์กันเองเต็มโลกอินเทอร์เน็ตไปหมดแบบนี้
Luis DiazTottenham Hotspur v Liverpool FC - Premier League / Marc Atkins/GettyImages
ใบแดงสองโทษใครไม่ได้
เริ่มครึ่งหลังไม่ทันไรตัวสำรองที่เพิ่งลงมาใหม่อย่าง ดิโอโก้ โจต้า ที่ถูกเปลี่ยนแทน โคดี้ กัคโป ตอนพักครึ่ง คงจะเล่นชิวไปหน่อยไล่ตัดเกมเพลินจนมาโดนใบเหลืองสองใบติดกันภายในเวลาเพียง 1 นาทีชนิดที่ตัดเกมชัดเจนแบบไม่โดนบอลเลยทั้งสองครั้ง แน่นอนนั่นทำให้ หงส์แดง เหลือผู้เล่น 9 คนช่วง 20 นาทีสุดท้าย ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกในรอบกว่าสิบปีเลยที่เดียว โดยล่าสุดที่พวกเขาโดนไล่ออกสองคนในเกมเดียวต้องย้อนกลับไปในเดือน กันยายน ปี 2011 ที่ ชาร์ลี อดัมส์ และ มาร์ติน สเคอร์เทล โดนใบแดงซึ่งนั่นก็เป็นเกมที่บุกแพ้ให้กับ ไก่เดือยทอง เช่นเดียวกัน
Diogo JotaTottenham Hotspur v Liverpool FC - Premier League / Ryan Pierse/GettyImages
นาทีบาป...
ต้องยอมรับจริง ๆ ว่าเกมนี้ ลิเวอร์พูล เล่นได้ดีตลอดทั้งเกมทั้งช่วงที่มี 11 คนเท่ากันพวกเขาก็เปิดเกมบุกเข้าใส่อย่างหนักและสร้างโอกาสสวย ๆ ได้หลายครั้ง หรือแม้แต่ตอนเหลือ 10 พวกเขาก็ยังมีโอกาสเกือบออกนำจากจังหวะของ ดิอาซ หรือแม้แต่หลังจากโดนนำพวกเขาก็มีดีมากพอจะไล่ตีเสมอได้สำเร็จ ยิ่งกว่านั้นตอนเหลือ 9 คน คล็อปป์ ก็ปรับแผนมาเล่นรถบัสและรอสวนกลับอย่างเต็มตัว ซึ่ง สเปอร์ส เองก็คงจะกลัวโดนสวนทำให้ไม่กล้าเปิดหน้าแลกอย่างเต็มตัว จนกระทั่งท้ายเกมเกมเหมือนจะจบลงด้วยผลเสมอ แต่แล้วช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย โจเอล มาติป ที่คุมพื้นที่มาได้ดีทั้งเกมกลับสะกัดลูกเปิดที่แทบจะเป็นโอกาสสุดท้ายของเกมเสียบใต้คานประตูตัวเองส่งมอบ 3 คะแนนให้ ไก่เดือยทอง ไปแบบน่าเจ็บใจสุด ๆ ในนาทีบาปอย่างแท้จริงของค่ำคืนนี้
Joel MatipTottenham Hotspur v Liverpool FC - Premier League / Matthew Ashton - AMA/GettyImages
หงส์แดง พลาดจ่าฝูง ไก่เดือยทอง จี้ตูด เรือใบ
ความปราชัยของ ลิเวอร์พูล ในเกมนี้ทำให้พวกเขามี 16 คะแนนเท่าเดิมรั้งอันดับ 4 ของตาราง เสียสถิติไร้พ่ายเป็นที่เรียบร้อยทั้งที่ก่อนเกมพวกเขามีโอกาสขึ้นนำจ่าฝูงเพราะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เองก็พลาดท่าพ่ายต่อ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-1 ในช่วงหัวค่ำและมี 18 คะแนนเท่าเดิม ขณะที่ สเปอร์ส ที่คว้า 3 คะแนนมาได้อย่างหวุดหวิดในเกมนี้ก็บวกเพิ่มเป็น 17 แต้มขยับขึ้นมารั้งรองจ่าฝูงเป็นที่เรียบร้อย
Juergen KloppTottenham Hotspur v Liverpool FC - Premier League / Ryan Pierse/GettyImages
- ผลบอล สเปอร์ส พบ ลิเวอร์พูล
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.