โมเมนต์สุดประทับใจ! "จาง หยูเฟย" ร่ำไห้กอด "อิคิเอะ" หลังสู้มะเร็งคืนสระรอบ 4 ปี (ภาพ)

กลายเป็นภาพความประทับใจที่ถูกถ่ายทอดไปทั่วโลกในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2022 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ในช่วงค่ำคืนสุดท้ายของการแข่งขันว่ายน้ำชิงเหรียญทองในมหกรรมกีฬาครั้งนี้

โดยในรอบชิงหรียญทอง ประเภทว่ายน้ำผีเสื้อ 50 เมตร หญิง ได้เกิดโมเมนต์สุดประทับใจที่แสดงถึงมิตรภาพของเหล่านักกีฬาหลังจบการแข่งขันที่ จาง หยูเฟย เงือกสาวเจ้าถิ่นว่ายแตะขอบสระเป็นคนแรกหยิบเหรียญทองไปครองด้วยเวลา 25.10  วินาที


ขณะที่อันดับ 2 ตกเป็นของ หยู ยิถิง นักว่ายน้ำเพื่อนร่วมชาติที่ทำเวลา 25.71 วินาที และอันดับ 3 เป็นของ ริกาโกะ อิคิเอะ นักว่ายน้ำชาวญี่ปุ่น ที่ทำเวลาได้ 26.02 วินาที ท่ามกลางความดีใจของกองเชียร์เจ้าถิ่น

แต่ภาพที่แฟนๆ ทั่้วโลกได้เห็นก็คือ จาง หยูเฟย นักว่ายน้ำเจ้าภาพ ได้เดินเข้าไปกอดกับ ริกาโกะ อิคิเอะ เงือกสาวญี่ปุ่นพร้อมทั้งร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจที่เพื่อนร่วมวงการของเธอสามารถกลับมายืนบนโพเดี้ยมได้อีกครั้ง

โดย ริกาโกะ อิคิเอะ นักกีฬายอดเยี่ยม (MVP) ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2018 ที่จาการ์ตา อินโดนีเซีย เจ้าของ 6 เหรียญทองในกีฬาว่ายน้ำ ต้องต่อสู้กับโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (ลูคีเมีย) ตั้งแต่เมื่อปลายปี 2019 ก่อนรักษาตัวและกลับมาลงแข่งขันได้อีกครั้ง


ซึ่งเหรียญทองแดงนี้ถือเป็นเหรียญแรกของเธอในเวทีระดับนานาชาติหลังจากที่หายจากโรคลูคีเมีย และแม้ว่ามันจะเทียบไม่ได้กับการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ครั้งก่อน แต่การได้กลับสู่โพเดี้ยมของเธออีกครั้งทำให้ทั่วโลกรับรู้ได้ถึงความใจสู้ของเธอที่ต้องใช้เวลากว่า 1 ปี ในการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล

"ฉันบอกริกาโกะ อย่าร้องไห้ อย่าร้องไห้นะ ในขณะที่โฆษกประกาศชื่อของเธอบนแท่นรับรางวัล แต่กลับกลายเป็นฉันที่กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ฉันพยายามบอกตัวเองว่าจะร้องไห้ออกกล้องไม่ได้ แต่หลังจากที่ได้เห็นภาพความพยายามของเธอที่ทำให้กลับมายืนอยู่บนเวทีระดับชาติได้อีกครั้ง ฉันก็ร้องไห้ไปแล้ว" จาง หยูเฟย นักว่ายน้ำจีน กล่าวพร้อมน้ำตา


ขณะที่ ริกาโกะ อิคิเอะ ที่สามารถกลับมายืนบนเวทีระดับนานาชาติได้อีกครั้งกล่าวว่า "ฉันอยากได้เหรียญรางวัลนี้จริงๆ แม้ว่าเวลาของฉันจะไม่ดีนัก แต่ฉันตัดสินใจว่าเป้าหมายของฉันในครั้งนี้คือการได้รับเหรียญอย่างน้อยหนึ่งเหรียญก่อนที่จะกลับบ้าน ฉันดีใจที่สุดท้ายแล้วฉันก็ทำมันได้สำเร็จ"

สำหรับภาพของทั้งคู่ได้รับการถ่ายทอดออกสู่สายตาชาวโลกอย่างมากมาย เนื่องจากมันเป็นความประทับใจที่พิสูจน์ให้เห็นว่า กีฬาสร้างมิตรภาพ และไม่มีเรื่องของเชื้อชาติมาเป็นข้อจำกัดแต่อย่างใด

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.