'พิชัย' ชี้น้ำมันดิบมีโอกาสทะลุ100เหรียญแนะรัฐบาลหาทางรับมือ
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และการเมือง พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบได้พุ่งขึ้นทะลุ 93 เหรียญต่อบาเรลแล้ว และยังมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นไปอีก โดยเฉพาะประเทศฝั่งตะวันตกกำลังจะเข้าสู่หน้าหนาวซึ่งจะทำให้ราคาพลังงานยิ่งมีราคาสูงขึ้น และมีโอกาสสูงที่ราคาน้ำมันดิบจะพุ่งขึ้นทะลุ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาเรลในอีกไม่นานนี้ ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะส่งผลทำให้เกิดเงินเฟ้อมากขึ้น และจะยิ่งถ่วงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังย่ำแย่
นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นจะทำให้กองทุนน้ำมันของไทยที่ปัจจุบันติดลบอยู่กว่า 6 หมื่นล้านบาทแล้ว อาจทะลุเกิน แสนล้านบาทในเวลาอีกไม่นานนัก จากการที่กองทุนน้ำมันต้องไปสนับสนุนราคาน้ำมันดีเซลอยู่ถึงประมาณลิตรละ 7-8 บาทในปัจจุบัน ซึ่งประเทศไทยใช้น้ำมันดีเซลเฉลี่ยวันละ 74 ล้านลิตร หรือ จะติดลบถึงเดือนละกว่าหมื่นหกพันล้านบาท อีกทั้งก๊าซแอลเอ็นจีที่ใช้ผลิตไฟฟ้าก็มีแนวโน้มที่ราคาจะเพิ่มขึ้น ดังนั้นรัฐบาลอาจจะต้องเตรียมหาทางรับมือในเรื่องนี้
นอกจากนี้ ปัญหาเศรษฐกิจของโลกที่ยังย่ำแย่ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจของประเทศจีน จากปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่มีการก่อสร้างมากเกินความต้องการเป็นจำนวนมาก
อีกทั้งปัญหาหนี้เสียของธนาคารเงา (Shadow Banking)ในจีน ทำให้เศรษฐกิจจีนย่ำแย่และอาจจะต้องใช้เวลาอีกนานในการแก้ไข ซึ่งจะส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะเศรษฐกิจไทยที่พึ่งพาเศรษฐกิจจีนค่อนข้างมาก ทั้งการส่งออกและการท่องเที่ยว
ทำให้ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ไม่น่าจะดีนักและน่าจะขยายตัวต่ำกว่าการคาดการณ์ของธนาคารแห่งประเทศไทยค่อนข้างมาก หลังจากที่ไตรมาสที่สองของปีนี้ เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เพียง 1.8% เท่านั้น โดยการส่งออกที่จะติดลบในปีนี้ โดยการส่งออกได้ติดลบไปแล้ว - 5.5% ตั้งแต่ต้นปี และการท่องเที่ยวที่จะต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้จะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยลดลงมาก
ดังนั้น การที่รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาในหลายด้านพร้อมกันเป็นแนวทางที่ถูกต้อง ทั้งการเร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยว การยกเว้นวีซ่านักท่องเที่ยวจากจีนและคาซัคสถาน การพักหนี้เกษตรกร และ ธุรกิจ SMEs การพบนักลงทุนรายใหญ่โตจากต่างประเทศเพื่อโน้มน้าวให้มาลงทุนในไทย การเร่งเจรจาเขตการค้าเสรี การเร่งเพิ่มการส่งออก เป็นทิศทางที่ถูกต้องและยังมีแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอีกมาก
ทั้งนี้ได้แต่หวังว่าเศรษฐกิจโลกที่ย่ำแย่โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนที่จะทรุดหนักจะไม่ส่งผลกระทบกับประเทศไทยมากเกินไปนัก ซึ่งอาจจะทำให้มาตรการต่างๆที่ออกมาอาจจะยังไม่ได้ผลเท่าที่ควร แต่แนวทางที่ทำอยู่ถือว่ามาถูกทางแล้ว
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.