ผบ.ทร.ปัดล็อกสเปคบริษัทนามสกุล“หนุนภักดี”กู้เรือหลวงสุโขทัย

พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เปิดเผยว่า การกู้เรือหลวงสุโขทัยเดิมได้มีการยื่นซองประมูลมาแล้วเมื่อต้นเดือน ก.ย.66 แต่16บริษัทที่เสนอเข้ามาส่งเอกสารเข้ามาไม่ครบ คณะกรรมการเปิดซองสอบราคา จึงกำหนดให้แต่ละบริษัทยื่นซองใหม่เพื่อความเป็นธรรม  

"ไม่มีการล้มประมูล ไม่มีการเปลี่ยนแปลงทีโออาร์ ดังนั้น บริษัทที่มาเสนอจึงเท่าเทียมกันหมด เหมือนเริ่มต้นใหม่ ให้ยื่นซองจนถึงกลางเดือนต.ค.2566 ถือเป็นความเท่าเทียม จึงไม่ได้มีการเปลี่ยนหรือล้มประมูลใดๆ" ผบ.ทร. กล่าว

ส่วนงบประมาณที่ตั้งไว้ 200 ล้านบาทเป็นราคากลางมีบริษัทที่สามารถทำได้ตามระเบียบ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯโดยได้มีการจัดสรรงบเรียบร้อยแล้ว แบ่งเป็นงบกลางและงบของกองทัพเรือ หากข้ามปีงบประมาณ ก็สามารถขยายงบไปใช้ในปีงบประมาณหน้าได้เป็นหน้าที่ของ ผบ.ทร. คนใหม่

เมื่อถามว่า จะไม่มีการการล็อกสเปคให้กับบริษัทที่นามสกุล"หนุนภักดี"ใช่หรือไม่ ผบ.ทร. ชี้แจงว่า “ไม่มีหรอกครับ คนนี้แค่นามสกุลพ้องกันเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน”

ก่อนนี้ ในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา นายจิรัฏฐ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ร่วมอภิปรายในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกองทัพ ตอนหนึ่งถึงการกู้ รล.สุโขทัย ว่า กองทัพเรือเปิดประมูลกู้ รล.สุโขทัย หลังจัดสรรงบได้ 200 ล้าน มีผู้ยื่นซองประมูล 15-16 เจ้า โดยนัดยื่นซอง 25 ส.ค. 66 แต่มีบริษัทหนึ่งยื่นซอง 28 ส.ค. 66 และเจ้าหน้าที่เซ็นต์รับรองให้

ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ก.ย. 66 มีประกาศ‘กองเรือยุทธการ’ยกเลิกประมูล ไม่แจงเหตุผล ไม่ทำ TOR ไม่เปิดเชิญชวนใหม่ แต่ให้คนเคยยื่นซองยื่นไปใหม่ ราคาเดิม ทั้งนี้ พบว่าบริษัทสุดท้ายที่ยื่นซองเพิ่งจดจัดตั้ง 9 ม.ค.66 แต่ทำหนังสือถึง ผบ.ทร. 2ม.ค.66 และพบว่า กรรมการใหญ่เป็นคุณหญิง นามสกุลเดียวกับ ผบ.สส.คนใหม่ จึงขอตั้งคำถามว่ามีเจตนาควบคุมผลการตรวจสอบกู้ซากเรือหรือไม่

เมื่อวันที่ 13 ก.ย.2566 พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งนามสกุลเดียวกันกับกรรมการใหญ่ เป็นคุณหญิง ในบริษัทว่าที่ได้สัมปทานในการกู้เรือหลวงสุโขทัย เคยให้สัมภาษณ์ว่า “ขออนุญาตไปอ่านข่าวก่อน ตอนนี้ยังไม่ทราบจริงๆ จึงขอไปดูข้อมูลก่อน เดี๋ยวมาคุยกัน"