กางแผน'วราวุธ ศิลปอาชา' ขับเคลื่อนงานพม.องค์กรสร้างคนคุณภาพ
ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) แถลงนโยบาย "พม. พอใจ : ให้ทุกวัยพึงใจใน พม." โดยมี นางสุวรรณา ศิลปอาชา ภริยา ผู้บริหารกระทรวงพม. คณะที่ปรึกษาเข้าร่วมรับฟัง นอกจากนี้ยังมีการถ่ายทอดสดไปยัง หน่วยงานต่างๆของกระทรวงพม. ในต่างจังหวัดได้ร่วมรับฟังด้วย
นายวราวุธ กล่าวตอนหนึ่งว่า การขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หัวใจสำคัญในการทำงานมีอยู่ 3 ข้อ
1. การทำงานตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ทำให้เงินภาษีของประชาชนเกิดประโยชน์ที่สุด โดยตนจะไม่ยอมรับกับการคอรัปชั่นและการทุจริตใดๆ ทั้งสิ้น
2. สนับสนุน แก้ไขปัญหาอุปสรรคในการทำงานของเจ้าหน้าที่
3. การทำงานต้องมีความแม่นยำ รวดเร็ว และสร้างความเปลี่ยนแปลง โดยนำเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ และคิดนอกกรอบมาเปลี่ยนจากกระทรวงที่ถูกมองเป็นกระทรวงสังคมสงเคราะห์ กระทรวงเกรดต่ำ ให้เป็นกระทรวงที่ดึงศักยภาพคนทุกกลุ่มให้เป็นทรัพยากรบุคคล เป็นต้นทุนของสังคมไทย ดูแลให้กลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุสามารถปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals–SDGs) ซึ่งมีอยู่ 17 ข้อ ซึ่งมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานของพม.ถึง 8 ข้อ
นายวราวุธ กล่าวว่า ทั้งนี้เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ จะมีการปรับปรุงกฎหมาย 3 ฉบับ คือ
1.พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ที่ให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการเด็กเล็กมากขึ้น
2.พ.ร.บ คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัวเพื่อลดความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นในสังคมไทย
และ 3.พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการทั้งในส่วนของการบริหารและการจัดการกองทุนให้มีความเข้มแข็งใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดนั้นต้องส่งเสริมให้เด็ก 0-6 ขวบกว่า 4 ล้านคน เข้าถึงสิทธิ์นี้อย่างครอบคลุม
นายวราวุธ กล่าวว่า นอกจากนี้ต้องยกระดับศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ให้โตมาอย่างมีคุณภาพ ผู้ดูแลต้องมีศักยภาพในการทำให้ช่วง 3 ปีแรกของชีวิตมีการพัฒนาเซลล์สมองให้มากที่สุด ส่วนกลุ่มเยาวชน ต้องเปิดพื้นที่ให้สามารถค้นหาตัวตน ขณะเดียวกันก็สร้างกลไกครอบครัวอุปถัมภ์ ที่แข็งแรงสามรถแก้ปัญหาให้กับเด็กกลุ่มเปราะบางได้ โดยเฉพาะเด็กที่หลุดจากระบบ โดยไม่เจาะจงว่าเป็นเคสไหน ครอบครัวอุปถัมภ์ที่จะเข้ามาดูแล หรือคนที่จะมาเป็นผู้ปกครอง ต้องไม่ใช่แค่คนที่ให้ที่นอน ให้อาหารเท่านั้น แต่ต้องเข้าใจเด็กเปลี่ยนมายเซ็ตของเด็กให้ดีด้วย ทั้งนี้จะมีการจัดทำโครงการศิลปะบำบัดมาใช้ นำร่องในกลุ่มเด็ก 3 จังหวัดชายแดนใต้
นายวราวุธ กล่าวด้วยว่า ส่วนวัยทำงาน จะให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำงานด้วยการจัดโครงการบ้านตั้งตัว โดยให้การเคหะแห่งชาติ (กคช.) สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ประสานเช่าตึกที่ไม่ได้ใช้งานในพื้นที่ต่างๆ มาปรับปรุงเป็นห้องเช่าคาคาถูก และในส่วนของนิคมสร้างตนเอง จะต้องพัฒนาศักยภาพคนในนิคมฯ ให้สามารถยืนบนขาด้วยตนเอง พัฒนาอาชีพสร้างมูลค่า ผ่านโครงการสร้างคุณค่าไทยในครอบครัวและชุมชน ดึงลูกหลานกลับมาสู่ครอบครัวและชุมชนเพื่อสร้างความอบอุ่น ขณะเดียวกันในกลุ่มผู้สูงวัย จะต้องเตรียมวันทำงานให้เป็นผู้สูงอายุแบบมีเงิน และจัดตั้งศูนย์ผู้บริบาลผู้สูงอายุในชุมชน
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.