เนชั่นโพลครั้งที่1 หลังจัดตั้งรัฐบาลเศรษฐา คนไทย 'เชื่อมั่นปานกลาง'

เนชั่นโพล ร่วมกับ สถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา (IFD) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ความเชื่อมั่นในการบริหารงานของรัฐบาลหลังแถลงนโยบาย 2566” โดยดำเนินการสำรวจในช่วงวันที่ 14-16 กันยายน 2566 ในกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป  กระจายทุกภูมิภาค อาชีพ และระดับการศึกษา ทั่วประเทศ รวมจำนวน 1,227 ตัวอย่าง
 

การสุ่มตัวอย่างใช้การสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็น โดยสุ่มตัวอย่างด้วยวิธี Stratified Five-Stage Random Sampling แต่ละตัวอย่างที่ถูกเลือกมีค่าถ่วงน้ำหนัก (sampling weight) ที่แตกต่าง วิธีการสำรวจเป็นแบบผสม โดยลงพื้นที่สำรวจ 50% และสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ 50% ค่าความผิดพลาด (error) ของการสำรวจอยู่ที่ 3%  ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
 

ผลการสำรวจ

1.ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ในการบริหารประเทศ หลังรับฟังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา พบว่า ประชาชน ร้อยละ 45.89 มีความเชื่อมั่นปานกลาง ร้อยละ 23.26 ไม่ค่อยเชื่อมั่น และ ร้อยละ 13.40 ไม่เชื่อมั่นเลย ในขณะที่ มีประชาชนเพียง ร้อยละ 12.99 เชื่อมั่นมาก และร้อยละ 4.45 เชื่อมั่นมากที่สุด 
 
2.นโยบายที่ประชาชนอยากให้รัฐบาลทำมากที่สุด 10 อันดับแรก
คือ
1) ลดค่าพลังงาน ไฟฟ้า น้ำมัน ก๊าซหุงต้ม    (ร้อยละ 24.01)
2) เติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet     (ร้อยละ 20.73)
3) แก้ปัญหาหนี้สิน พักหนี้เกษตรกร แก้หนี้สิน SMEs ที่ได้รับผลจากโควิด-19 (ร้อยละ 14.48)
4) เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ภายใน 4 ปี    (ร้อยละ 7.08)
5) ยกระดับ 30 บาท รักษาทุกโรค ใช้บัตรประชาชนใบเดียว (ร้อยละ 5.74)
6) เงินเดือนปริญญาตรี 25000 บาท ภายใน 4 ปี (ร้อยละ 4.91)
7) ปลุกท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ    (ร้อยละ 4.60)
8) ปฏิรูปการศึกษา ส่งเสริมวิจัยและเรียนรู้ตลอดชีวิต    (ร้อยละ 2.70)
9) ปราบยาเสพติด ยึดทรัพย์ผู้ผลิตและผู้ค้า เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย    (ร้อยละ 2.47)
10) สร้างรายได้เกษตรกรรม การประมง และปศุสัตว์ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้(ร้อยละ 1.90)

เมื่อพิจารณาความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะทำให้นโยบาย 10 อันดับแรกที่โดนใจประชาชน ให้สำเร็จ พบว่า 

นโยบายที่โดนใจประชาชน ที่ประชาชนมากกว่าครึ่งให้ความเห็นว่า “เป็นนโยบายที่รัฐจะทำได้อย่างแน่นอน” ดังนี้  

1) สร้างรายได้เกษตรกรรม การประมง และปศุสัตว์ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” (ร้อยละ 52.72)  
2) ปราบยาเสพติด ยึดทรัพย์ผู้ผลิตและผู้ค้า เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย (ร้อยละ 51.08)
3) เติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet (ร้อยละ 50.68)
4) ยกระดับ 30 บาท รักษาทุกโรค ใช้บัตรประชาชนใบเดียว (ร้อยละ 50.44)

ส่วน นโยบายที่โดนใจประชาชน ที่ประชาชนมากกว่าครึ่งให้ความเห็นว่า “เป็นโยบายที่ไม่ค่อยแน่ใจว่ารัฐบาลจะทำได้” ดังนี้   

1) เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ภายใน 4 ปี (ร้อยละ 67.94)
2) ปฏิรูปการศึกษา ส่งเสริมวิจัยและเรียนรู้ตลอดชีวิต (ร้อยละ 63.68)
3) เดือนปริญญาตรี 25,000 บาท ภายใน 4 ปี (ร้อยละ 63.34)
4) ลดค่าพลังงาน ไฟฟ้า น้ำมัน ก๊าซหุงต้ม (ร้อยละ 61.41)
5) แก้ปัญหาหนี้สิน พักหนี้เกษตรกร แก้หนี้สิน SMEs ที่ได้รับผลจากโควิด-19 (ร้อยละ 57.08)

3. นโยบายที่ประชาชนไม่อยากให้รัฐบาลทำมากที่สุด 10 อันดับแรก คือ

1) กัญชาทางการแพทย์และสุขภาพเพื่อสร้างมูลค่า ในเชิงเศรษฐกิจ (ร้อยละ 28.02)
2) เติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet (ร้อยละ 21.14)
3) แก้รัฐธรรมนูญ โดยไม่แก้หมวดสถาบันพระมหากษัตริย์ มีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย ทำประชามติ โดยให้ประชาขนมีส่วนร่วม (ร้อยละ 10.21)
4) รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย (ร้อยละ 6.35) 
5) บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยังมีอยู่ บัตรคนจน (ร้อยละ 4.62)
6) เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ภายใน 4 ปี (ร้อยละ 3.46)
7) พัฒนาหน่วยมั่นคง&กองทัพทันสมัย เช่น เกณฑ์ทหารสมัครใจ เรียน รด. ได้มาตรฐาน ลดทหารชั้นสัญญาบัตรระดับสูง  (ร้อยละ 3.24)
8) ไม่มีนโยบายที่น่าผิดหวัง (ร้อยละ 3.08) 
9) ผลักดันกฎหมายสนับสนุนสิทธิและความเท่าเทียม    (ร้อยละ 1.96)
10) เปิดประตูการค้า เจรจา FTA        (ร้อยละ 1.95)

4.รัฐมนตรีที่แถลงและชี้แจงนโยบาย ได้โดนใจประชาชนมากที่สุด  5 อันดับแรก  ได้แก่ 
1)    เศรษฐา ทวีสิน      (ร้อยละ 49.02)
2)    ไม่มีใครที่โดนใจ     (ร้อยละ 11.38) 
3)    อนุทิน ชาญวีรกูล      (ร้อยละ 6.31)
4)    นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว      (ร้อยละ 4.96)
5)    สุทิน คลังแสง       (ร้อยละ 3.38)

5.รัฐมนตรีที่แถลงและชี้แจงนโยบาย ได้น่าผิดหวังมากที่สุด  5 อันดับแรก ได้แก่ 
1)    อนุทิน ชาญวีรกูล      (ร้อยละ 26.94)  
2)    ไม่มีใครที่น่าผิดหวัง    (ร้อยละ 19.30)
3)    เศรษฐา ทวีสิน          (ร้อยละ 13.57)
4)    นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว     (ร้อยละ 9.49)
5)    สุทิน คลังแสง          (ร้อยละ 5.05)

6.ความเชื่อมั่นในการทำหน้าที่ฝ่ายค้านของพรรคก้าวไกลและพรรคประชาธิปัตย์ พบว่า ประชาชน ร้อยละ 52.02 มีความเชื่อมั่นอย่างแน่นอน และ 42.28 ไม่แน่ใจ  ตามลำดับ 

7.ส.ส. ฝ่ายค้านที่แถลงและชี้แจงนโยบาย ได้โดนใจมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 
1)    วิโรจน์ ลักขณาอดิศร     (ร้อยละ 26.28) 
2)    รังสิมันต์ โรม     (ร้อยละ 25.97)
3)    ชัยธวัช ตุลาธน    (ร้อยละ 10.91)
4)    ชวน หลีกภัย     (ร้อยละ  8.45)
5)    พริษฐ์ วัชรสินธุ    (ร้อยละ  4.62)

คลิ๊กอ่าน เนชั่นโพล Nation Poll
 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.