'ชัชชาติ'พบ'อนุทิน'เชื่อปมหนี้มรถไฟฟ้าสีเขียวมีทางออกดีที่สุด
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำคณะผู้บริหารกทม. เข้าพบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นานกว่า 1ชั่วโมง พร้อมรับประทานอาหารร่วมกัน
นายชัชชาติ ได้เปิดเผยว่า วันนี้ก็มาแสดงความยินดี เป็นการมาพูดคุยต่อเนื่องจากที่หารือกับนายกรัฐมนตรี เพราะรมว.มหาดไทยเป็นคณะทำงานเร่งรัดพัฒนากรุงเทพด้วย ที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งและกทม.กับมหาดไทยก็มีเรื่องที่จะต้องประสานงานกัน และสัปดาห์หน้าจะมาพูดคุยในรายละเอียดอีกครั้ง เช่น เรื่องสายสื่อสารลงดิน การเปลี่ยนหลอดไฟฟ้าแอลอีดีทั้งกรุงเทพให้ประหยัดพลังงาน เพื่อให้เกิดการลดค่าไฟ หากเปลี่ยนได้จะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ด้วยรวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ที่ กทม.จะต้องร่วมมือกัน
ทั้งนี้ นายชัชชาติ ยังได้แชร์ประสบการณ์เรื่องทราฟฟี่ฟองดูร์ ให้ฟังด้วย และมองว่าหากนำแอพพิเคชั่นไปขยายใช้ต่อทั้งประเทศได้ ก็จะทำให้การแก้ไขปัญหาอย่างไร้รอยต่อ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นประโยชน์ที่ดี
เมื่อถามว่า การทำงานกับรัฐมนตรีมหาดไทยยุคนี่ดีกว่ายุคที่ผ่านมาหรือไม่ นายชัชชาติ มองว่า ก็ดีทุกยุค และเราเป็นเพื่อนกัน รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กก็ทำงานร่วมได้ แล้วท่านตัดสินใจไว และคิดว่าน่าจะเป็นการร่วมมือที่ดี
ส่วนเรื่องรถไฟฟ้า มองว่าทุกอย่างมีทางออก และรองนายกฯอนุทิน เองทีข้อมูลละเอียด สัปดาห์หน้าจะมาหารือกันอีกครั้ง
ขณะที่นายอนุทิน บอกว่า เรื่องรถไฟฟ้า ต้องทำตามกฎหมายทุกอย่าง ถ้ามาบรรจบกันก็แก้ไขปัญหาได้ เป็นไปตามกฎหมายและมีความชอบธรรมและเรื่องนี้เป็นปัญหา ไม่ได้มาจาก ม.44 เพราะ ม.44สั่งให้ไปทำอย่างไร้รอยต่อ แต่ปัญหามันมีทั้งระบบก็ต้องมาหารือกัน และได้นัดหมายกับผู้ว่าชัชชาติว่าจะเร่งสะสางปัญหาโดยเร็ว ซึ่งทุกอย่างจะต้องทำตามกฎหมายและทำตามระเบียบ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับชาวกทม.
ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ มีความยากเรื่องที่มาที่ไปและต้องใช้ข้อมูลทุกอย่างที่มีอยู่ โดยจะต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาไม่ใช่เพิ่มปัญหา โดยจะต้องหารือในรายละเอียดทั้งหมดก่อนว่าทำไมเป็นปัญหายาวนานมาจนถึงขณะนี้ และปัญหาที่แท้จริงคืออะไร
ส่วนยังยืนยันจะต่อสัมปทานหรือไม่ มองว่า ทางที่ดีที่สุดจะต้องทำตามสัญญาที่มีอยู่ เพียงแค่เรื่องนี้เกิดขึ้นมาก่อนที่ ตนมาอยู่มหาดไทย และก่อนที่ผู้ว่าชัชชาติจะมาเป็นผู้ว่ากทม. และหากการจ้างเดินรถ ถ้าเขาให้บริการประชาชนจริงๆ เป็นประโยชน์ประชาชนเราก็ไปเอาเปรียบเขาไม่ได้ ส่วนงบประมาณที่จ่ายจะต้องใช้งบจากไหนนั้น ก็คงต้องมาจากครม. แต่ก็อยากให้จบที่กทม.
นายอนุทิน ยืนยันเพิ่มเติมว่า เรื่องนี้ไม่ได้มีเจตนาอะไรที่ไปทำให้ล่าช้า เพราะผู้ประกอบการมีความเสียสละในการแบกภาระ ต้องไปดูว่าทำไมปล่อยให้หนี้พอกพูนขนาดนี้ และเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญกับกทม. กระทรวงมหาดไทย และประชาชน จึงต้องหาวิธีแก้ไขปัญหา
ส่วนจะชัดเจนหรือไม่ว่ารัฐบาลจะช่วยเหลือคงยังไม่ชัดเจนจะต้องหาที่มาที่ไป เพื่อรวบรวมข้อมูลก่อน เพราะถ้าเกิดกรณีต้องเป็นโมฆะประชาชนก็เดือดร้อนอีก ดังนั้นก็พยายามที่จะหาทางออกให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ รวมถึงจะต้องไม่ทำให้มีเอ๊ะอีกด้วย
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.