9บิ๊กมหาดไทยลุ้น! ศาลเลื่อนนัดฟังคำสั่งคดีเขากระโดง 28ม.ค.68

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.68 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบรางรถไฟ ตลิ่งชัน ศาลนัดฟังคำสั่งชั้นตรวจฟ้องในคดีที่นายณฐพร โตประยูรอดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน  ยื่นฟ้อง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย,นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เเละพวกอีก 7 คน เป็นคณะกรรมการสอบสวนของกรมที่ดินที่ตั้งตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 จำนวน 2 ชุด ที่กรมที่ดินตั้งขึ้น

ประกอบด้วย นายทวีศักดิ์ ทรงอยู่, นายคำเคลื่อน, นายธนกร นวลพริ้ง, นายนนท์ธวัช นาคนวล, ว่าที่ร้อยตรีสมศักดิ์ สันประเสริฐ, นายสุพจน์ สวัสดิ์พุทรา จำเลยที่ 8, นางวรพิชชา นาควัชระ เป็นจำเลยที่ 1-9 โดยศาลรับไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท.178/2567 ฐานความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต
 

กรณีการที่กรมที่ดินมีมติไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินเขากระโดง ซึ่งเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบจึงนำคดีมาฟ้องต่อศาล

ภายหลังฟังคำสั่ง นายณฐพร ผู้ฟ้องคดีกล่าวว่า วันนี้ศาลมีคำสั่ง 2ประเด็น 1ให้โจทก์เเก้ฟ้องเพิ่มเติมโดยระบุว่าผู้ที่ถูกฟ้องกระทำความผิดได้กระทำความผิดตั้งเเต่เมื่อใด เเละให้บรรยายถึงตนในฐานะโจทก์ว่าเป็นผู้เสียหายในฐานะส่วนตัวหรือฐานะอะไร เเละนัดฟังคำสั่งชั้นตรวจฟ้องอีกครั้งในวันที่ 28 ม.ค.2568 ซึ่งคดีนี้จากที่คุยกับศาลคาดว่าจะเร็วเพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนสนใจ 

"สำหรับคดีนี้ผมเป็นผู้เสียหายในฐานะคณะอนุกรารมการสภานิติบัญญัติเเห่งชาติที่ทำเรื่องนี้โดยตรง ก็ต้องเอาคำสั่งมาส่งศาลเพื่อจะได้รู้ว่าเราเป็นผู้เสียหาย โดยในคำสั่งเเก้ฟ้องวันนี้ก็ไม่ได้ให้ชี้ช่องประเด็นอื่นอีกเพราะคำฟ้องครบถ้วน"

นายณฐพร ได้ยื่นฟ้องคดีนี้ต่อศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง เมื่อวันที่ 21พ.ย.2567 กล่าวหาจำเลยทั้ง9คน ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการปฎิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กระทั่งศาลมีคำสั่งเลื่อนฟังคำสั่งฟ้องคดีดังกล่าว

สำหรับนายณฐพร ยังได้เคยเผยแพร่ข้อความหัวข้อ"ยุคนักการเมืองชั่ว"มีเนื้อหาว่า"ผมไม่อยากใช้คำพูดนี้ แต่จำเป็นครับ สำหรับ นักการเมืองที่ดี ท่านคงเข้าใจ เรื่องที่ดินเขากระโดง ที่ต้องใช้เวลาดำเนินคดีมายาวนาน ก็เกิดจากลุ่มนักการเมืองชั่ว ร่วมมือกับ ข้าราชการชั่ว สรุปว่าเอกสารพยานหลักชัดแจ้ง นับตั้งแต่ ศาลฎีมีคำพิพากษา"

"แทนที่ การรถไฟ จะไปขอบังคับคดีตามคำพิพากษา แต่ด้วยในขณะนั้น นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็น รัฐมนตรีคมนาคม การรถไฟ จึงยื่นฟ้องศาลปกครองกลาง ต้องใช้เวลา 2 ปี กว่าจะมีคำพิพากษาและคำพิพากษา ให้ตั้งคณะกรรมการ ทำการตรวจสอบแนวเขต ตามคำพิพากษา ศาลฎีกาและของคณะกรรมการกฤษฎีกา มิใช่ไปหาพยานหลักฐานมาคัดค้านคำพิพากษา"

"การที่กรมที่ดิน มีมติไม่เถิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดิน และแจ้งว่า หากการรถไฟมีสิทธิในที่ดินก็ไปฟ้องศาล ทั้งที่ กรมที่ดิน มีภารหน้าที่ ในการคุ้มครองคอยดูแลรักษาที่ดินของรัฐทุกประเภท นี่คือการถ่วงเวลา และทำให้เห็นความชั่วร้ายของ นักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐหรือยังครับ"

"เรื่องมิได้ยุติแค่นี้นะครับ หากเรื่องจะต้อง ส่ง ปปช หรือ ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ผมก็ไม่แน่ใจว่าคดีนี้จะยุติลง เพราะนับตั้งแต่นี้กรรมการปปช. และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะต้องได้รับความเห็นชอบจากสว.ชุดนี้ ที่ขนาดรองประธานวุฒิ ยังไปแจวเรือ ให้รัฐมนตรีนั่ง นี่คือ “ยุควงจรอุบาทว์” ทางการเมืองครับ"

"แต่ถึงอย่างไรผมก็จะใช้ความรู้ทางกฏหมาย และพยานหลักฐาน ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลพวกนี้จนถึงที่สุด “เพื่อแก้ไขในสิ่งผิด”และ “ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน"

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.