นายกฯเศรษฐาสั่งรับมือเอลนีโญสู้แล้งทำฝายเก็บน้ำขจัดวัชพืช

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยที่เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น หลังฟังการบริหารจัดการน้ำในเขื่อน เพื่อรับสถานการณ์ภัยแล้งจากผลกระทบเอลนีโญ โดยยอมรับว่ามีความกังวลเพราะปริมาณน้ำในเขื่อนลดน้อยลง และหากจบฤดูฝนก็คาดว่าน่าจะมีน้ำน้อย การทำข้าวนาปรังไม่แน่ใจว่าจะได้ทำได้หรือไม่ ยกเว้นจะโชคดีฝนตกมาเยอะกว่ากำหนด 

ปริมาณน้ำในเขื่อนทุกเขื่อนในภาคอีสานก็ยังน้อยอยู่ แต่ก็ยังมีการจัดการบริหารที่ดี น้ำที่ใช้เยอะที่สุดคือเรื่องเกษตรเป็นเรื่องของปากท้องที่รัฐบาลมาจากประชาชนให้ความสำคัญอย่างสูงสุด ในระยะสั้น เรื่องของการทำฝายแกนดินซีเมนต์เก็บกักน้ำหรือลอกคลองขจัดวัชพืช ซึ่งแม่ทัพภาคที่2และกรมชลประทานต้องมาช่วยกัน 

ส่วนพื้นที่ที่มีน้ำท่วมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร รายงานว่าจะควบคุมได้ภายใน 3 วันแต่ก็ต้องลงไปตรวจสอบอีกครั้งในเรื่องความเสียหาย ฝนก็ยังคงตกอยู่ภาวะท่วมก็ต้องดูว่ามีสิ่งกีดขวางหรือไม่ ถ้ามีสิ่งกีดขวางก็ต้องกำจัดออกไป 

นายเศรษฐายอมรับว่ามาจากภาคเศรษฐกิจ แต่ก็ให้ความสำคัญกับการเกษตร เพราะเรามีเกษตรกรเป็นหลาย 10 ล้านคน ภาครัฐบาลมีงบประมาณอยู่เยอะ ปีนี้อาจจะลำบากหน่อย แต่ปีงบประมาณปีหน้าอาจจะมีมากขึ้น และเชื่อว่าในอนาคต เงินทุกบาท ทุกสตางค์ที่ลงไปในทุกพื้นที่ท่วมและพื้นที่แล้ง ถ้ารัฐบาลของประชาชนทำให้ไม่ท่วมไม่แล้งลงทุนเท่าไหร่ไป ก็จะก่อให้เกิดรายได้รวมในประเทศ 

ที่ต้องให้ความสำคัญกับระยะสั้นคือหน้าฝนจะหมดลงไปแล้ว ต้องอาศัยกำลังจากกองทัพได้ประสานกับผู้บัญชาการทหารบกและได้รับการยืนยันว่าจะได้รับความช่วยเหลือ เช่นเดียวกับกระทรวงมหาดไทย ที่จะใช้งบประมาณจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นมาช่วยเรื่องทำฝายแกนดินซีเมนต์เก็บกักน้ำ ลอกคูคลอง ช่วยให้บรรเทาปัญหาระยะสั้น

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้รับฟังปัญหาจากประชาชน ส่วนใหญ่เรียกร้องให้รัฐบาลสนับสนุนศักยภาพของเขื่อนอุบลรัตน์ เพราะเชื่อว่าเขื่อนแห่งนี้สามารถกักเก็บน้ำและผลิตไฟฟ้า เพียงพอสำหรับคนในพื้นที่ได้แต่ไม่ได้รับงบประมาณที่เพียงพอ