'ก้าวไกล'จัด30สส.อภิปรายนโยบายรัฐบาลครอบคลุมทุกมิติ
นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะเลขาธิการพรรคฯ กล่าวว่า การอภิปรายนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ระหว่าง 11-12 กันยายน 2566 พรรคก้าวไกลจัดสส. 30 คน ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ อภิปรายนโยบายครอบคลุมทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และสวัสดิการ เพื่อตรวจสอบ ตั้งคำถาม และข้อสังเกตว่า นโยบายดังกล่าวจะสะท้อนเนื้อแท้ของรัฐบาล
"เนื้อหาในร่างนโยบายยังคลุมเครือ ค่อนข้างผิดหวัง และยังไม่ชัดเจนว่า จะเป็นความหวังได้หรือไม่ และจะดำเนินการให้บรรลุได้อย่างไร เพราะไม่มีการกำหนดตัวชี้วัด และระยะเวลา"นายชัยธวัช กล่าว
ส่วนนโยบายรัฐบาลจะสร้างความสมานฉันท์ตามเป้าหมายการจัดตั้งรัฐบาลสลายขั้วได้หรือไม่นายชัยธวัช ระบุว่า ยังไม่แน่ใจว่า คือการปรองดองสลายขั้ว หรือเป็นการจับขั้วกันใหม่ แต่ลักษณะทางการเมืองได้สะท้อนผ่านนโยบายที่ยังมีความคลุมเครือและเกรงอกเกรงใจจึงจะต้องรอดูในทางปฏิบัติว่าจะเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ นายชัยธวัชได้รับหนังสือจากนางสุนีย์ ไชยรส คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเงินอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้า เพื่อให้พรรคก้าวไกล ติดตามนโยบายเด็กเล็กในนโยบายของรัฐบาล หลังจากก่อนหน้านี้ได้ยื่นหนังสือถึงพรรคร่วมรัฐบาลไปแล้ว ทั้งเงินสวัสดิการเด็กถ้วนหน้า ตั้แต่อยู่ในครรภ์ ถึง 6 ปี,การจัดตั้งศูนย์เด็กเล็กให้เพียงพอสำหรับผู้ปกครอง ที่มีภาระงาน โดยควรเพิ่มงบประมาณ และอัตรากำลังแก่ท้องถิ่นให้มีศักยภาพในการดูแลเด็กเล็ก ตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 3 ขวบมากขึ้น
นายชัยธวัช ยืนยันว่า พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญต่อเรื่องดังกล่าว ซึ่งในร่างแถลงนโยบายรัฐบาลก็ยอมรับว่า ประเทศไทยเข้าสู่ยุคสังคมสูงวัยแล้ว จึงจะต้องหาวิธีไม่ให้คนวัยทำงาน ต้องแบกรับภาระดูแลพ่อแม่ และบุตรมากขึ้น
ดังนั้น จึงจำเป็นที่รัฐบาล จะต้องออกแบบนโยบายลดภาระการมีบุตร เพื่อกระตุ้นให้คนมีบุตรมากขึ้น สามารถรับภาระทางเศรษฐกิจได้ พรรคจึงสนับสนุนสวัสดิการถ้วนหน้ามาโดยตลอดโดยไม่ต้องคัดกรองความจน ทั้งแม่ และเด็กเล็ก และไม่ควรผลักภาระไปให้เฉพาะครอบครัว แต่รัฐบาลควรมีส่วนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยพรรคก้าวไกล จะอภิปรายในนโยบายดังกล่าวของรัฐบาล และติดตามการทำหน้าที่รัฐบาลในฐานะฝ่ายค้านเชิงรุกต่อไป
ด้าน นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล ยอมรับว่า รู้สึกผิดหวัง ที่ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจ และหลงลืมกลุ่มเยาวชน และคุณแม่ ที่เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต และประเทศไทยยังมีอัตราการเกิดพลเมืองใหม่ต่ำ ซึ่งจะส่งผลต่อภาคแรงงานในอนาคตด้วย ดังนั้น การพัฒนาเศรษฐกิจ จึงจะต้องพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และเด็กควบคู่กันไปด้วย
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.