เจาะข้อมูลติด"กำไลอีเอ็ม"นักโทษคดีการเมือง"ทวี"เล็งคุมตัวอยู่บ้าน
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เปิดประเด็นการผลักดันให้มีการไขกฎกระทรวง เพื่อให้สอดรับกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 89/1 ในเรื่องการดำเนินคดีทางการเมือง รวมไปถึงการดำเนินคดีอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 ปัจจุบันมีสติถิผู้ต้องหาถูกดำเนินคดี25คน และช่วงที่ผ่านมาศาลอนุญาตให้มีการปล่อยตัวชั่วคราวโดยมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
ดังนั้น หากศาลเห็นด้วยอาจจะขอว่า"ต่อไปนี้ไม่ต้องไปอยู่ในเรือนจำให้อยู่บ้านได้แล้วติดกำไลอีเอ็ม"
พ.ต.อ.ทวี เปิดประเด็นเรื่องนี้ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อ 4ก.ค.67 เป็นการตอบกระทู้สด นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ต่อกรณีการเสียชีวิตของ นางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ทะลุวัง นักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เสียชีวิตระหว่างถูกคุมขังในเรือนจำ เมื่อ14พ.ค.2567 (คลิ๊กอ่าน)
ทำความเข้าใจก่อนว่าด้วยเรื่อง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 89/1 เป็นบทบัญญัติว่าด้วยการควบคุมผู้ต้องหาหรือจำเลยที่อยู่ระหว่างการสอบสวนหรือพิจารณา ภายในสถานที่อื่นนอกจากเรือนจำ สถานีตำรวจ หรือสถานที่ควบคุมผู้ต้องหาของพนักงานสอบสวน โดยสถานที่ดังกล่าวต้องมีลักษณะตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งต้องกำหนควิธีการควบคุมและมาตรการเพื่อป้องกันการหลบหนีหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
ส่วนกฎกระทรวงยุติธรรมปัจจุบันที่บังคับใช้ รองรับบทบัญญัติมาตรา89/1 คือ กฎกระทรวง กำหนดสถานที่อื่นที่ใช้ในการขัง จำคุก หรือควบคุมผู้ต้องหา จำเลย หรือผู้ซึ่งต้องจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุด พ.ศ. 2552 ซึ่งจะต้องจัดให้มีวิธีการควบคุม มาตรการป้องกันการหลบหนีหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นและการบำบัดรักษาที่เหมาะสมกับผู้ต้องหารือจำเลย ในส่วนที่ 2 วิธีการควบคุม และส่วนที่ 3 มาตรการเพื่อป้องกันการหลบหนีหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นยังไม่ได้มีการแก้ไขเพื่อรองรับ ผู้ต้องหาหรือจำเลยคดีการเมืองเป็นการเฉพาะ
(คลิ๊กอ่าน)
การติดกำลังอีเอ็ม ตามที่พ.ต.อ.ทวี มีนโยบายจะผลักดันให้มีการแก้ไขกฎกระทรวงเพื่อใช้ผู้ต้องหาคดีทางการเมืองหรือคดีมาตรา112 ปัจจุบันกำไลอีเอ็มใช้กับผู้ที่ศาล หรือพนักงานผู้มีอำนาจสั่งคุมความประพฤติ อาทิ ผู้ถูกคุมความประพฤติตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ผู้ได้รับการพักการลงโทษ ฯลฯ พร้อมกำหนดเงื่อนไขการคุมความประพฤติด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว
นอกจากนี้การติดกำไลอีเอ็ม ใช้กับฐานความผิด ลักทรัพย์,ขับรถประมาท,บุกรุก,ทำร้ายร่างกาย,ความผิดเกี่ยวกับเพศ เป็นผู้มีข้อบกพร่องเรื่อง เที่ยวเตร่ในเวลากลางคืน เล่นการพนัน เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษ ดื่มสุรามึนเมาแล้วก่อเรื่องราวทะเลาะวิวาท พกพาอาวุธ มีที่พักอาศัยในพื้นที่ที่มีปัญหายาเสพติด (คลิ๊กอ่าน)
ข้อมูลศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยคดีมาตรา112 ตั้งแต่ 19พ.ย.63- 24 มี.ค. 2567 มีผู้ถูกดำเนินคดีในข้อหานี้ไปแล้วไม่น้อยกว่า 270 คน ในจำนวน 301 คดี (ในจำนวนนี้เป็นเยาวชนจำนวน 20 คน ในจำนวน 23 คดี) เฉพาะปี2567 มีผู้ถูกคุมขังอยู่ไม่น้อยกว่า 27 คน แยกเป็นผู้ถูกคุมขังระหว่างพิจารณา 18 คน ผู้ถูกคุมขังที่คดีสิ้นสุดแล้ว 7 คน และผู้ถูกคุมขังในคดีเยาวชนตามมาตรการพิเศษที่ศาลกำหนดจำนวน 2 คน (คลิ๊กอ่าน)
สำหรับคดีมาตรา112 ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและเกี่ยวโยงกับสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน ก็คือคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกกล่าวหาเป็นจำเลยต่อศาลอาญา เมื่อ18มิ.ย.2567 ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่เกาหลีใต้ เมื่อปี2558
ศาลพิจารณาตามคำฟ้องของอัยการสูงสุดเเล้วประทับรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ 1860/2567 นายทักษิณจำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดีโดยยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราววงเงิน 5 เเสนบาท โดยศาลพิจารณาอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวนัดตรวจพยานหลักฐานคดีสองฝ่าย19 ส.ค.67เวลา 09.00 น. (คลิ๊กอ่าน)
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.