"สรรเพชญ บุญญามณี" ชำแหละรัฐบาลทำงานครบปี ผลงานไม่เป็นโล้เป็นพาย

เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2567 นายสรรเพชญ บุญญามณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่รัฐบาลจะบริหารประเทศครบ 1 ปี ในเดือนสิงหาคมนี้ โดยกล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาปากท้องของประชาชนกำลังทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เนื่องจากค่าครองชีพต่าง ๆ กำลังทยอยปรับเพิ่มสูงขึ้น ไม่เว้นแม้กระทั่งผงชูรส ทั้งต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นสวนทางกับรายได้ของประชาชนที่กำลังตกต่ำ โดยยังไม่เห็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนจากรัฐบาล

นายสรรเพชญได้ตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลมุ่งแต่จะทำนโยบาย Digital Wallet และหวังว่านโยบายนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาได้ ทำให้รัฐบาลไม่คิดวิธีการในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในรูปแบบอื่น ๆ นอกจากการแจกเงินเพื่อหวังผลทางการเมือง โดยที่นโยบาย Digital Wallet นี้ก็ถูกคณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณแขวนไว้เนื่องจากคำของบประมาณหลายแสนล้านแต่มีเอกสารเพียง 2 หน้า 

อีกทั้งงบประมาณสำหรับทำโครงการนี้เสมือนอยู่ในอากาศไม่มีความชัดเจนใด ๆ ไม่มีผลการศึกษาถึงความคุ้มค่าโดยเฉพาะหน่วยงานที่เป็นเจ้าภาพก็ไม่มีและจะส่งผลในการตรวจสอบงบประมาณเพราะไม่ทีหน่วยงานใดกล้ารับเป็นเจ้าภาพทำเรื่องนี้ ซึ่งหากรัฐบาลปล่อยผ่านปัญหานี้จะก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจตามมาเป็นห่วงโซ่แบบงูกินหาง

นายสรรเพชญ ได้กล่าวถึงปัญหาเรื่องหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น พร้อมกับหนี้สาธารณะก็กำลังจะเพิ่มขึ้นจากการกู้ชดเชยการขาดดุลงบประมาณมาทำนโยบายเรือธง อีกทั้งยังมีปัญหาเกี่ยวกับการเข้าถึงสินเชื่อของประชาชนเนื่องจากบรรดาธนาคาร สถาบันการเงินต่าง ๆ ปฏิเสธสินเชื่อของประชาชน โดยยอดการปฏิเสธสินเชื่อ (Rejection Rate) สูงถึง 70% ทำให้ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้

นอกจากนี้เรื่องรายได้ของประชาชนก็ยังไม่เพิ่มขึ้นและกำลังถูกซ้ำเติมจากปัญหาการเลิกจ้างงานเพราะโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ปิดตัวลงและย้ายฐานการผลิตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจเกิดมาจากทั้งนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการเพิ่มค่าแรง อันเป็นการเพิ่มต้นทุนของภาคการผลิตโดยที่รัฐบาลไม่ได้มีนโยบายในการช่วยเหลือหรือชดเชยให้กับโรงงานอุตสาหกรรมให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อได้ 

นอกจากนี้การเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ที่ล่าช้า ไร้ประสิทธิภาพก็ส่งผลต่อประชาชนเนื่องจากเมื่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจไม่เกิด การจ้างงานก็ไม่เกิดด้วย อีกทั้งการทำโครงสร้างพื้นฐานที่จะดึงดูดนักลงทุนก็มีน้อย และจากรายงานล่าสุดของธนาคารโลกก็ปรับลด GDP ของปี 2567 เหลือ 2.4% สิ่งนี้เป็นสัญญาณเตือนไปยังรัฐบาลประกอบกับที่หลายฝ่ายกำลังวิตกกังวลว่าประเทศไทยอาจจะเจอวิกฤตที่หนักกว่าเหตุการณ์ต้มยำกุ้งในอดีต ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องเร่งหาแนวทางแก้ไขและรับมือโดยเร็ว 

นายสรรเพชญ ได้เสนอแนะให้รัฐบาลเร่งหาวิธีการในการแก้ไขปัญหานี้เพราะหากรัฐบาลยังนิ่งเฉยจะเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง และหากเกิดเหตุการณ์นั้นนโยบาย Digital Wallet ที่รัฐบาลหวังว่าจะเป็นเครื่องปั๊มหัวใจ จะกลายเป็นเพียงการหยอดข้าวต้มเพราะระบบเศรษฐกิจได้เกิดความเสียหายจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาล นอกจากนี้ตนเห็นว่าสิ่งที่นายกทำได้เร็วที่สุด คือ หยุดการเดินทางต่างประเทศ และหันมาเอาใจใส่เรื่องภายในประเทศมากกว่านี้ ไม่ต้องบินไปต่างประเทศมากเกินไป

 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.