จับตาศึกชิง นายกอบจ.ปทุมธานี Effectสว. สู่ สนามท้องถิ่น แดง ชน ส้มอมน้ำเงิน

เรียบร้อย โรงเรียน สีน้ำเงิน ผลการเลือก 'สมาชิกวุฒิสภา'(สว.) เวอร์ชั่น 2567 จาก20กลุ่มอาชีพ สว.ตัวจริง 200 คน บัญชีรายชื่อสำรอง 100 คน หลายสื่อรายงานตรงกัน กลุ่มสีน้ำเงิน มาแรง ด้วยกลยุทธ กลเกมทางการเมืองไม่ธรรมดา กวาดที่นั่งในสภาสูง ไปเกินครึ่ง 

เดินหน้าเร่งเฟ้นหา บุคคลมาดำรงตำแหน่ง 'ประธานวุฒิสภา' กับ รองประธานวุฒิสภาอีก 2 ตำแหน่ง บิ๊กเกรียง-'พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์' อดีตแม่ทัพภาค4 คนใกล้ชิด ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หรือ ‘มงคล สุระสัจจะ’ สายตรงครูใหญ่ภูมิใจไทย บุรีรัมย์ ต่างเป็นแคนดิเดตคนสำคัญ ประธาน-รองประธานสว. ตามลำดับ 

สภาสูง ถูกปกคลุมด้วย ‘สีน้ำเงิน’ หลายฝ่ายเริ่มจับตามอง เกมอำนาจ ต่อรอง เข้มข้น สภาล่าง หรือ สภาผู้แทนราษฎร มี กลุ่มสีแดง พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำ ถูกแซมด้วย กลุ่มสีน้ำเงิน ผสมกลุ่มสีเขียว ขั้วอำนาจเดิม เมื่อหันไปมอง สภาสูง สว. กลายเป็น สีน้ำเงิน คุมกลไก พลิกไปดู โครงสร้าง อำนาจหน้าที่สว. ไม่เพียงแค่ กลั่นกรองกฎหมาย ตรวจสอบถ่วงดุล ยังมีส่วนร่วม พิจารณาบุคคลที่จะไปดำรงตำแหน่งใน องค์กรอิสระ หลายองค์กร ที่บุคคลในองค์กรกำลังทยอยหมดวาระลงในปีนี้ 
 

การเลือกสว. จบลงด้วย แต่ยังมีอีก ศึกใหญ่ ที่ต้องตามลุ้น น่าจับตามอง ไม่แพ้กัน

การเลือกตั้ง 'นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี' เป็นศึกใหญ่ของ เพื่อไทย กับปีก ส้มอมน้ำเงิน 

‘ชาญ พวงเพ็ชร์’ ผู้สมัครในนามพรรคเพื่อไทย กับ บิ๊กแจ๊ส-‘พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง’ ผู้สมัครอิสระ

พรรคเพื่อไทย ปักป้าย สนับสนุน ‘ชาญ พวงเพ็ชร์’ ผู้สมัครในนามพรรคเพื่อไทย ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ‘แพทองธาร ชินวัตร’ ‘พานทองแท้ ชินวัตร’ หมุนเวียน ลงไปช่วย ชาญ หาเสียง แท็กทีมสนับสนุนกันสุดตัว 

ทักษิณ นัดหัวคะแนน กลุ่มบ้านใหญ่แต่ละอำเภอ ในปทุมธานี หารือ เดินทางไปร่วมงานบวช บุตรชาย ผู้กว้างขวางของหัวคะแนนใหญ่ ที่สนับสนุน ชาญ

แพทองธาร ออกไปย้ำโค้งสุดท้าย 'ขอให้ประชาชนเลือก ชาญ จะได้ผลักดันนโยบายท้องถิ่นต่างๆ ทำงานสอดประสานกับ พรรคเพื่อไทย ที่เป็นรัฐบาล' สะท้อนถึงความเอาจริง เอาจัง ศึกนี้แพ้ไม่ได้ เป็นทั้ง ศึกศักดิ์ศรี ผสมกับ ศึกไม่ไว้วางใจ ที่ทั้งทักษิณ เครือญาติ แกนนำเพื่อไทย มีปมคาใจกับ บิ๊กแจ๊ส-พล.ต.ท.คำรณวิทย์ มาแต่เก่าก่อนสะสม ตั้งแต่ช่วง ยังไม่กลับประเทศ ลามมาถึง ศึกเลือกตั้งเมื่อปี 2566 เรื่องการจัดส่งผู้สมัคร ที่ไม่ลงรอย อีกฝ่ายหันไปซบ พรรคการเมืองอื่น ทำให้เกิดการตัดคะแนน ผลสุดท้าย เพื่อไทย จากที่เคยได้สส.ยกจังหวัด มารอบที่แล้ว ได้มาเพียงแค่ ที่นั่งเดียว กลายเป็น บาดแผล จุดแตกหัก   

เพื่อไทย ยอมแม้กระทั่งไปดึง ชาญ พวงเพ็ชร์ อดีตนายกอบจ. และ อดีตผู้สมัครสส.ปทุมธานี พรรคภูมิใจไทย หวังกระแสบ้านใหญ่ อำนาจการเมืองท้องถิ่น บวกกับกระแสเพื่อไทย ยึดครองสนามอบจ. ให้ได้

อีกฝ่าย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ สู้ยิบตา แม้ฉากหน้าลงในนามอิสระ แต่ฉากหลัง กลับมีเฉดสีน้ำเงิน เดินหน้าสู้ตามมวยรอง ยกปม การจัดหาวัคซีน การช่วยเหลือประสานที่รักษา รถรับส่ง ในช่วงโควิดระบาดหนัก ชูนโยบาย ศูนย์การแพทย์ครบวงจรทุกอำเภอ ประกอบการลงพื้นที่ ช่วงเป็น นายกอบจ. เกาะติดพื้นที่ ทำงานเชิงรุก หวังครองใจประชาชนชาวปทุมธานี

คำรณวิทย์ ตกเป็นมวยรอง เสมือนโดนรุม นิด้าโพล ถามถึงบุคคลที่จะสนับสนุนให้เป็นนายก อบจ. ปทุมธานี พบว่า ร้อยละ 31.87 เลือก พล.ต.ท.คำรณวิทย์ รองลงมา ร้อยละ 28.68 เลือก ชาญ 

ขณะเดียวกัน มีความเคลื่อนไหว แนวร่วมกลุ่มสีส้มบางคน รณรงค์ ให้ผู้มีสิทธิออกเสียง Vote no

ผลจากการเลือกสว. สภาสูง ปกคลุม สีน้ำเงิน จะส่งผลลามมาถึง การเมืองท้องถิ่น ที่คนกันเอง ห้ำหั่น ช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมือง

ศึกเลือกนายกอบจ.ปทุมธานี 30มิ.ย. อีกฝ่าย ขอทวงคืนศักดิ์ศรี เข้าตาจน แพ้(อีก)ไม่ได้ อีกฝ่าย อยากจะย้ำชัย แผ่ขยายการเมืองไปสู่ ปริมณฑล วางรากฐานบุกเบิก เพื่อไปสู่ การเมืองสนามใหญ่ 

ผลเลือกสว. ลามมาถึง การเมืองท้องถิ่น ส่งผลสะเทือนการเมืองได้มากน้อยขนาดไหน ใครสมหวัง ผิดหวัง อีกอึดใจเดียว ได้รู้แน่นอน