"บิ๊กโจ๊ก"โอดชีวิตถูกรังแกเดินหน้าฟ้องนายกฯ-ก.ตร.ทั้งคณะ

กรณีที่ประชุมก.ตร.ครั้งที่ 5/2567ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม มีมติ12-0เสียงเห็นชอบคำสั่งพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร ให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ออกจากราชการไว้ก่อน

นายเศรษฐา เปิดเผยท่าทีล่าสุดว่า เราไตร่ตรองดีแล้วและปฏิบัติตามยึดหลักกฎหมาย และก็ให้ความเป็นธรรมกับ พล.ต อ.สุรเชษฐ์ ซึ่งขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนไปยังคณะกรรมพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) อีกประมาณ 30 วัน ก็น่าจะตัดสินได้แล้ว ระหว่างการประชุมก.ตร.มีการหารือกันแล้วเรื่องการทูลเกล้าฯคงพักไปก่อน

ขณะที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่ามติก.ตร.อาจเป็นเพียงการรับทราบ จึงต้องรอผลวินิจฉัยของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ ก.พ.ค.ตร.อีกทั้งคณะอนุกรรมการวินัย ก.ตร.ก็ล้วนแต่เป็นตำรวจ อยู่ใต้บังคับบัญชาของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะมีใครกล้าลงมติว่าผู้บังคับบัญชาผิด แต่หากกผลวินิจฉัยของ ก.พ.ค.ตร. ออกมาเป็นลบก็จะไปร้องต่อศาลปกครองต่อ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า การที่นายกฯเศรษฐาไปนั่งเป็นประธาน ก.ตร.แต่กลับไม่คัดค้านในเมื่อคำสั่งไม่ถูกต้องแล้วยังไปรับรองว่าคำสั่งถูกต้อง อย่างนี้จึงเรียกว่าความผิดสำเร็จดังนั้นก็จะต้องดำเนินคดี สัปดาห์หน้าเตรียมจะฟ้องนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการ ก.ตร. ทั้งคณะ และยืนยันว่าไม่ได้ท้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้ไปเป็นศัตรูแต่ มองว่าเป็นเรื่องถูกผิด เป็นเรื่องความยุติธรรม 

"ผมไม่ได้ต้องการทะเลาะกับผู้บังคับบัญชา แต่ขอถามกลับว่าทำไมถึงถูกรังแกมาทั้งชีวิต เพราะว่าผมมีอายุราชการเหลือหลายปี เป็นอาวุโสลำดับที่ 1ทำงานตรงใจประชาชน ประชาชนชอบหากอายุราชการเหลือแค่ 1 ปี ก็คงไม่เป็นปัญหา”พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.