สาธิตไม่ลงเลือกตั้งสส.เขต3ระยองเสนอชื่อหมอบัญญัติผู้สมัครรายเดิม

นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ภาคกลาง กล่าวถึงความชัดเจนในการส่งผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมในเขต3 จังหวัดระยอง ว่า ในวันพรุ่งนี้ (16ส.ค.66) จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อพิจารณาการส่งผู้สมัคร ซึ่งตนในฐานะหัวหน้าพรรคที่ดูแลภาคกลาง ได้เสนอนายแพทย์บัญญัติ เจตนจันทร์ ผู้สมัครเดิม ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะมีการตัดสินกัน

ส่วนกระแสข่าวที่ว่า ขอลงส.ส.ในเขตนี้เองมีการพูดคุยกับนายแพทย์บัญญัติหรือไม่ ก็ไม่แน่ใจว่าข่าวนี้เกิดจากสื่อไปวิเคราะห์เองหรือไม่ แต่ในสถานการณ์นี้มีคนมาพูดว่าให้ไปลงสมัครด้วยเช่นกัน ซึ่งก็ต้องไปสอบถามผู้สมัครเดิมก่อนและส่วนตัวได้พูดคุยกับนายแพทย์บัญญัติมาโดยตลอด และหากจะลงสมัครเองก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องเสนอชื่อนายแพทย์บัญญัติ จึงไม่ควรมีคำว่าไปแย่งนายแพทย์บัญญัติลงสมัครเลือกตั้งซ่อม

ส่วนการดีลกับพรรคการเมืองอื่นเพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์ลงแข่งกับพรรคก้าวไกลเพียงสองพรรคมีความชัดเจนอย่างไรนั้น  นายสาธิตกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนต้องดูแต่ละพรรคว่าจะตัดสินอย่างไร ยังไม่แน่ใจว่าพรรคการเมืองอื่นจะคิดอย่างไร

เมื่อถามว่าความขัดแย้งในพรรคประชาธิปัตย์กระทบต่อการเลือกตั้งสส.เขต3ระยองหรือไม่นายสาธิตกล่าวว่า ปัญหาความขัดแย้งมีทุกพรรคการเมือง เพียงแต่พรรคประชาธิปัตย์มีปัญหามากหน่อย อยู่ในช่วงตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมรัฐบาลและมีสองแนวคิด แนวคิดแรกคืออยากจะเข้าร่วมรัฐบาล คนที่เป็นสส.ก็อยากจะสร้างผลงาน และมีอีกแนวคิดหนึ่งที่อยากจะเป็นฝ่ายค้าน เพื่อแสดงออกถึงยืนทางการเมืองที่ชัดเจน รวมถึงมีประชาชนหลายกลุ่มที่รู้สึกผิดหวังกับเรื่องการเมือง หากมีการสร้างพรรคการเมืองที่มีจุดยืนที่ชัดเจน และเป็นที่เชื่อใจได้ในอนาคต คิดว่าพรรคประชาธิปัตย์น่าจะกลับมา พรรคประชาธิปัตย์ก็จะกลับไปเป็นพรรคที่ประชาชนเชื่อถือได้อีกครั้ง 

เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์จะได้เป็นรัฐบาลหรืออาจจะตกขบวนหรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า ไม่สามารถตอบได้เพราะอยู่ในวงนอก และจากการติดตามข่าวคิดว่ายังไม่นิ่งสถานการณ์จะนิ่งก็ต่อเมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว  ถึงแม้อำนาจตัดสินใจจะเป็นของคณะกรรมการบริหารพรรคชุดนี้แต่ส่วนตัวมีความเห็นว่า จะขอไปฟื้นฟูพรรคทำให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีคุณภาพและมีจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจน 

อย่างไรก็ตามจะต้องเป็นไปตามมติของคณะกรรมการบริหารพรรคเพราะมีข้อบังคับที่เขียนไว้ชัดเจน ว่าหากจะร่วมรัฐบาล ต้องมีการประชุมร่วมกันระหว่างสส.และกรรมการบริหารพรรค ขั้นตอนนี้ต้องเกิดขึ้น เพื่อมาจบในกระบวนการนี้ตามกฏหมาย
 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.