พิชิต แย้ม หากทำให้ปัญหาจบ ยินดีลาออก โวย วงจรอุบาทว์ หวังล้มนายกรัฐมนตรี
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) กรณี40สว.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ให้ตรวจสอบจริยธรรม คุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรี และกระแสข่าวลาออกจากตำแหน่งว่า การเข้าชื่อของสว. 40 คน ยื่นต่อประธานวุฒิสภา ส่งต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน ในฐานะนายกรัฐมนตรี และนายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้ทำอะไรผิดจากนายกรัฐมนตรี ในอดีตเวลาจัดครม. จะต้องมีการกรอกรับรองคุณสมบัติต้องห้าม มีสำนักเลขาธิการสำนักนายกฯ เมื่อรับเอกสารแล้วก็จะส่งเรื่องไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ , ป.ป.ช., กรมบังคับคดี ตรวจสอบ เมื่อดูทุกเรื่องแล้วหากมีข้อสงสัยก็จะส่งเรื่องไปถามยังกฤษฎีกา จึงถามว่าจะเอาผิดนายกฯทำไม ขอพูดแบบไม่อาย เป็นองครักษ์พิทักษ์นายกและพิทักษ์มาหลายนายกฯแล้ว
ไม่ได้เข้ามาเพราะอภิสิทธิ์ แต่มาเพราะสมอง ถ้าทำผิดทำชั่วคงไม่มายืนตรงนี้ ขอโอกาสให้นายกฯเศรษฐาได้ปฎิบัติหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินตามประกาศไว้ต่อที่ประชุมรัฐสภาเพราะหลายปัญหาของประชาชนประชาชนยังต้องการการแก้ไข
นายพิชิตกล่าวว่า ขอบคุณ 40 สว. และขออโหสิกรรม ชอบใจมาก สิ่งที่โดนกระทำ หลายคนไม่เคยศึกษาชีวิตตน ตั้งแต่ปี2551 โหยหาความยุติธรรมมาทั้งชีวิต มั่นใจว่าหลักนิติธรรมของศาลรัฐธรรมนูญมีจริง คำสั่งศาลฎีกาไม่ได้ผูกพันศาลรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นประเด็นตามคำสั่งศาลฎีกาขอท้าให้ไปดูว่าหากมี ตรงไหนที่เป็นคนหิ้วถุง 2 ล้านบาท จะลาออกวันนี้เลย ไม่ต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย หลายคนที่ว่ากล่าวติติงตนว่า เป็นไอ้ทนายถุงเงิน 2 ล้านบาท เป็นการพูดอย่างคนไร้สติ ไม่มีเหตุผล ถามว่าในสมัยที่เป็นสส. มีคนหมั่นไส้ ทำไมไม่ยื่นถอดถอน
คำว่า วินัย จะเริ่มจับเมื่อรับข้าราชการ จะไม่มีการจับก่อนรับตำแหน่งหรือพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว เช่นเดียวกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขอพวกสว. ดูกันให้ดี เพราะคำว่า จริยธรรม ต้องมาใช้กับตนตอนนี้ คำอธิบายของกฤษฎีกาก็มีความชัดเจนอยู่แล้วว่า ยกเว้นคำสั่ง หมายความว่า ตนมีคุณสมบัติและไม่มีคุณสมบัติต้องห้ามเป็นรัฐมนตรี จึงไม่มีอะไรเชื่อมโยงว่านายกเศรษฐาเป็นคนผิด แต่เรื่องนี้เป็นวาระวงจรอุบาทว์ ที่พยายามจะทำให้ผู้นำประเทศต้องหลุดจากตำแหน่ง มีเพื่อนใน สว.เยอะ และทราบดีว่าใครมีพฤติกรรมอย่างไรแต่ไม่ขอพูด วันนี้ขอใช้คำว่าเปิดใจ ไม่ต้องมาถามว่ากังวลไหม สบายๆ ชี้แจงได้ทุกเรื่อง
นายพิชิตกล่าวว่า ประเด็นในศาลฎีกาไปดู ถ้ามีตรงไหนระบุว่า ผมไปหิ้วถุงเงิน 2 ล้าน ลาออกวันนี้เลย ไม่ต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย คนที่ว่ากล่าว ผมว่าทนายถุงเงิน2 ล้าน พูดกันอย่างคนไร้สติ ไม่มีเหตุมีผล ในประเทศไทยใช้ระบบประมวลกฎหมาย ถ้าไม่มีกฎหมายบัญญัติให้มีอำนาจ ก็ไม่มีอำนาจ การไต่สวนเรื่องละเมิดอำนาจศาลใช้วิธีพิจารณาความแพ่งเป็นหลัก ในคดีอาญาก็ใช้วิธีพิจารณาความอาญาเป็นหลัก อะไรที่พิจารณาโดยวิธีพิจารณาความอาญาไม่บัญญัติไว้ ให้ใช้วิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้โดยอนุโลม และไม่เคยมีการใช้ประมวลกฎหมายอาญา โดยเฉพาะมาตรา 83 มาใช้ในการพิพากษาคดี ซึ่งไม่มี ถ้าหากว่ามีผมก็ขอลาออกวันนี้อีก คือความเก็บกดที่ผมโหยหาความยุติธรรม
ผมติดใจมาตรา 83 มาทั้งชีวิต เอามาเขียนใส่ได้อย่างไร ในเมื่อไม่มีการกระทำอะไรเลยในการถือเงินเอามาใส่ทำไม และในคำสั่งศาลฎีกามีคำหนึ่งระบุว่า “ผมน่าจะรู้” อ้าว “น่าจะ” ก็ขังผมแล้วเต็มพิกัด 6 เดือน คาใจคดีอาญาน่าจะถือว่ามีข้อสงสัยต้องยกประโยชน์ให้จำเลย แต่นี้เป็นคดีแพ่ง วันนี้ผมจะอยู่หรือจะไปไม่ยึดติดอะไร ต่อสู้เพื่อกระบวนการยุติธรรมและความเป็นธรรมในชีวิต ขอฝากไว้นะ คำว่าน่าจะ แล้วผมถูกขังมันเป็นเรื่องสมมุติฐานและคิดเอาเอง คือไม่มีพยานหลักฐานมาสนับสนุน ที่กล่าวหาว่าพิชิตถือถุงเงินก็ไปตั้งข้อสมมุติฐานว่าผมน่าจะรู้ ขอให้ไปดูคำสั่งให้ดีจะพบข้อพิรุธข้อสังเกตมากมาย ผมถึงชอบที่ไปศาลรัฐธรรมนูญถามอะไรผมตอบได้ทุกประเด็น
"สำหรับกระแสข่าวกรณีการลาออกจากตำแหน่งนั้น ได้ทำหน้าที่โดยยึดรัฐธรรมนูญมาตรา164 การเป็นรัฐมนตรีต้องซื่อสัตย์สุจริตคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ เข้ามาทำงานไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง คำตอบของการแก้วงจรอุบาทว์คือ ใครก็ได้คิดกันมาเลยบอกว่าถ้าพิชิตลาออกแล้วทุกอย่างจบ จะทำให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนทั้งประเทศ พูดกลางแดด ต่อหน้าพระสยามเทวาธิราช ในองคาพยพของกระบวนการยุติธรรมว่าสิ่งที่ทำให้เกิดวงจรอุบาทว์แบบนี้ แล้วให้พิชิตลาออก มันจบปัญหา ประเทศเดินหน้าได้ วันนี้พรุ่งนี้มะรืนนี้เดือนนี้เดือนไหน พร้อมเลยครับ"นายพิชิตกล่าว
นายพิชิตกล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรี รักและเคารพนายกจึงไม่อยากทำอะไรให้ลำบากใจ ตอนนี้เป็นองครักษ์พิทักษ์นายกเศรษฐา 40 สว. ทีละคนมาดวลกับพิชิตคนเดียวเรื่องข้อกฎหมาย บางคนยื่นชื่อไปยังไม่รู้เรื่องว่าเรื่องอะไร
เมื่อถามว่ากระบวนการที่พูดถึงมาจากขั้วอำนาจเก่าหรือไม่ นายพิชิตกล่าวว่า ไม่ขอตอบคำถาม แต่แน่นอนว่าเป็นกระบวนการที่ต้องการล้มนายกรัฐมนตรี ขอให้ไปพิจารณากันเอง เพราะมีกระบวนการแบบนี้จริง หากมีคุณสมบัติต้องห้ามก็ยื่นร้องมาที่ตนคนเดียวเลย แต่บอกเลยว่าการยื่นครั้งนี้ ขอขอบคุณเพราะเข้าทาง ที่โหยหาความยุติธรรมมานานแล้ว
นายพิชิตกล่าวว่า จะลาออกก็ต่อเมื่อ มีการพิสูจน์แล้วว่าลาออกแล้วทุกอย่างจบ การบริหารราชการแผ่นดินจะเอามันไม่ได้
ถามว่าจะดำรงตำแหน่งจนกว่าจะมีคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือให้พ้นจากหน้าที่ ใช่หรือไม่ นายพิชิตชี้แจงว่า เคารพในดุลยพินิจศาลไม่ขอก้าวล่วง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น ก่อนเดินขึ้นบันไดเข้าร่วมประชุมครม. นายพิชิตได้หันหน้ากลับมาหา สื่อมวลชนพร้อมชูกำปั้นข้างขวา เป็นสัญลักษณ์ว่า พร้อมสู้
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.