จับตา พิชิต ลาออก ฝ่าปมร้อนคุณสมบัติรัฐมนตรี รักษาเสถียรภาพรัฐบาลเศรษฐา
สมาชิกวุฒิสภา(สว.) 40 คน เปิดปฏิบัติการณ์ ลงชื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาการสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยหยิบยกข้อกล่าวหา ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 หรือไม่
กลายเป็นอีกปมร้อนทางการเมือง เกิดอะไรขึ้นในรัฐบาลปัจจุบัน ปัญหาความไม่พอใจทั้งจาก รัฐมนตรีสมาชิกพรรคเพื่อไทยด้วยกันเอง และรัฐมนตรีในพรรคร่วมรัฐบาล กลายเป็นแรงกระเพื่อมที่มีผลต่อรัฐบาล ย้อนไปไม่ถึงเดือน เศรษฐา ทวีสิน ตัดสินใจปรับครม.เศรษฐา 1/ 1แล้วเสร็จ
- 28 เม.ย. ปานปรีย์ พหิทธานุกร ประกาศลาออกจาก รมว.ต่างประเทศ
- 8 พ.ค. กฤษฎา จีนะวิจารณะ ลาออกจาก รมช.คลัง
- ก่อน 23 พ.ค. ........ ?
รัฐมนตรี 2 คน ในรัฐบาลเศรษฐา ประกาศลาออก จะมีรายที่ 3 รายที่ 4 และรายต่อๆไปตามมาอีกหรือไม่ นาทีนี้ ต้องจับตามอง พิชิต ปัญหาคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีตามมาหลอกหลอน ถึงแม้ เศรษฐา จะการันตรี ได้สอบถามความเห็นจาก คณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ขณะเดียวกัน กฤษฎีกา ตอบกลับความเห็นเอาไว้เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2566
-บุคคลซึ่งเคยได้รับโทษจำคุก ในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ซึ่งได้พ้นโทษเกินสิบปีแล้ว ไม่ใช่บุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา160 (6) ประกอบมาตรา98 (7)
-รัฐมนตรีต้องไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษาให้จำคุก ตามรัฐธรรมนูญมาตรา160(7) ซึ่งไม่รวมถึง คำสั่งให้จำคุก
ทว่า ในคำร้องของ 40 สว.
...ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐาทวีสินนายกรัฐมนตรีผู้ถูกร้องที่ 1 และนายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีผู้ถูกร้องที่ 2 สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 1(4)(5) หรือไม่
ด้วยปรากฏว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้องที่ 1 ได้นำความกราบบังคมทูลฯ เพื่อโปรดเกล้าแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน ผู้ถูกร้องที่ 2 เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีโดยผู้ถูกร้องที่ 1 ทั้งๆที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าผู้ถูกร้องที่ 2 ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 160 (4)และ(5) ที่บัญญัติว่า
ซึ่งมาตรา 160 รัฐมนตรีต้อง
(4) มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
(5) ไม่มีประพฤติกรรม อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
แปลความได้ว่า ในขณะนั้น มีการยื่นเรื่องให้ กฤษฎีกาตีความเฉพาะเจาะจงเพียง มาตรา160 ในวงเล็บ 6 และ 7 ทำให้มีการมองกันว่า เป็นการจงใจยื่น เพื่อให้วินิจฉัย ปมประเด็นดังกล่าวเพียงแค่นี้ พอจะอนุมานคำตอบออกมาได้ แต่ในคำร้อง 40 สว. มองไปถึงบริบททั้งหมดในมาตรา 160 โดยเฉพาะวงเล็บ 4 และ 5 ด้วย จึงได้ยื่นให้ ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด
สัญญาณร้อน เพื่อถอดสลักระเบิด ในการแก้ปัญหา ว่ากันว่า หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดคือ 'เสียสละ' พิชิต ตัดสินใจ ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะประชุมพิจารณาว่าจะรับ-ไม่รับคำร้องหรือไม่ วันที่ 23 พ.ค.
กรณีที่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองถูกฟ้องร้อง อาศัยจังหวะลาออกจากตำแหน่ง ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณารับคำร้อง ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญจะไม่รับเรื่องไว้วินิจฉัย
นับจากนาทีนี้ก่อนถึงวันที่ 23 พ.ค. ต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ พิชิต จะตัดสินใจ สู้ต่อ ยืนยันในความบริสุทธิ์ รอไปวัดดวง คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญทีเดียว หรือ หาทางออก ยอมเสียสละตำแหน่ง
เศรษฐา ปรับครม.ปุ๊บ มีปัญหาตามมาปั๊บ และยังมีปัญหาตามมาไม่จบ ไม่สิ้น
ปานปรีย์ ศิษย์ร่วมสำนักClaremont Graduate University เหมือนกับ เศรษฐา ไขก๊อกไปด้วยหยิบยก หลักการ เหตุผล และจุดยืน ชิงลาออก ไม่ขอสังฆกรรมกับรัฐบาลเศรษฐา
กฤษฎา แม้จะมี เซนต์คาเบรียล คอนเนกชั่น ที่เป็น บิ๊กคนดัง ผู้ที่อยู่เบื้องหลังดีลสำคัญๆหลายเรื่อง ได้ยื่นซองขาวพร้อมกับบรรยายปมปัญหา ลาออกจากตำแหน่งรมช.คลัง ด้วยความขัดแย้ง แนวทางการทำงาน กับ รมว.คลัง ที่เศรษฐา เพิ่งเลือกมาทำงานกับมือได้ไม่นาน
พิชิต เป็นมือกฎหมาย ตระกูลชินวัตร ให้ความไว้วางใจ ทำงานกับ 2 อดีตนายกฯ ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มายาวนาน เข้ามามีตำแหน่ง เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี(เศรษฐา) สอบถามข้อกฎหมายสำคัญๆหลายเรื่อง ถึงขนาดในการประชุม ก.ตร. ยังขอให้ พิชิต เข้าไปร่วมประชุมด้วยเป็นกรณีพิเศษ
สถานะ พิชิต ในวันนี้ยังเป็น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แต่นับจากนี้ไป ก่อนถึงวันที่ 23 พ.ค. วันชี้ชะตา ศาลรัฐธรรมนุญ วินิจฉัยรับ-ไม่รับ ประเด็น พิชิต เศรษฐา ไว้พิจารณา และถ้ารับแล้วและสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อน จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยออกมาหรือไม่
เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวพันเพียง สถานะ ตำแหน่งของ พิชิต เพียงคนเดียว แต่ยังลุกลามบานปลายไปถึง ส่วนรวมด้วย และเพื่อไม่ให้กระทบต่อ เศรษฐา และ รัฐบาล ที่เพียงก้าวเข้ามาทำงานยังไม่ครบขวบปี ยังมีภารกิจ ยังต้องขับเคลื่อน Mega Project ของรัฐบาล พิสูจน์ฝีมืออีกหลายเรื่อง พิชิต จะเลือกแนวทาง ลาออก ช่วยรักษาเสถียรภาพรัฐบาลเศรษฐา หรือ ปักหลักสู้ต่อ รอคำวินิจฉัย ขึ้นอยู่กับการ ตัดสินใจ พิชิต จะเลือกแนวทางไหน
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.