พิชิต ป้อง ภูมิธรรม ลุยตรวจโกดัง เร่งขายข้าว หวังช่วยยิ่งลักษณ์ ปมจำนำข้าว

นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าขายข้าวในโครงการรับจำนำข้าว ถือเป็นการรื้อคดีโครงการรับจำนำข้าวหรือไม่ว่า จะต้องไปสอบถามรายละเอียดจากนายภูมิธรรม เพราะมีการตั้งข้อสงสัยมานานแล้วว่า ข้าว 4-5 ปี เหตุใดจึงเป็นข้าวเน่า และจะนำไปขายเป็นอาหารสัตว์ หรือทำเป็นเชื้อเพลิง เพราะได้รับเบาะแสมาพอสมควรแล้วว่า บรรดาผู้ที่รับซื้อข้าว นำไปทำอะไร กำลังอยู่ในรูปคดี ขณะนี้ มีผู้ไปยื่นต่อ DSI ผู้ที่ซื้อไป ไม่ได้เอาไปทำอาหารสัตว์ เพราะมีแหล่งข่าวและมีพยานหลักฐานพอสมควรแล้ว

สิ่งที่นายภูมิธรรม เดินทางไปตรวจข้าวในโครงการ จึงเป็นการพิสูจน์เชิงประจักษ์ว่า ข้าว 10 ปีสามารถรับประทานได้หรือไม่ โดยที่ไม่ได้มีเรื่องการเมืองแต่อย่างใด นายภูมิธรรม ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ดูแลเรื่องข้าวและคลังสินค้ามากกว่า ไม่มีเรื่องการเมือง 

ถามว่าในฐานะนักกฎหมาย มองคดีของนางสาวยิ่งลักษณ์ มีมูลเหตุคดีทางการเมืองหรือไม่นั้น นายพิชิต ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม แต่ขอให้มองแค่ปัญหาการไปตรวจข้าวในโครงการรับจำนำข้าว ที่จังหวัดสุรินทร์​ อย่าไปถึงเรื่องคดีความ อยากให้คิดว่า รัฐบาลเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินไม่ถึงปี แต่มีกระแสข่าว โกดังดังนี้เป็นโกดังสุดท้ายที่เร่งรีบขาย ในฐานะนักกฎหมายมองว่า จะเป็นการทำลายพยานหลักฐาน เรื่องนี้ไม่มีเรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องของประชาชน เพราะหากขายข้าว ก็จะได้เงินเข้ารัฐ
 

นายพิชิตเปิดเผยอีกว่า จะทำโครงการ ทำเนียบช่วยได้ ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเป็นมือเป็นไม้ของนายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าทำเนียบรัฐบาล สามารถพึ่งพาได้ เป็นศูนย์ร้องทุกข์ ชี้เบาะแสทั้งเว็บพนันออนไลน์ ประชาชนที่โดนหลอกลวงจนหมดตัว หรือประชาชนรู้แหล่งอาชญากรรม การทุจริตในวงราชการ การหลอกลวงในสื่อโซเชียล สามารถมาชี้เบาะแสได้ที่ศูนย์ดังกล่าว

นายพิชิตกล่าวว่า สาเหตุการเปลี่ยนชื่อศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล ที่ถูกมองเพื่อเปลี่ยนภาพที่เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ว่า ไม่ได้เปลี่ยน แต่เป็นจากความรู้สึกของตนที่ทำเนียบรัฐบาล จะต้องช่วยเหลือประชาชนให้ได้ ไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง จะปรับปรุงกระบวนการการทำงานของศูนย์ฯ ให้มีความรวดเร็วมากขึ้น ภายใน 30 วัน จะมีขั้นตอนอย่างเป็นรูปธรรมและจะมีโฆษกศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สื่อสารกับประชาชนถึงการรับเรื่องร้องเรียน แม้จะแก้ไม่ได้ 100% แต่จะทราบปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อประสานไปยังนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานอื่นๆ ของรัฐต่อไป

นอกจากนี้ นายพิชิต ยังได้รับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชน ประเดิมงานแรกในการกำกับดูแลศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์รัฐบาล ทั้งปัญหาข้อพิพากที่ดินทำกินของประชาชนจนกลายเป็นคดีความและจะถูกยึดที่ทำกิน และปัญหาการทุจริตถูกเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับเงินทอน

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.