จับตาเกมยื้อ-ล้มกระดาน เลือกสว.67 ต่อวีซ่าอำนาจ 250สว.ลากยาวทำหน้าที่

สมาชิกวุฒิสภา(สว.)ทั้ง 250คน กำลังจะหมดวาระทำหน้าที่ วันที่ 10 พ.ค.67 แล้วเข้าสู่กระบวนการ คัดเลือกสว. ชุดใหม่ 200 คน เข้ามาทำหน้าที่ ผ่านระบบที่สลับซับซ้อน ยุ่งยาก ผู้ที่มีคุณสมบัติ เลือกสมัครที่เห็นว่าตนเองมีความเหมาะสม เลือกได้เพียง 1 กลุ่ม จาก 20 กลุ่มสาขาอาชีพ 


เข้าสู่กระบวนการเลือกกันเองตั้งแต่ระดับอำเภอ จังหวัด ไปสู่ระดับประเทศ ที่ต้องแบ่งสาย เลือกไขว้ ให้มีตัวแทนกลุ่มละ 10 คน จนเหลือสว.200คนสุดท้าย ไปทำหน้าที่

กระบวนการส่งไม้ต่อ จากสว.ชุดปัจจุบัน ไปสู่ การคัดเลือกสว.ชุดใหม่ กำลังจะเริ่มต้น แต่ขณะนี้ มีความพยายามสร้างฉากทัศน์อันน่ากลัว สว.ชุดใหม่ อาจไม่ได้เข้ามาทำหน้าที่ในเร็ววัน


-มีข่าวพรรคการเมือง กำหนดบุคคลที่จะลงสมัครสว.และอาจมีการสมยอมกันระหว่างพรรคการเมือง หรือกลุ่มต่างๆ ซึ่งทำให้การเลือกสว.เป็นไปโดยไม่สุจริต 


-มีการจัดตั้งผู้สมัครสว. ตามข้อเท็จจริงผู้สมัครต้องลงคะแนนให้แก่ตัวเอง 1คะแนน เนื่องจากมุ่งหมายจะเป็นสว.และเสียค่าสมัคร 2,500 บาท แต่หากได้คะแนนเท่ากับศูนย์ จะเห็นว่าการสมัครของผู้นั้นมีเจตนาเพื่อลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครอื่น 
 

 

เพื่อนำไปสู่

-การร้องว่าการเลือกสว. เป็นไปโดยไม่สุจริต มีผู้สมัครที่ไม่ได้รับคะแนน หรือมีคะแนนเสียงเท่ากัน เป็นจำนวนมาก อาจขอให้มีการระงับเลือกสว.ระดับอำเภอไว้ก่อน เพื่อให้มีการวินิจฉัยว่าการเลือกสว.ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์และพรป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว.

-พรป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 มาตรา59 วรรคหนึ่งให้อำนาจ กกต.ก่อนประกาศผลการเลือก หากมีเหตุอันควรสงสัยว่าการเลือกสว.มิได้เป็นไปด้วยความสุจริตหรือเที่ยงธรรม ให้กกต.มีอำนาจสั่งระงับ ยับยั้ง แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกการเลือกสว.หรือดำเนินการให้มีการเลือกสว.ใหม่ หรือนับคะแนนใหม่ 

-ถ้ากกต.สั่งระงับหรือยับยั้งการเลือกสว.ระดับอำเภอ จะส่งผลต่อการเลือกสว.ระดับจังหวัดและสว.ระดับประเทศ และการสั่งให้เลือกใหม่ ก็ต้องถือว่าให้มีการเลือกสว.ใหม่ทั้งประเทศ เพราะตามรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดเกณฑ์ตัวเลขที่ตายตัวว่าต้องได้มาซึ่งสว.จำนวนเท่าใดจึงให้ประกาศรับรองผล ต่างจากการเลือกตั้งสส. ที่กกต.ประกาศรับรองผลได้หากผลการนับคะแนนอยู่ที่ร้อยละ95
 

 

หากในช่วงเวลา 2 ปีนี้ มีการเลือกนายกรัฐมนตรี คนใหม่ ถึงแม้ 250สว. รักษาการจะ ‘โหวตไม่ได้’ แต่ 200สว.ชุดใหม่ ก็ยัง ‘ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้’ จะเป็นอย่างไร อะไรจะเกิดขึ้น 


แม้การเลือกสว.ครั้งนี้ ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วม ไม่ได้ไปใช้สิทธิ์เลือก ไม่ได้ไปลงคะแนนเสียง เหมือนกับการเลือกตั้งทั่วไป แต่ก็ต่างเฝ้ามอง ปรากฎการณ์ คาดการณ์ฉากทัศน์ สิ่งที่น่าจะเป็น น่าจะเกิดขึ้น

200สว.ชุดใหม่ ไม่ได้มีส่วนร่วมในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่อำนาจในการ ตรวจสอบคุณสมบัติ พิจารณาลงมติเลือกบุคคลไปทำหน้าที่ องค์กรอิสระ องค์กรยุติธรรมอีกหลายแห่ง ยังคงอยู่ และยังคงมี ส่วนสำคัญในการกำหนดทิศทาง แก้-ไม่แก้ รัฐธรรมนูญ ยังคงอยู่เหมือนเดิม 


'วัลลภ ตังคณานุรักษ์' สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ยืนยัน ช่วงรอยต่อระหว่างสว.ชุดเก่ากับชุดใหม่ หากมีการเลือกนายกรัฐมนตรีเกิดขึ้นหลังวันที่ 10 พ.ค.2567 สว.ชุดเก่ามีสิทธิ์โหวตนายกฯได้หรือไม่ว่า 


“แม้ในรัฐธรรมนูญจะระบุว่าให้สว.ชุดเก่าทำหน้าที่ไปจนกว่าจะมีสว.ชุดใหม่ก็ตาม สว.ชุดเก่าไม่ควรเข้าร่วมประชุม ไม่ควรจะไปยุ่งด้วย ยิ่งอยู่ในช่วงจะหมดวาระ แต่ต้องทำหน้าที่ต่อ ก็เป็นการทำหน้าที่เฉพาะเรื่องที่ค้างอยู่เท่านั้น ไม่ควรร่วมโหวตนายกฯ เพราะถือว่าทำให้เราเสียหาย ที่ผ่านมาเราก็โดนหนักแล้ว พอเสียที”


'เจษฎ์ โทณะวณิก' อดีตที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ให้ความเห็นผ่านรายการ เจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ เมื่อวันที่ 26เม.ย. ต่อกระบวนการล้มกระดานการเลือกสว. และมุมมองทางกฎหมาย 


-การยื้อเลือกสว. คงทำไม่ได้ หากการเลือกไม่สามารถทำได้ อาจกำหนดวันใหม่ ซึ่งมีกรอบวันเลือกใหม่ไม่เกิน 30 วัน 


-การประกาศผล เมื่อมีการร้อง หรือ ฟ้อง ผู้สมัครสว. มีโอกาสถ่วงการประกาศ แต่มีข้อกำหนดทางกฎหมายอยู่แล้วต้องทำอย่างไร เมื่อออกพระราชกฤษฎีกาการเลือกสว.ออกมา ก็มีเกณฑ์กำหนด จะต้องประกาศผล ในระยะเวลาเท่าไหร่ แม้อาจจะพอถ่วงได้ แต่ถึงอย่างไร ต้องประกาศออกมา


-สว.มีบัญชีสำรองอยู่ จะขยับบัญชีสำรองขึ้นมา แต่ถ้าสมมุติขยับแล้วเต็ม ต้องไปดูสว.มีเท่าไหร่ ถ้ามีมากพอ ก็ไม่ต้องเลือกใหม่ 


-การกำหนดวันประกาศผลเลือกสว. มีการกำหนดไว้ภายใน 30-60วัน ต้องประกาศผล ส่วนที่สวบสวนเรื่องร้องเรียนไม่เสร็จ เข้าใจว่ากกต. คงใช้แบบสส. คือประกาศผลไปก่อน เรื่องนี้เป็นอำนาจกกต.


-สว.ชุดรักษาการ คงไปเลือกนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ ในรัฐธรรมนูญมาตรา272 ตามบทเฉพาะกาล เขียนล็อกเอาไว้ให้เลือกในระยะเวลา5ปีแรก นับแต่มีสภาฯชุดแรก 

'สมชัย ศรีสุทธิยากร' อดีตกกต. โพสต์เฟซบุ๊ค ชี้ให้เห็นถึง ระเบียบกกต. เกี่ยวกับการแนะนำตัวผู้สมัครสว.ว่า


ระเบียบการแนะนำตัวผู้สมัคร สว. ประกาศในราชกิจจา วันนี้ (26 เมษายน 2567)
มีผลใช้บังคับ ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2567 เป็นต้นไป ยกเว้นข้อ 11 ห้ามผู้สมัครหรือผู้ช่วยเหลือผู้สมัครทำ ตั้งแต่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือก สว. (คาดว่า ประมาณวันที่ 11 หรือ 12 พฤษภาคม 2567)

จุดอ่อนของระเบียบนี้
1. ในคำนิยาม ที่ว่า การแนะนำตัว หมายความว่า การบอก ชี้แจง หรือแจกเอกสาร เพื่อให้ผู้สมัครอื่นรู้จัก ซึ่งกระทำได้โดยผู้สมัครและผู้ช่วยเหลือผู้สมัคร จะเกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างผู้สมัครที่มีและผู้สมัครที่ไม่มีผู้ช่วยเหลือ และยังไม่มีการกำหนดค่าใช้จ่ายของผู้ช่วยเหลือผู้สมัคร
2. ข้อ 6 ไม่มีการกำหนดจำนวนผู้ช่วยเหลือผู้สมัคร ดังนั้น ผู้สมัครที่มีเงินมาก อาจมีผู้ช่วยเหลือเป็นร้อยคน เพื่อนำเอกสารไปแจกจ่ายแก่ผู้สมัครอื่นได้ ในขณะที่ผู้สมัครที่ไม่มีผู้ช่วยจะเสียเปรียบมาก
3. ข้อ 7 และ 8 เอกสารแนะนำตัว 2 หน้ากระดาษ A4 ระบุว่าสามารถให้ใช้ในการแนะนำตัวโดยวิธีการทางอีเล็กทรอนิกส์ได้และเผยแพร่แก่ผู้สมัครอื่นเท่านั้น ปัญหาคือ จะทราบได้อย่างไรว่าใครคือผู้สมัครอื่น และหากเผยแพร่ทั่วไปทางเฟซบุ้ค ก็จะถือว่าผิด เนื่องจาก เป็นการเผยแพร่ต่อบุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่ผู้สมัครอื่น
4. ในกรณีที่มีบุคคลอื่น ที่ไม่ใช่ผู้ช่วยเหลือผู้สมัคร แต่ช่วยแนะนำตัวโดยผู้สมัครไม่มีส่วนรู้เห็น จะทราบได้อย่างไร และจะกลายเป็นว่าผู้สมัครดังกล่าวทำผิดกติกา ที่ไม่แจ้งผู้ช่วยเหลือผู้สมัคร


รอยต่อช่วง สว.250คน พ้นวาระการปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ 10พ.ค.67 กกต. ออกระเบียบกำหนดข้อห้ามต่างๆ กางเวลาไทม์ไลน์การเลือกสว. กำหนดวันประกาศผล 2ก.ค. ขณะเดียวกัน กระแสข่าวรุนแรง หนาหู มีทฤษฎี ความพยายามจงใจทำให้สะดุด ล้มกระดานการเลือกสว.67 ต่อวีซ่าทางอำนาจ ปล่อยให้ 250สว.ทำหน้าที่ยาวไป เริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ

กลเกมบางฝ่ายอยากเห็นการ ยื้อ-ล้มกระดานไปเลย อยู่ในมุมที่ประมาทไม่ได้ แต่อีกมุม อาจเป็นเพียงการออกมาให้ข่าวดักทางเอาไว้ สร้างทฤษฎีที่น่ากลัว ในท้ายที่สุด ไม่มีอะไรในกอไผ่ กระบวนการเลือกสว.67 เป็นไปตามขั้นตอนปกติ ได้200สว.มาทำหน้าที่  ไม่ว่าจะเป็น ทฤษฎียื้อ-ล้ม หรือแม้แต่ เดินหน้าต่อ ล้วนเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าตามติด ชนิดห้ามกะพริบตาเลยทีเดียว 
 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.