ก้าวไกล (ไม่)รอด ยุบพรรค จับตาภาวะ ผึ้งแตกรัง สส.เปิดดีล ซบพรรคใหม่
ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องจาก กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)จากกรณีมีหลักฐานอันควรเชื่อว่าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) มีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2)
'ชัยธวัช ตุลาธน' หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้ความเห็นหลังศาลรับคำร้องยุบพรรคเข้าสู่กระบวนการพิจารณา
'ศาลรัฐธรรมนูญให้เวลา 15 วัน หลังรับคำร้องกกต. ยื่นขอยุบพรรคก้าวไกล ศาลให้เวลา 15 วัน ในการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ทางฝ่ายกฎหมายของพรรค รวมถึงแกนนำพรรคที่เกี่ยวข้องจะต้องทำเอกสารให้ดีที่สุด หากดูจากระยะเวลา คงเป็นช่วงหลังสงกรานต์ คงจะถือโอกาสนี้ในระยะเวลาใกล้เคียงกันแถลงต่อสู้คดีต่อสาธารณะด้วย ไม่ใช่แค่ยื่นต่อสู้ในศาลอย่างเดียว
“ตอนนี้เดินหน้าสู้คดีอย่างเต็มที่ อย่าเพิ่งไปสรุปว่าคดีนี้ ผลจะเป็นอย่างไร เราเห็นว่ายังมีข้อโต้แย้งในทางกฎหมายอยู่'
'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และสส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ระบุว่า
'ก็ไม่รู้ว่าผู้ที่มีอำนาจในการยุบพรรคได้ถามตัวเองหรือไม่ว่ายุบพรรคไปจะได้อะไร ซึ่งในระยะสั้นอาจจะทำให้พรรคที่ถูกยุบอ่อนแรงลง ทำให้ฝ่ายค้านอันดับหนึ่งอ่อนแอลง แต่ในระยะยาวขณะเดียวกันมันก็เป็นการติดเทอร์โบ ทำให้พรรคที่ถูกยุบได้แต้มต่อทางการเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้า'
พรรคก้าวไกล เข้าสู่โหมดลุ้นระทึกอีกครั้ง หลังจากพักผ่อน หยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ คงจะต้องเตรียมข้อมูล ข้อแก้ต่าง ข้อหักล้างทางกฎหมาย นำส่งชี้แจงให้ศาลได้รับทราบ
ส่วนผลจะเป็นอย่างไรต่อไป อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อได้ฟังข้อมูลแล้ว เพียงพอหรือไม่ จะเปิดโอกาสให้มากกว่านี้หรือไม่ หรือจะประชุมกันเพื่อ กำหนดวันพิพากษา ตามมาเลย เป็นเรื่องที่ต้อง จับตาดูกันต่อไป
ในแวดวง ผู้เฝ้ามองการเมือง แทบจะร้อยทั้งร้อย วิเคราะห์คาดการณ์ไปล่วงหน้า งานนี้พรรคก้าวไกลน่าจะ ‘รอดยาก’
ว่ากันว่า พรรคก้าวไกล เตรียมรองรับแก้เกมเอาไว้ทุกสถานการณ์ ประเมินทุกความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น มีการเตรียมพรรค ก้าวใหม่ เอาไว้สำรองหาก ก้าวไกล เกิดอุบัติเหตุการเมืองจริงๆ รวมไปถึง ตระเตรียมบุคคลากรแถวต่อไป ขึ้นมาทำหน้าที่ หากผลออกทางร้าย กรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิ์การเมือง รวมไปถึง สส.ที่เข้าชื่อเสนอแก้112 โดนเล่นงานจริยธรรมทางการเมือง ถูกตัดสิทธิ์การเมืองตลอดชีวิต
ในขั้ว ปีกประชาธิปไตย สมัยหนึ่ง พรรคไทยรักไทย ถูกยุบพรรค ตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค 111 คน พรรคพลังประชาชน พรรคมัชฌิมาธิปไตย พรรคชาติไทย ในอดีต ก็เคยโดนตัดสินยุบพรรค ตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค ไปแล้ว
พรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกมองเป็น ภัยความมั่นคงใหม่ โดนยุบพรรค ตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค ไปแล้วรอบหนึ่ง แม้เปลี่ยนหัวมาเป็น ก้าวไกล จัดตั้งขุมกำลังใหม่ ฟื้นคืนมาได้ ชนะเลือกตั้งเมื่อปี2566 ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่รวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ซ้ำร้ายยังมาเผชิญ มรสุมยุบพรรคอีกรอบ
ในประวัติศาสตร์การเมือง สิ่งหนึ่งที่มักจะเกิดขึ้น ตามมาเสมอๆ หากพรรคที่สังกัดเดิม ไปไม่รอด สส.ที่เป็นสมาชิกพรรค และไม่โดนตัดสิทธิ์การเมือง ก็มีเพียง2ทาง ยังร่วมงานกับพรรคเดิมต่อ แต่ขณะเดียวกัน บางภาคส่วนก็ประเมิน หากพรรคยังเดินไปในแนวทาง มีนโยบายที่สุ่มเสี่ยงโดนเล่นงานอย่างนี้ การโดนตัดสิทธิ์การเมือง คดียุบพรรค จะวนเวียนเช่นนี้ ไม่จบไม่สิ้น
กับอีกหนทาง หนีตายทางการเมือง หารังใหม่ ย้อนไปล่าสุด ไม่ต้องมองอื่นไกล
หลังยุบพรรคอนาคตใหม่ มีกรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิ 15 คน เหลือสส. 65 คน ต่อมามี สส.ย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย 9 คน อีก 1 คน ไปสังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา ยังไม่นับรวม ในเวลาต่อมา ก่อนการเลือกตั้งปี2566 มีสส.อีกหลายคนไป ไม่เข้าร่วม ไม่สังฆกรรมกับพรรคเดิม และในท้ายที่สุดรอถึงจังหวะเวลาที่เหมาะสม หาสังกัดใหม่ และลงสมัครรับเลือกตั้งในพรรคการเมืองใหม่ ก็มีอยู่เป็นจำนวนมาก
และในครั้งนี้ สส.บางคน มีปฏิกิริยาแปลกๆ มีทั้งฝ่ายตรงข้าม ชักชวนสส.คนรุ่นใหม่ ที่มีอุดมการณ์ไปร่วมงานการเมือง เช่นเดียวกับ สส.บางคน เริ่มประเมินผลกระทบที่จะตามมา พูดคุยนอกรอบ เพื่อนสส.ต่างพรรคที่มีความสนิทสนมส่วนตัว อดีตสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ในสังกัดพรรคใหม่ เป็นการหาข้อมูลพร้อมกับส่งสัญญาณ ให้สัญญาใจอะไรกันไว้บางอย่าง ปูทางเอาไว้สำหรับความไม่แน่นอนของพรรค และอนาคตทางการเมืองของตัวเอง
“การอภิปรายในครั้งนี้ อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตการเมืองของผม ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องความลับอะไร ทุกคนทราบดีอยู่ว่าชีวิตทางการเมืองของผมตอนนี้แขวนอยู่บนเส้นด้าย แต่พร้อมที่จะเดินจากไปอย่างผู้ชนะ ไม่ได้มีอะไรติดค้างใจต่อไป อย่างที่ได้เห็นเพื่อน สส.ข้างๆ ผม อยู่รอบตัวผม ก็รู้สึกเบาใจ ไม่ได้ค้างคาใจอีกต่อไป และผมก็มั่นใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับพรรคของผม การยุบพรรคไม่ได้ทำให้การเดินทางของประเทศไทยเปลี่ยนแปลง”นายพิธา กล่าวตอนหนึ่งระหว่างอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา152 ค่ำคืนวันที่ 4เม.ย.
ผลพวง ผลกระทบ การดำเนินนโยบายสุ่มเสี่ยง บวกกับ การประเมินถึงอนาคตการเมืองโดยที่มี คดียุบพรรค เป็นตัวเร่งเร้าปฏิกิริยา นับจากนี้คงต้องเฝ้ามองจับตา สส.ก้าวไกล จากผู้ที่ไม่โดนตัดสิทธิ์การเมือง จะเหลือรอดไปร่วมงานใน พรรคก้าวใหม่ กันทั้งหมดหรือไม่
วันที่ 6 เม.ย. พรรคก้าวไกล เพิ่งจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี สส. ที่ยังคงเหลืออยู่ เดินทางมาร่วมประชุมพรรค อาจเป็นการมาร่วมกิจกรรมการเมืองกับพรรคเป็นครั้งสุดท้าย หันซ้าย หันขวาอีกที เพื่อนสส.ที่เคยสวมเสื้อสีส้ม อาจกลายเป็น เพื่อนเก่าในเสื้อสีใหม่ ก็เป็นได้
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.