ธนาธร ผุดแคมเปญชวนสมัครสว. ลุยแก้รธน. ย้ำ ยุบก้าวไกล ฆ่าอุดมการณ์ไม่ได้

ที่อาคารสำนักงานเครือเนชั่น ย่านบางนา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า นางสาวพรรณิการ์ วานิช เดินทางมาพบปะคณะผู้บริหาร หัวหน้าฝ่ายข่าวเครือเนชั่น พร้อมกับให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดแคมเปญสว. "1บ้าน 1ผู้สมัคร"  ซึ่งจะมีการเปิดตัวรณรงค์ หลังเทศกาลสงกรานต์  หรือ ราววันที่  22-23 เมษายน โดยใช้เวลารณรงค์ไม่ยาวนานมากนัก ก่อนมีพระราชกฤษฏีกาประกาศเลือกสว.ว่า ได้รณรงค์เชิญชวน ผู้สมัครอิสระ ให้มาลงสมัครเข้ารับการคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา(สว.) ชุดใหม่200คน หลังจาก250สว.ชุดปัจจุบัน กำลังจะสิ้นสุดวาระการทำหน้าที่วันที่ 11พ.ค.67 ตามกฎหมาย คณะก้าวหน้าจะส่งผู้สมัครสว.ไม่ได้ จึงได้เปิดแคมเปญสว. เป็นการรณรงค์เชิญชวนให้คนไทยที่มีความรู้ ความสามารถแต่ละสาขาอาชีพ ที่มีจิตใจอยากฟื้นฟูประชาธิปไตย อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงในบ้านเมือง ให้มาลงสมัครสว.ให้ได้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากไม่อยากเห็น สว.ที่มาจากการลากตั้ง หรือ สว.ที่มาจากลุ่มพวกพ้อง จึงได้เชิญชวนบุคคลที่มีความเป็นอิสระแต่ละกลุ่มสาขาอาชีพ ให้มาลงสมัครสว. 
 

การเริ่มต้นของสว.ชุดปี2567 จะมีส่วนสำคัญในการพัฒนาประชาธิปไตย ที่ผ่านมาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา272 หรือแม้แต่การเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องอาศัยเสียงสว.2ใน3 จากที่มีอยู่ หรือประมาณ 70 คนในการเข้าชื่อเสนอแก้ไข ที่ผ่านมา การจะเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา272 หรือเรื่องอื่นๆทำไม่ได้ เพราะเสียงสว.ไม่ถึง กฎหมายสำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องท้องถิ่น อำนาจสว.มาตรา272 จึงแก้ไขไม่ได้ เพราะสว.ขวางหมด แก้ไขได้เพียงแค่กติกาการเลือกตั้งอย่างเดียว

นายธนาธรกล่าวถึงค่าสมัครสว.2500บาทต่อคน โดยส่วนตัวมองว่าแพงมาก ไม่เห็นด้วย จะมีคนพร้อมจ่าย เพื่อจะเข้ามาเลือกสว.ด้วยกันเองจะมีอยู่น้อยมาก แต่ในเมื่อกติกาออกมาแบบนี้ เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เราจึงต้องรณรงค์คนมีอุดมการณ์ ความรู้ความสามารถแต่ละสาขาอาชีพที่มีความเป็นอิสระ ให้มาลงสมัครสว. ยอมรับว่า การออกแคมเปญรณรงค์ครั้งนี้ เพื่อป้องกัน การบล็อกโหวตสว.ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
 

นายธนาธรยังกล่าวถึงกรณี ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องจากกกต.ที่ยื่นให้วินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกลไว้พิจารณาว่า ส่วนตัวไม่คิดว่าการยุบพรรคก้าวไกล จะส่งผลต่อภาพรวมกับประชาธิปไตยในประเทศ การยุบพรรคก้าวไกล จะยิ่งทำให้คนไม่พอใจ หมดหวังการเมืองในสภาฯ หากคนเริ่มหมดหวังอาจเปลี่ยนจากการณรงค์ไปสู่วิธีอื่น ทั้งที่เราควรมีพื้นที่ในสภาฯ เพื่อร่วมกันหาทางออก ไม่ว่าจะเห็นเหมือนกัน เห็นต่างกัน ก็ไม่เป็นอะไร สภาฯควรเป็นที่ผูกรวมความคิดคนเอาไว้ในสภาฯ 

"แต่ถ้าพรรคก้าวไกลถูกยุบ เชื่อว่า นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรค นายอภิชาติ ศิริสุนทร เลขาธิการพรรค ยังหนักแน่น ไม่ท้อถอย จะสืบสานอุดมการณ์พรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกลต่อไป ต่อให้ยุบพรรคก้าวไกล ก็ฆ่าอุดมการณ์ไม่ได้ ต่อให้ยุบพรรค แต่ก้าวไกลยังไปต่อ ก้าวไกลยังมีบุคลากรที่มีคุณภาพ มีคุณสมบัติมากมาย พร้อมนำพาพรรคไปต่อ ส่วนผู้สนับสนุนพรรค ยิ่งยุบพรรค จะยิ่งมีผู้สนับสนุนมากขึ้น"นายธนาธรกล่าว

สำหรับข้อกังวลหากจะมีการยุบพรรค ภายใน60วันสส.จะต้องหาสังกัดพรรคใหม่นั้น เราเคยมีประสบการณ์ในเรื่องนี้มาก่อน ที่มีการประเมินว่า มีบุคคลากร 2 ส่วนที่จะได้รับผลกระทบไปด้วยคือ กรรมการบริหารพรรค กับ ผู้ที่เสนอชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 ตรงนี้ ทีหลังควรเขียนกฎหมายเอาไว้ให้ชัดอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เขียนให้ชัดไปเลย ไม่ต้องทำให้กำกวม ให้คนเข้าใจตรงกันอะไรทำได้บ้าง ทำไม่ได้ ส่วนตัวยังมองว่า 44สส.ที่เสนอแก้กฎหมายมาตราดังกล่าว ไม่ควรถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง