นายกฯขอทุกกระทรวงดึงนักลงทุน นำ นครพนม จากเมืองรอง สู่เมืองหลัก

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่ จ.นครพนม เยี่ยมชมหมู่บ้านมิตรภาพไทย – เวียดนาม อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ พร้อมทั้งประชุมหาแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยว และพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไทย – เวียดนาม ซึ่งสถานที่นี้คนในพื้นที่เรียกที่นี่ว่า บ้านลุงโฮจิมินห์ เพราะเคยเป็นบ้านหลังที่ใช้จริงของประธานาธิบดีโฮจิมินห์ รวมถึงได้รวบรวมข้าวของเครื่องใช้ และจัดแสดงเรื่องราวที่สำคัญๆเอาไว้อีกด้วย

เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงในบริเวณนี้ได้มีสมาชิกสมาคมไทยเวียดนาม แต่งกายด้วยชุดอ๋าวหย่าย ซึ่งเป็นประจำชาติชุดหนึ่งของชาวเวียดนามมาให้การต้อนรับ จากนั้น นายกรัฐมนตรีแสดงความเคารพรูปปั้นเคารพของประธานโฮจิมินห์ และได้ปลูกต้นกันเกรา ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดนครพนม ก่อนที่จะประชุมประเด็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไทย – เวียดนาม ร่วมกับ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม  ,นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว , นางมนพร เจริญรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ,นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังร่วมหารือประชุมประเด็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไทย – เวียดนาม 

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปที่ด่านศุลกากรจังหวัดนครพนม สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 3 ต.อาจสามารถ อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม เพื่อติดตามสถานการณ์การส่งออกและพื้นที่ศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) โดยจะมีการติดตามและพิจารณาในประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของด่านศุลกากรฯ และการพัฒนาพื้นที่

โดยมีการรายงานข้อมูลเรื่องสินค้านำเข้า 5 อันดับแรก คือ โซล่าเซลล์ พลังงานไฟฟ้า ปูนซีเมนต์ ปุ๋ย และรายงานข้อมูลการส่งออกในปี 2565 ยอดการส่งออกลดลง เนื่องจากคาบเกี่ยวกับช่วงโควิด และในปี 2566 ยอดการส่งออกเพิ่มสูงขึ้น เพราะด่านที่จีนเปิดซึ่งจะมีการส่งผลไม้เป็นหลัก รองลงมาเป็น เครื่องดื่มชูกำลัง 

อย่างไรก็ตาม ในระยะ4เดือนที่ผ่านมา ยอดนำเข้าลดลงเนื่องจากการนำเข้าไปใช้ด่านอื่นแทนเช่น หนองคายและเชียงของ แต่เมื่อรวมทุกด่านตัวเลขการส่งออกเพิ่มขึ้น ขณะที่ด่านศุลกากรที่จังหวัดนครพนม ตู้ที่ส่งออกกลับมาตู้เปล่า นากยรัฐมนตรีจึงตั้งข้อสังเกตุว่าเพราะหตุใดจึงเป็นตู้เปล่าแล้วมีวิธีแก้ไขหรือไม่ ด้านตัวแทนด่านศุลกากรจึงชี้แจงว่าทางแก้คือให้ผู้ประกอบการหาสินค้ากลับเข้ามา

นายจุลพันธ์ จึงกล่าวเสริมว่า ปัจจุบัน กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการ ช่วยผู้ประกอบการในการหาสินค้า นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ก็ต้องดูความคุ้มค่าด้วย ส่วนการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษนครพนม นายกรัฐมนตรีได้มีการแนะนำว่าปัญหาใหญ่ของประเทศขณะนี้อยู่ที่การลงทุน และอยากให้ทุกกระทรวง ทบวง กรมบูรณาการร่วมกันเพื่อดึงนักลงทุนเข้ามา ในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ถ้าไม่มีคนมาลงทุนเขตเศรษฐกิจพิเศษก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี 

ทั้งนี้ในบริเวณพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษยังมีปัญหาเรื่องของ สัญญาเช่าจากผู้รับเหมาที่มีเพียงเจ้าเดียว และมีการขอขยายสัญญาเนื่องจาก ปัญหาโควิดในช่วงที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีจึงแนะนำว่า ไม่ควรเป็นบริษัทเดียวตั้งแต่แรก และถ้าทำไม่ได้ก็ยกเลิกสัญญา ด้านนางมนพร ชี้แจงว่า ถ้าจะยกเลิกควรยกเลิกเป็นเฟส ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหา  

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายว่าว่าตนเคยมาที่นี่แล้วตั้งแต่ก่อนเป็นรัฐบาล  ซึ่งก่อนจะลงพื้นที่ก็เตรียมตัวมาพอสมควรเหมือนกัน เพราะจังหวัดนครพนม เป็นเมืองรองจะพยามผลักดันให้เป็นเมืองหลัก  หากดูประวัติศาสตร์ที่มีมายาวนานของนครพนมเคยเป็นพื้นที่รบของคอมมิวนิสต์มาก่อน เพราะฉะนั้นจังหวัดนครพนมในอดีตคือพื้นที่สู้รบปัจจุบันคือพื้นที่สันติภาพ  อยากให้คนไทยนำบทเรียนนี้มาประคับประคองรักษาสันติภาพ  ความสงบสุข และความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น  ไม่ว่าจะเป็นความเป็นอยู่พื้นฐาน หรือเรื่องเศรษฐกิจ  

วันนี้อยากให้ทุกคนใส่ใจและนึกถึงประวัติศาสตร์อันยาวนาน  เรามีความเจริญอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะสันติสุข ปัญหาเรื่องสันติภาพปัจจุบันคนไทยถือว่าเป็นของตายมาแล้ว  แต่หากไม่มีความสันติภาพ  การค้าการลงทุนก็จะไม่เกิดขึ้น

ส่วนเรื่องการค้าการลงทุนมันคือปัญหาแต่ต้นก็ไม่อยากใช้คำว่าปัญหาขอใช้คำว่าโอกาสที่จะทำให้นครพนมจากเมืองรองชั้นนำเป็นเป็นเมืองหลักให้ได้  ขณะที่ปัญหาต่างๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องของด่านหรือถนนชำรุด ซึ่งต้องใช้งบประมาณ  ส่วนตัวตนมองว่าการใช้งบประมาณไม่ใช่ปัญหา  แต่จังหวัดเองก็ต้องช่วยตนเองได้เพราะจะต้องมีการแข่งขันกับจังหวัดอื่นๆไม่ว่าจะเป็นสกลนคร หนองคาย และมุกดาหาร    

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้พูดแซวนางมนพรในห้องประชุม ว่าในพื้นที่จังหวัดนครพนมมีทั้งรัฐมนตรีและสส. การพัฒนาจะมีความลำเอียงอยู่แล้ว จึงอยากเตือนสติว่าจะต้องพัฒนาให้ครอบคลุมทุกมิติ

ส่วนเรื่องของการลงทุนรถไฟความเร็วสูงรถไฟรางคู่ ศูนย์การเปลี่ยนถ่ายสินค้าเป็นเรื่องที่ดีที่จะต้องทำ เพราะจะช่วยอำนวยความสะดวกโดยเฉพาะเรื่องเวลา  

การลงพื้นที่จังหวัดนครพนมหลายครั้ง อยากสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลมีความตั้งใจที่จะพัฒนาพื้นที่จริงจัง ไม่อยากให้เป็นการจุดพลุ แล้วหายไป จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันพัฒนาพื้นที่

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.