เศรษฐา โว แลนด์บริดจ์ จูงใจต่างชาติมาตั้งแหล่งผลิต ชี้ เป็นโอกาสสำคัญประเทศ

ที่จ.ระนอง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ เดินทางมาที่อุทยานแห่งชาติแหลมสน ต.ม่วงกลวง อ.กะเปอร์ จ.ระนอง เพื่อติดตามพื้นที่โครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน (แลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง) และให้สัมภาษณ์ภายหลังได้รับรายงานโครงการดังกล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่ได้มาลงพื้นที่ ได้รับฟังการนำเสนอข้อมูลของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจรกระทรวงคมนาคม ภาพรวมจะมีการถมทะเลออกไปเท่าไหร่ ช่องน้ำเป็นอย่างไรบ้าง จากที่รับฟังรายงานคาดว่า จะมีการตั้งต่อหม้อออกไป ประชาชนสามารถประกอบอาชีพประมงได้
 

เรื่องการทำโครงการใหญ่ๆ ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย รัฐบาลก็ต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่ว่าผลกระทบเป็นอย่างไร หากจำได้ 20 ปีที่ผ่านมา มีโครงการเมกะโปรเจคใหญ่ระดับชาติ สนามบินสุวรรณภูมิ ตอนนั้นมีการถกเถียงกันนานมากว่า จะสร้างสนามบินแห่งที่สองรองจากดอนเมือง รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร เดินหน้าลุยเต็มตัว จนทำเป็นสนามบินสุวรรณภูมิขึ้นมาได้ สมัยนั้นนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

20-30 ปีที่ผ่านมา เราแทบไม่มีเมกะโปรเจคใหญ่ ขอให้ดูว่าประโยชน์ที่ได้รับจากสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อ 20 ปีที่แล้วมาจนถึงวันนี้มีประโยชน์มหาศาล ทำให้ไทยเป็นจุดศูนย์กลางการท่องเที่ยวสำคัญ หากไม่มีโครงการเหล่านี้ขึ้นมา จะไม่มาถึงจุดนี้ เป็นธรรมดาที่นานๆจะมีเมกะโปรเจค ดังนั้นรัฐบาลพร้อมฟังเสียงประชาชนทุกคน ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

นายเศรษฐากล่าวว่า โครงการแลนด์บริดจ์เป็นโครงการที่รัฐบาลต้องการทำการเชื่อมต่อระหว่างทะเลอันดามันกับอ่าวไทยเข้าด้วยกัน จะร่นระยะทางการขนถ่ายสินค้าที่ผ่านช่องแคบมะละกา ที่เริ่มมีความหนาแน่น เริ่มมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เรื่องการขนถ่ายสินค้าจากมุมหนึ่งของโลกไปอีกด้าน ถือว่ามีความอึดอัดพอสมควร

การที่เราจะสร้างโครงการเมกะโปรเจคที่จะเชื่อมระหว่างฝั่งอันดามันไปทะเลอ่าวไทยส่งต่อไปทั่วโลก ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ จะนำความเจริญก้าวหน้าให้กับประเทศ อาทิ การขนถ่ายสินค้า การเป็นแรงจูงใจให้บริษัทข้ามชาติหลายบริษัทมาสร้างแหล่งผลิต ส่งออกยกตัวอย่าง เช่น รถยนต์ เครื่องจักรกล อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ถ้าหากดูรายละเอียดจริงๆ เรื่องการขนขายสินค้าไปทั่วโลก 60% ผ่านช่องแคบมะละกา ถือเป็นความมั่นคงทางเศรษฐกิจที่ต้องผลักดันให้ประเทศมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใหญ่ๆ

นายเศรษฐากล่าวอีกว่า โครงการนี้ต้องศึกษาก่อน รัฐบาลจะดูแหล่งท่องเที่ยว รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง การที่เราจะสนับสนุนตรงนี้เราต้องทำควบคู่กับความเจริญทางเศรษฐกิจ จะต้องมีการศึกษาควบคู่ไปกับการดำเนินการ และฟังความคิดเห็นของประชาชน ไม่มีความกังวลในเรื่องการทำความเข้าใจอาชีพของประชาชนจากโครงการดังกล่าว เป็นโอกาส แค่พื้นที่ไม่ใช่แค่คนขายสินค้าเพียงอย่างเดียว เรือสำราญสามารถเข้ามาเทียบจอด 

"เชื่อว่านี่ถือเป็นโอกาสสำคัญไม่ใช่เฉพาะชาวระนอง แต่เป็นโอกาสของจังหวัดแถบฝั่งอันดามันทั้งหลาย ควบคู่ไปกับการพัฒนาภาคใต้ทั้งภูมิภาค อาทิ สนามบินอันดามันที่อยู่ทางตอนเหนือของภูเก็ตที่จะเป็นสนามบินขนาดใหญ่ สิ่งเหล่านี้เป็นการทำงานควบคู่กันไปและรัฐบาลก็มีความเชื่อมั่นว่า จะยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนและคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนชาวภาคใต้ ส่วนเรื่องความมั่นคง ยืนยันว่าเราดูแลครบทุกมิติ"นายเศรษฐากล่าว  

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เดินมารับหนังสือกับมือจากตัวแทนคนไทยพลัดถิ่น ต.ราชกรูด อ.เมือง จ.ระนอง ที่ได้มายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลฟังเสียงของคนในพื้นที่ รวมถึงชะลอโครงการดังกล่าวก่อน โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวกับตัวแทนกลุ่มดังกล่าวว่า ไม่ต้องห่วง ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นเรื่องที่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญโครงการแลนด์บริดจ์ เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทุกคน จากนั้นตัวแทนกลุ่มดังกล่าวได้กล่าวเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่จริงใจรับฟังเสียงของชาวบ้านในพื้นที่ด้วย