เพื่อไทย ฉุน ผู้ว่าธปท. ไม่ยอมมาแจง กมธ.งบ67 คาใจ ปล่อยขึ้นดอกเบี้ย
วันที่10ม.ค. ที่อาคารรัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2567 ครั้งที่ 2 มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ เป็นประธานการประชุม โดยที่ประชุมได้พิจารณาภาพรวมเศรษฐกิจ เชิญผู้แทนจากกระทรวงการคลัง สำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงบประมาณ มาให้ข้อมูล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงแรกของการประชุม กรรมาธิการฯ จากพรรคเพื่อไทย ได้แก่ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ อดีตสส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย แสดงความไม่พอใจ ต่อผู้แทนธปท. ภายหลังจากที่ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าธปท. ไม่ได้มาชี้แจงด้วยตัวเอง ทั้งที่ การประชุมกมธ.ในวาระนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก
ซึ่งผู้แทนของ ธปท. ยืนยันว่า ได้รับมอบหมายจาก ผู้ว่าธปท. ให้มาชี้แจงต่อกรรมาธิการฯ ขอยืนยันว่า นายเศรษฐพุฒิ มีภารกิจด่วน
จากนั้น กรรมาธิการฯ พรรคเพื่อไทย ตั้งคำถามการทำงานของธปท. หลายเรื่อง โดยเฉพาะการปล่อยให้เกิดช่องว่างระหว่างดอกเบี้ยเงินกู้กับดอกเบี้ยเงินฝาก ที่ห่างกันมาก จนสร้างภาระให้กับประชาชนที่เป็นหนี้จำนวนมาก ประชาชนต้องประสบปัญหามาตั้งแต่การระบาดของโควิด–19 แม้ ธปท. จะมีหน้าที่ดูแลธนาคารพาณิชย์ เพื่อให้สถานะของธนาคารมีความมั่นคง เพื่อไม่ให้กระทบต่อการเงินของประเทศ แต่อีกด้านหนึ่งควรพิจารณาถึงความเดือดร้อนของประชาชนด้วย ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ ทำกำไรได้มากถึง 2 แสนล้านบาท
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้สอบถามผู้แทน ทั้ง 4 หน่วยงานถ้าจะนิยามความหมายของคำว่า วิกฤตเศรษฐกิจ จะต้องนิยามว่าอย่างไร จะต้องมีปัจจัยอะไรบ้างที่จะต้องแสดงให้เห็นถึงความเป็น วิกฤตเศรษฐกิจ
ผู้แทนธปท. ชี้แจงว่า ธปท.โดยเฉพาะคณะกรรมการนโยบายทางการเงิน (กนง.)เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชน จากการปรับตัวที่สูงขึ้นของดอกเบี้ย กนง.จึงได้มีมาตรการไปยังธนาคารเอกชน ให้ลงไปดูแลลูกหนี้ เพื่อให้มีการปรับโครงสร้างหนี้ ทั้งก่อนและหลังเป็นลูกหนี้เอ็นพีแอล นอกจากนี้การปรับดอกเบี้ย นโยบายในปัจจุบันกนง. มองว่ามีความเหมาะสม กับศักยภาพเศรษฐกิจของประเทศและสอดคล้องกับการเจริญเติบโตเศรษฐกิจ
การนิยามคำว่า วิกฤตเศรษฐกิจ นั้นจะต้องพิจารณาข้อมูลรอบด้าน และหลายปัจจัยที่เกิดขึ้น เช่น สถาบันการเงินที่มีหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้จำนวนมาก จนกระทบต่อสถานะธนาคาร การเกิดภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วและเป็นเวลานาน หรือแม้แต่การเกิดวิกฤต จากสถานการณ์ไม่คาดคิด เช่น โควิด19 ที่พอจะเห็นได้ว่าเป็นตัวอย่างของคำว่า วิกฤตเศรษฐกิจ หรือแม้แต่ปัญหาอุทกภัยที่เคยทำให้การเจริญเติบโตเศรษฐกิจของประเทศติดลบ จนต้องมีการออก พ.ร.ก. ในช่วงเวลาขณะนั้น
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.