นายกฯ เศรษฐา มั่งคั่ง 1,020 ล้านบาทนาฬิกาหรูเต็มข้อมือ

สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กรณีเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 5 กันยายน 2566 โดยมีทรัพย์สินของตนเองและคู่สมรสรวม 1,020,468,727 บาท และมีหนี้สินจำนวน 10,182,549 บาท

โดยรายการทรัพย์สินของนายเศรษฐา มีจำนวน 659,391,610 บาท  ซึ่งประกอบไปด้วย เงินสดจำนวน 1 ล้านบาท, เงินฝาก 68,986,558 บาทในจำนวน 47 บัญชี /เงินลงทุน 1,301,668 บาท/ที่ดิน ในเขตคลองเตยพระโขนงเนื้อที่ 1 งาน 98 ตารางวามูลค่า 158,400,000 บาท /โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 156,423,120 บาท เป็นห้องชุด ที่หัวหินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ บ้าน3 ชั้นที่คลองเตย กทม. มูลค่ากว่า 18 ล้านบาท / ยานพาหนะ 50 ล้านบาท  โดยมีรถยรต์ Aston Martin รุ่น DB5 มูลค่า 50ล้านบาท/ สิทธิ์และสัมปทาน 87,539,563 บาท 

สำหรับรายการทรัพย์สินอื่น ของนายเศรษฐารวม 135, 740,700 บาท ประกอบไปด้วยนาฬิกา 38 เรือน มูลค่า 121,953,100 บาท  เช่น นาฬิกา Patek Philippe 5470P -001 มูลค่า 30,000,000 บาทได้มาเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 /พระเครื่อง -ตระกุด 6 องค์  มูลค่า 1,622,600 บาท / สร้อยคอทองคำ 1 เส้น 165,000 บาท และหีบหลุยส์วิตตอง x สุพรีม 1 ใบ 6 ล้านบาท และมีรายการหนี้สินเงินเบิกเกินบัญชีจำนวน 9,732,579 บาท

ขณะที่คู่สมรส นางพักตร์พิไล ทวีสิน ภรรยา  มีทรัพย์สิน 361,077,116 บาท ประกอบไปด้วยเงินสด 1,800,000 บาท เงินฝาก 38 บัญชีจำนวน 47,023,391 บาท /เงินลงทุน 52,352,913 บาท / ยานพาหนะ 2,800,000 บาท มีรถยนต์ Toyota Alphard Hybrid X2.5 1,370,000 บาท ,รถยนต์ FIAT รุ่น 500 Abart Trbuto 680,000 บาท และรถยรต์ Tesla รุ่น Model Y Standard 750,000 บาท / สิทธิ์และสัมปทาน 845,511 บาท 

สำหรับทรัพย์สินอื่นมูลค่ารวม 256,255,300 บาท ประกอบด้วย นาฬิกาจำนวน 31 เรือน มูลค่า 84,869,300 บาท/ กระเป๋า 48 ใบ 37,010,500 บาท  เช่น Hermes Birkin ไซส์ 30 Black Matte Color หนัง Porosus Crocodile มูลค่า  2,080,000 บาท / พระเครื่อง 2 องค์ ไพรีพินาศ และหลวงปูแหวนที่ประเมินมูลค่าไม่ได้ /เสื้อผ้า 5 ชุด 2,820,000 บาท และมีเครื่องประดับ เข็มกลัดมุก สร้อยเพชร ไข่มุก กำไรตะปูฝังเพชร ต่างหูเพชร ที่เป็นอัญมณี แหวนเพชรอัญมณีจี้ทองฝังเพชร จี้เพชร มูลค่ารวม 131,390,500 บาท  โดยมีรายการหนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชีจำนวน 449,970 บาท

สำหรับข้อมูลรายได้และรายจ่ายต่อปี ของนายเศรษฐา มี รายได้ประจำ เป็นเงินเดือนค่าจ้างและโบนัส 153,570,160 บาท เป็นเงินบำนาญชราภาพ 45,694 บาท , เบี้ยประชุมและค่าวิทยากร 185,000 บาท  ส่วนรายได้ จากทรัพย์สินเงินได้จากการสิ้นสุดสมาชิกภาพในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 65,200,328 บาท/ผลประโยชน์จากการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล 825,402 บาท ยังมีส่วนแบ่งกำไรจากกองทุน LMF กับ RMF 12,069 บาท โดยยังมีรายได้จากที่บุตรให้รายปีจำนวน 20 ล้านบาท และมีรายได้อื่นเงินชดเชยกรณีเกษียณอายุจำนวน 13,333,333 บาท รวมรายได้ต่อปีเฉพาะของนายเศรษฐา 253,636,771 บาท 

โดย มีรายจ่ายต่อปีเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 36,500,000 บาทและค่าใช้จ่ายในครัวเรือน 1,900,000 บาท มีรายจ่ายค่าอุปการะมารดา 4,762,000 ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว8ล้านบาท/ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 3,957 บาทเงินบริจาค 465,000 บาท 

นายเศรษฐามีบุตร 3 คน นายณภัทร ทวีสิน ,นายวรัตม์ ทวีสิน และนางสาวชนัญญา ทวีสิน โดยก่อนหน้านี้ประวัติการทำงานย้อนหลัง 5 ปี หรือ  ปี 2564 นายเศรษฐา ดำรงตำแหน่งประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทแสนสิริ จำกัด มหาชน และในปี 2553 ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.