ระเบียบใหม่คุมขังนักโทษนอกเรือนจำสังคมกังขาเอื้อทักษิณหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รักษาราชการแทน อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ออก ระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2566 ซึ่งระเบียบดังกล่าวเป็นที่จับตามองว่าออกมาเพื่อเอื้อต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือไม่ โดยเฉพาะนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งพักรักษาตัวด้วยอาหารป่วย 4โรคประจำตัวรุมเร้า อยู่ที่ชั้น14 โรงพยาบาลตำรวจและจะครบกำหนดเวลา 120 วัน วันที่ 22 ธ.ค.2566 ท่ามกลางการถูกตั้งคำถามจากสังคมมาตลอดว่าป่วยจริงหรือไม่
 

นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก  

แสดงท่าทีต่อระเบียบของกรมราชทัณฑ์ว่า กรณีกรมราชทัณฑ์ออกระเบียบว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2566 ที่มีการกำหนดสถานที่คุมขังอื่นที่มิใช่เรือนจำ เท่ากับ #ระเบียบใหญ่กว่าพรบ #ราชทัณฑ์อำนาจเหนือศาล

รัฐสภาไทยคงต้องเร่งต้องแก้ไขพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ 2566 กันด่วนแล้วครับ
เพราะต่อไป คำว่า “เรือนจำ”ในมาตรา4 น่าจะหมดความหมาย?
ใช้ไม่ได้ หรือคงไม่ได้ใช้ สำหรับควบคุม ขังหรือจำคุกผู้ต้องขังกันแล้ว
ระเบียบที่ออกใหม่ ให้นักโทษทุกคนไปขังในบ้าน อาคาร คอนโด รพ โรงแรม รีสอร์ท สนามกอล์ฟ อาบ…นวด ฯลฯ
แทนเรือนจำกันหมดคุกดีกว่ามั้ย 555
#คนเดียวในโลก #โกงได้แม้กระทั่งการติดคุก
#ก้าวไกล #ค้านเป็นมั้ย
 

ขณะที่นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุถึงระเบียบใหม่ของกรมราชทัณฑ์ เนื้อหาดังนี้ 

ยิ่งกว่า พรบ.สุดซอย
เป็นไปได้มากที่ นช.ทักษิณ ชินวัตร จะไม่ได้เข้าเรือนจำแม้แต่วันเดียว กระบวนการอุ้มหนีเรือนจำด้วยระเบียบราชทัณฑ์ กำลังทำงานตามเงื่อนเวลาที่ลงตัว
ทักษิณ หนีคดีไปต่างประเทศ 
ปัจจุบัน ทักษิณก็หนีคดีอยู่เช่นเดิม
ที่มันย่ำแย่คือ การหนีในขณะ สำนึกว่าตนเองทำผิดกฎหมายนั้น มันเป็นทำลายความสำนึกตัวเองที่ต่อกระบวนการยุติธรรม หนีด้วยกระบวนการราชการที่เอาระเบียบเป็นเกราะกำบัง
เช่นนี้ มันเลวร้ายกว่า พรบ.สุดซอย ในอดีต
เพราะครั้งนี้  นช.ทักษิณ ได้ประโยชน์คนเดียว
ความปรองดอง จะเกิดขึ้นได้อย่างไร ในเมื่อ ปรองดองที่ยอมกับคนทุจริตแบบไม่มีทางเลือกให้ประชาชนที่เคลื่อนไหวทางการเมือง
เราว่า พรบ.สุดซอย ว่าเอื้อประโยชน์
ระเบียบอุ้มทักษิณ โคตรเอื้อไม่ให้ทักษิณติดคุกมากกว่า
นี่คือ การฟอกขาวให้ทักษิณชัดๆ

ขณะที่นายวัชร เพชรทอง อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ขณะนี้ สังคมไทยมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเข้ารับการรักษาอาการป่วยของนายทักษิณ ชินวัตร ณ โรงพยาบายตํารวจชั้น 14 ว่ามีตัวตนมาพักรักษาตลอดเวลาตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2566 จนถึงปัจจุบันจริงหรือไม่ มีบัตรนักโทษหรือไม่ เนื่องจากไม่เชื่อว่ามีอาการเจ็บป่วยจริง จึงมีหนังสือไปยังกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎรให้ตรวจสอบที่โรงพยาบาลตํารวจ ชั้น 14 ว่านายทักษิณพักรักษาตัวที่ดังกล่าวจริงหรือไม่  

กระทั่งเมื่อ14ธ.ค.2566 คณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานคณะกรรมาธิการฯได้เชิญพลตำรวจตรีสามารถ ม่วงศิริ นายแพทย์ สบ.7 โรงพยาบาลตำรวจ, นายนัสที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมาให้ข้อมูล 

ทว่าหลังการประชุมเสร็จสิ้น นายชัยชนะ เปิดเผยว่า กรรมาธิการตำรวจ รู้สึกผิดหวังที่ไม่สามารถได้รับคำตอบที่กระจ่างได้จากกรมราชทัณฑ์ ทั้งการกักตัวก่อนเข้าเรือนจำ และมีการส่งตัวไปต่อที่โรงพยาบาลตำรวจในคืนเดียวกัน รวมถึงการออกระเบียบกรมราชทัณฑ์ในการคุมขังนักโทษนอกเรือนจำโดยหลังจากนี้จะมีการตั้งคำถามในสภาผู้แทนราษฎรผ่านการตั้งกระทู้ถามสดต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ชี้แจงถึงสาเหตุความเร่งรีบในการออกระเบียบกรมราชทัณฑ์ในการคุมขังนักโทษนอกเรือนจำ หรือเพื่อรองรับใครหรือไม่ 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.