นายกฯ เศรษฐา ตั้งเป้าออกหุ้นกู้เสริมความยั่งยืน หนุนมาตรการสีเขียว
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน “SUSTAINABILITY FORUM 2024” เรื่อง Clean Energy for Thailand Economy Through Sustainability ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค โดยระบุว่า
นักลงทุนโดยเฉพาะบริษัทใหญ่ มีความต้องการใช้พลังงานสะอาด หลายบริษัทตั้งเป้าเป็น Carbon Neutral ในปี 2030 และการลงทุนของบริษัทเหล่านั้นต้องเป็นตัวกระตุ้นการลงทุนพลังงานสะอาดอีกด้วย ซึ่งในเรื่องนี้ประเทศไทยถือว่าให้ความสำคัญในเรื่องของพลังงานสะอาดและพลังงานสีเขียวที่สามารถดึงดูดนักลงทุนเข้ามาในประเทศได้ ทั้งยังเป็นเทรนด์ใหม่ของโลกการลงทุนหลังจากนี้ โดยในประเทศไทยก็ถือว่ามีคุณลักษณะของธุรกิจที่ดึงดูดและเข้าถึงลูกค้าได้มากกว่าคู่แข่ง
ประเทศไทยมีเสถียรภาพในเรื่องของไฟฟ้าดีกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ไทยเรามีความพร้อมมากเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไฟในประเทศไทยแทบไม่เคยตก หรือ ดับ ดังนั้นไฟฟ้าพลังงานสะอาดคือทิศทางของประเทศไทยและประเทศไทยมีจุดแข็งคือพื้นที่กว้างใหญ่ มีทรัพยากร มีสายส่งที่พร้อมในประเทศ
ปัจจุบันพลังงานไทย Renewable mix หรือส่วนผสมทดแทน อยู่ที่ร้อยละ 28 ในปี 2021 แต่จะเพิ่มให้มากกว่าร้อยละ 50 ในปี 2037 ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (Power Development Plan: PDP) และจะประกาศใช้ต้นปีหน้า ตนยืนยันว่าประเทศไทยจะเป็น Hub ของพลังงานสะอาด
นายเศรษฐายังกล่าวต่อว่า ค่าไฟฟ้าก็มีส่วนสำคัญ รัฐบาลตั้งเป้าจะทำให้ค่าไฟฟ้าลงมาอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ ซึ่งจากการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยากจะลดค่าไฟอยู่ที่ 4.10 สต. ซึ่งจะต้องมีการพูดคุยกับหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงพลังงาน สำนักงาน กกพ. EGAT ปตท. และอื่นๆ
พร้อมกันนี้รัฐบาลสนับสนุนการใช้แผงโซลาร์ในภาคครัวเรือน, การติดตั้ง Solar Rooftop แต่ปัจจัยที่จะทำให้เกิดขึ้นได้คือการอัพเกรดตัวระบบเครือข่ายทั้งหมดให้สามารถคิดค่าไฟฟ้าแบบหักลบกลบหน่วยตามจริงได้ (Net Metering)
ที่ผ่านมาประเทศไทย ออก Sustainability-linked Bond หรือ หุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน (Green bond) 12.5 ล้านเหรียญ ที่สหรัฐอเมริกาจะมาช่วยสนับสนุนการดำเนินมาตรการสีเขียว
แต่ในรัฐบาลนี้ ตนตั้งเป้าจะออก Sustainability-linked bond อีก 70,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการผลักดันประเทศไทยให้มีความพร้อมยิ่งขึ้นไปอีก
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีคาดหวังว่าทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนจะร่วมมือกันเพื่อให้ประเทศไทยสามารถก้าวไปสู่ Net Zero ได้
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.