นายกเปรย”หนักใจ” เศรษฐกิจไทยปีหน้า ลั่นเก็บภาษีผู้ประกอบการแก้ปัญหา PM2.5

ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้คำนิยามเศรษฐกิจในปีหน้าว่า "หนักใจ"

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่าขอเหตุผล นายเศรษฐา จึงตอบว่า "คุณบอกขอแค่คำเดียวเมื่อกี้นี้"

 

นายเศรษฐายังขยายความว่า หนักใจในเรื่องเศรษฐกิจเป็นหลัก อย่างที่ทราบกันดีอยู่ว่าขนาดนี้เศรษฐกิจอยู่ในช่วงวิกฤต เรื่องค่าแรงที่ยังต่ำอยู่ ซึ่งมีความห่วงใยเรื่องค่าแรงขั้นต่ำมาตลอด แต่ไม่ได้ห่วงใยเพราะจะกระทบการลงทุน เพราะมองว่าการลงทุน ควรให้ความสำคัญในเรื่องของพลังงานสะอาดมากกว่า และยังต้องให้ความสำคัญ เรื่องการเจรจาทางด้าน FTA สนธิสัญญาการค้า เรื่อง Infrastructure Development ต่างๆ เรื่องที่ต้องมี Single Windows Single form ตามชายแดนต่างๆ เพื่อส่งเสริมการค้า และต้องให้ความมั่นใจ ว่ามีบุคลากรแรงงานที่พร้อมที่จะให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน

 

เมื่อถามว่า นอกจากเรื่องค่าแรงที่หนักใจก็ยังมีปัญหาเศรษฐกิจไหนที่หนักใจอีกหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า หลายเรื่องเลย เต็มไปหมด

ขณะเดียวกัน กล่าวถึงปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เกินค่ามาตรฐานในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ว่าตนทราบดีและก็เป็นห่วงได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาสั่งการว่าจะทำอย่างไรต่อไป ซึ่งปัญหานี้ก็เกิดขึ้นทุกปีเราไม่ได้นิ่งนอนใจ ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้มีการคิกออฟ รณรงค์หยุดเผาป่า แต่ก็ต้องเข้าใจว่าช่วงเวลานี้มีปัญหา PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน แต่ก็ย้ำว่าเราไม่ได้นิ่งนอนใจจะหาวิธีการจัดการต่อไป

 

ส่วนได้ประสานถึงแนวทางการแก้ไขปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะประเทศเมียนมาและลาวก็มีการเผาซากพืชผลทางการเกษตรทุกปี ในส่วนของประเทศลาวก็มีการพูดคุยอย่างดีมาตลอด แต่ก็ไม่ใช่เขาเพียงฝ่ายเดียว เพราะเอกชนฝ่ายไทยก็มีการลงทุนปลูกพืชผลทางการเกษตรในลาว ในประเทศเพื่อนำกลับมาขายในประเทศไทย จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการเผาซากพืชผลทางการเกษตร จึงได้พูดคุยกับเอกชนว่าการทำเช่นนี้จะต้องถูกเก็บภาษี ซึ่งปัจจุบันสามารถตรวจสอบได้ว่าเพาะปลูกที่ใด และเงินจำนวนนี้จะถูกนำมาใช้เพื่อ บำบัดหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการเผา ซึ่งการพูดคุยค่อนข้างรุนแรงเหมือนกัน ผู้ประกอบการเองก็ขานรับเพราะถือเป็นปัญหาใหญ่ เพราะผู้ประกอบการเอง นักธุรกิจ รวมถึงลูกหลานของเขาก็ได้รับผลกระทบจากปัญหา PM 2.5 เช่นเดียวกัน ขณะที่ประเทศเมียนมาฝ่ายทหารของไทยได้เข้าไปพูดคุยเจรจาเนื่องจากพื้นที่ที่มีการเผาป่าเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาภายในของประเทศ

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.