'เฉลิมชัย' ยันรับตำแหน่งเพื่อกู้วิกฤตพรรค ปัดกลับกลอกให้ไปถามกก.บห.พรรค

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน  ให้สัมภาษณ์ ภายหลังได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9 ระบุว่าสิ่งแรกที่จะทำคือต้องสร้างความเสมอภาคภายในพรรค ให้ทุกคนช่วยกัน เพราะประชาธิปัตย์มีสมาชิกทุกรุ่น ทุกกลุ่ม วันนี้ถ้าทุกกลุ่มมาร่วมลงมือทำก็จะอยู่ร่วมกันได้ อย่างที่สองคือคณะทำงานของกรรมการบริหารชุดใหม่ต้องพร้อมทำงานทันที และต้องมีการประเมินผลซึ่งตนเพิ่งตัดสินใจเรื่องนี้ตอน 22.00 น. เราจะมีการประเมินกันทุก 3 เดือนทั้งในส่วนของเงื่อนไข ข้อบังคับพรรค คุณสมบัติ การเปิดกว้าง ยุทธศาสตร์ นโยบายพรรค การสื่อสารโดยจะมีคณะทำงาน และประเมินทุก 3 เดือน ดังนั้นในสามเดือนแรกจะต้องมีความเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรม และคิดว่าวันนี้คนประชาธิปัตย์ยังรักพรรค ตนหวังอย่างยิ่งว่าจะช่วยกันกันสร้างพรรค

ในส่วนของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ที่ประกาศลาออกแต่พร้อมจะช่วยงานพรรคนั้น นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ในการพูดคุยกันตนได้ถามนายอภิสิทธิ์ว่าไม่ออกได้หรือไม่ แต่นายอภิสิทธิ์บอกว่าออกมาเพื่อความสบายใจ ไม่ให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์และเพื่อไม่ให้ถูกมองว่าจะยุ่งเกี่ยวกับกรรมการบริหาร  ตนก็เคารพการตัดสินใจของท่าน แต่ท่านก็บอกว่ายินดีพร้อมจะกลับมา ซึ่งผมก็พร้อมและยินดีอยากให้นายอภิสิทธิ์กลับมา ตนมาวันนี้เพื่อมาแก้วิกฤติให้พรรคเดินไปได้ และประกาศชัดเจนว่าประชาธิปัตย์จะปรับเปลี่ยนเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาได้มากขึ้น นี่คือความตั้งใจของตน

ส่วนจะนำพรรคในการเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่นั้น เนื่องจากบอกว่าเข้ามาเพื่อแก้วิกฤติ แสดงว่าจะมีคนอื่นเข้ามานำทัพหรือไม่ นายเฉลิมชัยระบุว่าตอนนี้เข้ามาดูพรรคประชาธิปัตย์ในปัจจุบันก่อน

ส่วนที่ได้ปิดห้องพูดคุยกับนายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่าไม่มีอะไรขัดแย้งกัน ยังพูดเหมือนเดิมว่ามองตาก็รู้ใจ ตนทำงานกับท่านมานานรู้ใจกันเพียงแต่การพูดในวันนี้ เป็นการพูดเปิดในสิ่งที่ตนเจออะไร และนายอภิสิทธิ์คิดอะไร มาแลกเปลี่ยนกัน ซึ่งคิดว่านายอภิสิทธิ์ตัดสินใจมาแล้ว เพียงแต่ได้พูดคุยกันท่านก็เข้าใจตนก็เข้าใจ และเชื่อว่าทั้งท่านและตนกรีดเลือดออกมาเป็นสีฟ้า ตนรักพรรคท่านรักพรรค

ส่วนที่หลายคนมองว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลนั้น เราไม่ได้คุยในรายละเอียดเรื่องนี้ แต่ได้บอกที่ประชุมว่าขอให้เชื่อมั่น ตนอยู่พรรคมา 22 ปีเต็มๆ หลักการและอุดมการณ์ พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยเปลี่ยน ตนเป็นคนรักษาหลักการและอุดมการณ์พรรคมาตลอด นี่คือสิ่งที่จะยืนยันได้ว่าหากมคาจะบอกว่าประชาธิปัตย์ไม่มีจิตวิญญาณแล้ว ตนขอให้มองด้วยใจที่เป็นธรรม วันนี้ตนตอบคำถามนี้ได้ แต่วันหน้าตนไม่สามารถเดาได้ พร้อมยืนยันว่าวันนี้ประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านและวันที่ 12 ธันวาคมที่จะเปิดสภา พรรคประชาธิปัตย์จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้เข้มแข็งและดีที่สุด

ส่วนเรื่องของการร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายเฉลิมชัยตอบว่าเราต้องนึกถึงประโยชน์ของประเทศชาติและพรรคด้วยไม่ใช่แค่ตัวบุคคล และยืนยันว่าจะไม่มีการตัดสินใจอย่างง่ายๆ เด็ดขาด เพราะการที่ตนมาทำภารกิจให้พรรคเดินไปข้างหน้าได้ พรรคต้องเดินไปข้างหน้าก่อน ส่วนอนาคตไม่มีใครเดาได้ แต่ในหลักการและอุดมการณ์ของพรรคยืนยันว่าจะต้องอยู่

ส่วนที่มีคนลาออกและเสียงส.ส. ที่สนับสนุนนายเฉลิมชัยเป็นหัวหน้าพรรคมีเพียง 21 เสียงไม่ใช่สส.ทั้งหมด จะสามารถสร้างเอกภาพได้จริงหรือไม่ นายเฉลิมชัยระบุว่าตนจะพยายามให้เต็มที่ วันนี้จะขอคุยกับทุกงฝ่ายและขอให้มาช่วยกัน และไม่กลัวว่าพรรคจะแตกหรือมีคนไหลออกเพราะเชื่อว่าทุกคนต้องมีเหตุผล ขึ้นอยู่กับว่ารักพรรคจริงหรือไม่ 

ส่วนหลังจากนี้ จะทำความเข้าใจกับผู้อาวุโสของพรรคอย่างไร นายเฉลิมชัยกล่าวว่าเรื่องนี้ตนต้องคุยกับทุกท่านอยู่แล้ว โดยเฉพาะผู้อาวุโส เพราะท่านเป็นปูชนียบุคคลของพรรค เราต้องปรึกษากัน ตนเชื่ออย่างเดียวว่าไม่มีใครรักพรรคน้อยกว่าใคร

ส่วนที่ก่อนหน้านี้อาจจะมีการติดใจเพราะเคยประกาศว่าจะเลิกเล่นการเมือง แต่กลับมานั้น นายเฉลิมชัยระบุว่าก็ไม่เป็นไร ตนพูดเรื่องนี้ไป 2 ครั้งแล้ว แต่ถ้าต้องการทราบคำตอบขอให้ไปถาม สส. และกรรมการบริหารพรรค ตนเชื่อว่าทุกคนพร้อมตอบคำถามเพราะเป็นข้อเท็จจริง ส่วนใครจะว่าอย่างไรตนไม่รู้สำหรับตนคำตอบชัดเจนแล้ว 

เมื่อถามว่า ไม่ได้เป็นการกลับกลอกคำพูดตัวเองใช่หรือไม่ นายเฉลิมชัย ตอบว่า ไม่ใช่ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ตนก็ไม่ได้ปัด แต่หากจะถามเหตุผลต้องไปถามสส.และกรรมการบริหารพรรค ก่อนจะเดินออกจากวงสัมภาษณ์เข้าไปร่วมประชุมต่อ