"เนชั่นโพล" เผย คนส่วนใหญ่สนับสนุนนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท

เนชั่นโพล ร่วมกับ สถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา (IFD) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง "นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท" โดยดำเนินการสำรวจในช่วงวันที่ 30 พ.ย. - 4 ธ.ค. 2566 ในกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายใน 6 ภูมิภาค เพศ อายุ อาชีพ และระดับการศึกษาทั่วประเทศ รวมจำนวน 1,222 ตัวอย่าง

 

ทั้งนี้ เป็นการสุ่มตัวอย่างใช้ความน่าจะเป็น ด้วยวิธี Stratified Five-Stage Random Sampling ซึ่งแต่ละตัวอย่างที่ถูกเลือกมีค่าถ่วงน้ำหนัก (sampling weight) ที่แตกต่าง วิธีการสำรวจเป็นการลงพื้นที่สำรวจ 100% ค่าความผิดพลาด (error) ของการสำรวจอยู่ที่ 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%

โดยผลการสำรวจสรุปว่า

 

1.เห็นด้วยกับนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทหรือไม่

 

เห็นด้วย 72.46%

ไม่เห็นด้วย 27.54%

เมื่อวิเคราะห์โดยจำแนกตามเพศ พบว่า กลุ่มอายุที่ไม่เห็นด้วยมากที่สุดคือ กลุ่มอายุ 18-25 ปี รองลงมาคือ 36-45 ปี อาชีพที่ไม่เห็นด้วยมากที่สุด คือ ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ รองลงมาคือ นักเรียน/นักศึกษา และประกอบธุรกิจส่วนตัว/ค้าขาย ตามลำดับ ส่วนระดับการศึกษาที่ไม่เห็นด้วยมากที่สุดคือ สูงกว่า ป.ตรี รองลงมา คือ ป.ตรี

2.เหตุผลที่ประชาชนเห็นด้วยกับนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท

46.64% เพื่อช่วยเหลือให้ประชาชนผ่านภาวะเศรษฐกิจตกต่ำนี้ไปได้

21.25% เพื่อให้ประชาชนมีเงินไปลงทุน

21.40% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยให้ดีขึ้น

10.71% เป็นนโยบายที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้เมื่อช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมาที่ต้องทำให้สำเร็จ

3.เหตุผลที่ประชาชนไม่เห็นด้วยกับนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท 

31.93% ทำให้ประเทศเป็นหนี้เพิ่มขึ้น

23% ควรนำงบไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวิธีการอื่นที่ทำให้ประชาชน มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

21.60% ไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง

18.74% เงินดิจิทัลใช้จ่ายยาก ใช้ไม่เป็น ได้มาก็ไม่มีที่จะไปใช้เงิน เพราะสถานที่/แหล่งที่จะใช้จ่ายเงินได้มีจำกัด เช่น ไม่ค่อยมีร้านค้ารับ ไม่สามารถนำเงินดิจิทัลไปจ่ายเป็นค่าเทอมได้ ฯลฯ

4.74% ไม่ได้ช่วยอะไรมาก 10,000 น้อยเกินไป/ไม่เพียงพอ

4.ผลงานของ "รัฐบาลเศรษฐา 1" สอบผ่านหรือไม่

สอบผ่าน 54.73%

สอบไม่ผ่าน 45.27%

เมื่อวิเคราะห์โดยจำแนกตามเพศ พบว่า เพศ ที่ให้ความเห็นว่าสอบไม่ผ่าน คือ เพศทางเลือก กลุ่มอายุ ที่ให้ความเห็นว่าสอบไม่ผ่าน คือ กลุ่มอายุ 18-25 ปี และ อายุ 46-59 ปี อาชีพ ที่ให้ความเห็นว่าสอบไม่ผ่าน คือ กลุ่มนักเรียน/นักศึกษา ข้าราชการ/พนักงาน และประกอบธุรกิจส่วนตัว/ค้าขาย ตามลำดับ และระดับการศึกษา ที่ให้ความเห็นว่าสอบไม่ผ่านคือ สูงกว่า ป.ตรี รองลงมา คือ ป.ตรี และ อนุปริญญา/ปวส. ตามลำดับ

5.พึงพอใจในผลงานของรัฐบาลชิ้นใดมากที่สุดในรอบ 3 เดือน

ลดค่าพลังงาน ไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม และน้ำมัน 56.47%

เติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet 40.88%

ยกระดับโครงการ 30 บาท บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกพื้นที่ มะเร็งครบวงจร ฯลฯ 34.48%

ยังคงให้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 32.36%

เงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท 28.66%

ขยายโอกาสทางการค้า เช่น ขยายตลาดใหม่ ๆ เปิดตลาดใหม่ให้เกษตรกร เสนอตัวเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมต่าง ๆ เจรจาการเปิดเสรีการค้า ฯลฯ 27.27%

ปลุกท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ 19.26%

แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน หนี้นอกระบบ 14.97%

พักหนี้เกษตรกร 13.31%

ปรับเงินเดือนข้าราชการบรรจุใหม่ 18,000 บาท 10.51%

ลดความเหลื่อมล้ำ ได้แก่ เกณฑ์ทหารแบบสมัครใจ สมรสเท่าเทียม สุราชุมชน ฯลฯ 6.94%

ขยายโครงสร้างพื้นฐาน ในกรุงเทพฯ และจังหวัดท่องเที่ยว และสนามบิน 5.87%

ผลักดัน Soft Power เพื่อสร้างรายได้และชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก 4.31%

แก้ปัญหาแก๊งคอลเซนต์เตอร์ ผู้มีอิทธิพล 3.42%

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.