เศรษฐา โว ค่าไฟรอบหน้า 4.10-4.20 บาท แจงปมเหตุ ออกกฎหมายกู้เงิน5 แสนล้าน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษ "อนาคตเศรษฐกิจไทย" ในงานสัมมนาวิชาการหลักสูตรวิทยาการการจัดการ สำหรับนักบริหารระดับสูง(วบส.) ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า)ว่า อนาคตเศรษฐกิจไทย จะต้องจับต้องได้ และทุกคนเข้าใจได้ ช่วงเวลาได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก10 ปีที่ผ่านมา มีการแข่งขันในเวทีโลก สงครามค้าการ การทูต จึงเป็นปัจจัยกำหนดทิศทางเศรษฐกิจโลก

นายเศรษฐากล่าวว่า ตลอดเวลา 3 เดือน ที่ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี รัฐบาลมีนโยบายหลากหลาย เพื่อการลดค่าใช้จ่าย เช่น เรื่องราคาค่าไฟ ค่าน้ำมัน การพักหนี้เกษตรกร ส่วนค่าไฟ ที่จะปรับตัวขึ้น ซึ่งรับไม่ได้ จะต้องกลับไปพิจารณาอีกครั้ง มีความเป็นไปได้ที่ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 4.20 บาท แต่จะพยายามกดให้เหลือประมาณ 4.10 บาท จากก่อนที่รัฐบาล จะกดราคา 3.99 บาทนั้น ราคาเดิมคือ 4.50 บาท

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงเป้าหมาย Quick Win รวมถึงการแก้ปัญหาระยะยาว เช่น นโยบายวีซ่าฟรีแก่คนจีน แต่กลับเกิดเหตุโศกนาฏกรรมที่ห้างสรรพาสินค้าสยามพารากอน และยังมีข่าวปลอมต่างๆ จนทำให้นักท่องเที่ยวจีนลดลง แต่รัฐบาลพยายามหานักท่องเที่ยวอื่นทดแทน เช่น คาซัคสถาน และอินเดีย แต่อินเดีย ก็มีปัญหาเที่ยวบินไม่เพียงพอ จึงไม่กล้าปล่อยช่วงเวลามาไทยมาก ทำให้ต้องมีการเจรจา และอาจนำเวลาการบินจากจีนบางส่วน ไปให้อินเดียทดแทน

รวมถึงการสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองรอง ที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ แต่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยังไม่สนับสนุนเท่าที่ควร จึงได้สั่งการให้กระตุ้นการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้น เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวเป็นเรื่องสำคัญ รวมถึงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวอยู่ในประเทศนานขึ้น 

สนับสนุนซอฟต์พาวเวอร์ไทย เช่น กรณีที่ยูเนสโกรับรองสงกรานต์เป็นมรดกโลก โดยไม่จำเป็นต้องสาดน้ำทั้งเดือน รวมถึงมวยไทย ที่เป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะอังกฤษมีค่ายมวยถึง 6,000 ค่าย เชื่อว่า หากพัฒนามวยไทย และองค์ประกอบต่างๆ ของมวยไทย จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ รัฐบาลมีแผนการทั้งระยะสั้น กลางและยาว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายกรัฐมนตรี ยังยอมรับถึงความพยายามเสนอร่างพระราชบัญญัติกู้เงิน 500,000 ล้านบาทว่า เป็นการกู้เงินครั้งใหญ่ ที่หลายคนเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย แต่ในองค์ประกอบ 100,000 ล้านบาทนั้น รัฐบาล ตั้งใจจะไปเพิ่มในกองทุนเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน เช่น ด้านเทคโนโลยีไมโครชิพ ของไทยด้วย ศูนย์กลางการผลิตเทคโนโลยีอย่างไมโครชิพอยู่ที่จีน และไต้หวัน แต่สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ ก็มีผลกระทบต่อสหรัฐอเมริกา

ประเทศไทยไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งของใคร จึงจะต้องดึงดูดนักลงทุน และไทยยังเป็นมิตรกับทั้ง จีน ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา ตนมีสายตรงถึงรัฐมนตรีพาณิชย์ สหรัฐอเมริกา ที่เป็นเจ้าภาพสามารถกำหนดการเปิดโรงงานไมโครชิพได้ ซึ่งกองทุนดังกล่าว ถือเป็นการแก้ปัญหาระยะกลางของไทย ที่จะต้องสำรองไว้เพื่ออุดหนุนผู้ลงทุนด้วย