เกาะพีพี มาหยา ปิเละลากูน วันเดย์ทริปทะเลในฝัน ที่สักวันต้องไปเห็นด้วยตาตัวเอง

เกาะพีพี ชื่อนี้เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะเคยได้ยินกันมาอย่างยาวนาน และเป็นที่คุ้นหูสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย สถานที่ที่เป็นดั่งสวรรค์สำหรับคนรักทะเลจากทั่วโลก ต่างต้องการจะมาสัมผัสกับความยิ่งใหญ่และสวยงามของที่นี่กันสักครั้ง ซึ่งเราเองก็เป็นหนึ่งในคนที่อยากจะพิสูจน์กับความสวยงามของเกาะพีพีด้วยตาตัวเองสักครั้ง จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางเพื่อพิชิตทะเลแห่งความฝันนี้ ซึ่งถึงแม้จะเป็นช่วงหน้าฝน แต่พีพีก็ต้อนรับเราอย่างอบอุ่นด้วยแสงแดดที่เจิดจ้า และน้ำทะเลสีฟ้ามรกตใสสะอาดราวกับคริสตัลเลย การเดินทางของเราจะเป็นอย่างไรลองไปชมกันครับ




ในทริปนี้เราเดินทางด้วยสายการบิน Vietjet บินตรงจากสุวรรณภูมิมาลงที่ภูเก็ตเลย สะดวกสบาย ปลอดภัย และประหยัดเวลา ยิ่งหากได้กดตั๋วในช่วงโปรโมชันของ Vietjet บอกเลยว่าราคาดีมาก

เมื่อมาถึงภูเก็ตแล้วก็ได้เวลามุ่งหน้าสู่เกาะพีพี โดยเราได้ใช้ทัวร์แบบวันเดย์ทริปของ Love Andaman ซึ่งจะเป็นโปรแกรมเที่ยวทั้งหมด 4 จุดในหนึ่งวัน อ่าวมาหยา (ปัจจุบันปิดพักฟื้นธรรมชาติ ตั้งแต่ 1 ส.ค. 66 - 30 ก.ย. 66) - ปิเละลากูน - เกาะพีพี - เกาะไผ่ โดยไปขึ้นเรือที่ท่าเรือ Visit Panwa จังหวัดภูเก็ต บอกเลยว่าประทับใจตั้งแต่ก่อนลงเรือเลย เพราะท่าเรือสะอาดสะอ้านมาก ทีมไกด์ของ Love Andaman ก็ดูแลและให้ความรู้ก่อนการเดินทางเป็นอย่างดี แถมยังมีความเอาใจใส่ในด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติ ให้ความรู้ในด้านการใช้ครีมกันแดดที่ไม่เป็นภัยต่อปะการังและสัตว์ทะเลอีกด้วย เรียกได้ว่าดูแลตั้งแต่ลงรถยันลงเรือเลย



อ่าวมาหยา

จุดหมายแรกในการเดินทางของเราในครั้งนี้คือที่อ่าวมาหยา ซึ่งถึงตอนนี้เกาะมาหยายังปิดฟื้นฟูธรรมชาติอยู่ (ปิดพักฟื้นธรรมชาติ ตั้งแต่ 1 ส.ค. 66 - 30 ก.ย. 66) จะเปิดอีกครั้งในช่วงวันที่ 1 ตุลาคม 2566 นี้


ที่อ่าวมาหยาแห่งนี้ถือเป็นจุดเช็กพอยท์ที่โด่งดังระดับโลกเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นโลเคชันถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Beach ที่นำแสดงโดย Leonardo Dicaprio ตำนานนักแสดงจาก Hollywood ผู้จุดกระแสอ่าวมาหยาแห่งนี้ให้โด่งดังไปทั่วโลก 


อ่าวมาหยาในวันที่เราได้ไปพบนั้นต้องยอมรับเลยว่ามีการจัดการในด้านของการท่องเที่ยวได้ดีขึ้นกว่าเดิมหลังจากที่เคยประสบกับปัญหา Overtourism ทางอุทยานจึงมีการจัดคิวการเข้าชมอ่าวมาหยาเป็นรอบๆ และมีกฎข้อห้ามไม่ให้ลงเล่นน้ำเพื่อไม่ให้กระทบต่อสิ่งมีชีวิตหน้าหาด ทำให้เราได้เห็นภาพของความสวยงามของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ แม้คนอาจจะเยอะไปสักนิด แต่ความสวยงามของธรรมชาติก็ยังไม่เสื่อมคลาย


น้ำทะเลที่นี่มีสีฟ้าอมเขียวคล้ายๆ กับสีมรกต โอบล้อมไปด้วยหน้าผาหินปูนขนาดใหญ่ ทำให้ดูลักษณะคล้ายพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว หรือบ้างก็ว่าคล้ายกับเปลือกหอย บริเวณหาดทรายขาวละเอียด เดินเล่นถ่ายรูปกันได้ไปจนสุดชายหาด 

มีมุมไฮไลท์ที่คนมักจะมาถ่ายรูปกันบริเวณด้านใต้แผ่นหิน ที่จะเห็นเกลียวคลื่นของน้ำทะเล และมีกรอบเป็นแผ่นหินด้านบน สวยงามมากๆ ใครเป็นสายถ่ายรูปแนะนำมุมนี้เลยครับ

ปิเละลากูน

หลังจากออกจากอ่าวมาหยาแล้วเราไปต่อกันที่จุดที่ 2 นั่นก็คือปิเละลากูน มุมอันซีนไทยแลนด์ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ในจุดนี้เราจะต้องเปลี่ยนไปลงเรือหางยาวซึ่งถือเป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่เลยเพื่อเข้าไปชมความสวยงามด้านในลากูน


 

น้ำทะเลใสๆ ราวกับพื้นกระจก และภูเขาหินที่โอบล้อมลากูนแห่งนี้เอาไว้ เหมือนกับได้ล่องเรือเข้าไปในห้องโถงขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างสรรค์โดยธรรมชาติ ได้เห็นความยิ่งใหญ่อลังการของธรรมชาติแบบนี้มนุษย์แบบเราดูจะตัวเล็กลงไปเลยทีเดียว



และห้ามพลาดหากได้มีโอกาสมาที่ปิเละลากูน ต้องได้รูปสวยๆ บริเวณหัวเรือหางยาว ถ่ายคู่กับน้ำทะเลและหน้าผาหินสวยๆ บอกเลยว่าได้ภาพที่ประทับใจแน่นอน


เกาะพีพีดอน

ในจุดที่ 3 เราก็ได้เดินทางมาถึงเกาะพีพีดอน หรือเกาะพีพีที่เรารู้จักกันแล้ว ที่นี่จะเป็นชุมชนของชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่กันมาอย่างยาวนาน ด้านบนเกาะจะมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และที่พัก ไว้ให้บริการสำหรับลูกค้าที่มาเที่ยวกันแบบค้างคืนด้วย 




เรามาเที่ยวแบบวันเดย์ทริปจึงได้มาแวะทานข้าวบนเกาะพีพีแห่งนี้ และพอมีเวลาเหลือนิดหน่อยที่จะได้เดินสำรวจบนเกาะ เชื่อหรือไม่? ขนาดอยู่บนเกาะที่ถือเป็นแผ่นดินใหญ่แบบนี้ น้ำทะเลก็ยังใสและสวยงามไม่แพ้เกาะอื่นๆ เลย ต้องยอมรับเลยว่าธรรมชาติทางทะเลของที่นี่สวยงามตระการตาดีจริงๆ

เกาะไผ่

ปิดท้ายโปรแกรมวันนี้ที่เกาะไผ่ ซึ่งถือเป็นเกาะลับๆ ที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก บนเกาะแห่งนี้เหมาะแก่การมาทำกิจกรรม เดินเล่น ถ่ายรูป ปิคนิคบนชายหาด น้ำทะเลที่เกาะไผ่สวยไม่เป็นรองที่ไหนๆ เลย แต่จะมีความแตกต่างจากที่อื่นอยู่คือน้ำทะเลจะออกสีครามตัดกับสีฟ้า ไม่ออกสีเขียวเหมือนกับเกาะที่ผ่านมาๆ ทำให้ถ่ายภาพออกมาแล้วจะมีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด



เราใช้เวลาเดินเล่น ถ่ายรูปบนเกาะไผ่กันอยู่พักใหญ่ เพราะความสวยงามของน้ำทะเลที่นี่ ทำให้แทบจะหยุดถ่ายไม่ได้เลย หันไปทางไหน ก็ได้มุมสวยๆ ไปหมด ลั่นชัตเตอร์กันแบบรัวๆ เป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลท์ที่อยากจะแนะนำให้ทุกคนได้ลองมา



ก่อนจะกลับหากใครอยากจะลงดำน้ำบริเวณหน้าเกาะไผ่ก็ทำได้เช่นกัน ใต้น้ำจะมีดงปะการังและปลาทะเลสวยงามให้ได้ชมกันเป็นของขวัญสำหรับนักเดินทางก่อนจะกลับสู่ฝั่งเมืองภูเก็ตด้วยความสุขตลอดการเดินทาง

และทั้งหมดนี้คือหนึ่งวันสำหรับการทัวร์เกาะพีพีของเรา ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งทะเลไทยที่เราประทับใจมากๆ เพราะธรรมชาตินั้นสวยงามสมบูรณ์สุดๆ การจัดการของอุทยานก็ทำได้ดี แถมทางทัวร์อย่าง Love Andaman ก็ดูแลและให้ข้อมูลอย่างครบถ้วน รวมถึง Take Care พวกเราทุกคนอย่างเต็มที่ ทำให้ทริปนี้กลายเป็นอีกหนึ่งทริปในความทรงจำ กับทะเลในฝันที่เราได้เห็นมันด้วยตาตัวเองแล้วในครั้งนี้

โปรโมชันจาก Love Andaman

พบกับโปรสุดพิเศษ เลิฟ...Sea You Again 

พร้อมส่วนลดและของแถมมากมาย  ในงาน "ไทยเที่ยวไทย" ครั้งที่ 67

วันที่ 24-27 ส.ค. 66 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 

Hall 5-7 , Booth No. E14 , E45

สอบถามเพิ่มเติม @loveandaman

ติดต่อจองทริปและสอบถามข้อมูลได้ที่

FB Inbox : m.me/loveandaman

Line ID : @loveandaman 

เว็บไซต์ : www.loveandaman.com

จองด้วยตนเอง แถมมีส่วนลด

Line My Shop  https://lin.ee/OeakFS3

SHOPEE : https://shope.ee/8Ug0pUTwAM

Tel : 081-9998844 / 090-9480888 / 061-1739494 / 081-9190101

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.