Homey Studio ของเต็งหนึ่ง แต่งบ้านตามชอบทำห้องครัวตามใจ (ฉัน)
เมื่อเรารู้ว่าชอบอะไรแล้วลงมือทำด้วยความตั้งใจ ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรแต่เราเชื่อว่าระหว่างทางนั้นต้องเต็มไปด้วยความสุขอย่างแน่นอน หลังจากที่ คุณเต็งหนึ่ง-คณิศ ปิยะปภากรกูล เริ่มต้นทำในสิ่งที่รักอย่างการทำขนม จึงเกิดไอเดียอยากปรับเปลี่ยนพื้นที่ในบ้านให้เป็นสตูดิโอทำขนม เมื่อเรามีโอกาสได้พูดคุยและแวะไปทักทายที่สตูดิโอแห่งนี้ จึงได้ทราบว่านอกจากคุณเต็งหนึ่งจะชอบทำขนมแล้วนั้น เจ้าตัวเองยังชอบแต่งบ้านไม่น้อยไปกว่ากันเลย เพราะใส่ใจตั้งแต่การออกแบบและตกแต่งบ้านด้วยตัวเองตั้งแต่การเลือกวัสดุที่ใช้ หรือการจัดสรรพื้นที่ต่างๆ บ้านหลังนี้จึงอบอุ่น ดูมีชีวิต และสะท้อนตัวตนของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ
ที่นี่เป็นทั้งบ้านและสตูดิโอทำขนมของคุณเต็งหนึ่ง ตกแต่งอย่างเรียบง่าย ใช้โทนสีขาวเป็นหลัก ชั้นล่างปรับเปลี่ยนให้เป็นโถงโล่งสามารถใช้งานได้อเนกประสงค์ ให้ความรู้สึกคล้ายกับเดินเข้ามาในแกลเลอรี มีมุมเล็กๆ ด้านหน้าไว้สำหรับนั่งเล่นและรับแขก “จริงๆ เราเป็นคนชอบแต่งบ้านอยู่แล้ว พ่อผมทำงานเป็นผู้รับเหมา จึงเข้ามาช่วยดูเรื่องโครงสร้าง ตกแต่ง เลือกวัสดุ อะไรที่ทำกันเองได้เราก็ช่วยกันทำ อย่างบ้านอีกหลังที่ต่างจังหวัดเราก็ช่วยกันต่อเติมนู่นนี่นั่นกันเองอยู่เป็นประจำ”
“ในส่วนของชั้นล่าง ความตั้งใจแรกคืออยากทำเป็นคาเฟ่เล็กๆ แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องที่จอดรถเลยยังไม่ได้ทำ พื้นที่เดิมก็เป็นเหมือนบ้านทาวน์โฮมทั่วไป มีผนังแบ่งสเปซเอาไว้ ฝ้าก็ปิดโครงสร้างทั้งหมด เราก็รื้อออกแล้วดันเพดานให้สูงขึ้นเพื่อให้บ้านดูโปร่งมากขึ้น โชว์ให้เห็นโครงสร้างต่างๆ แต่ปิดส่วนที่เป็นงานระบบท่อน้ำทิ้งของชั้น 2 เอาไว้ให้ดูเรียบร้อย เปลี่ยนพื้นกระเบื้องให้เป็นพื้นปูนขัดมันแทน”
“อย่างตรงบันไดที่จะขึ้นชั้น 2 ก่อนหน้านี้มีผนังทึบกั้นเอาไว้ตั้งแต่ฝ้าจนถึงพื้น เหมือนแบ่งบ้านออกเป็น 2 ส่วน พอมีผนังเรารู้สึกอึดอัดเหมือนพื้นที่บ้านมันหายไป เลยคุยกับพ่อว่าถ้าอย่างนั้นทุบออกเลยดีกว่า ก็มาช่วยกันคิดว่าแล้วจะทุบอย่างไรให้ดูสวยงาม เลยทุบออกให้เป็นขั้นๆ แทน หลังจากนั้นผมก็เอายาแนวผสมกับปูนมาป้ายๆ ปิดรอยทุบเอาไว้ อาจจะดูไม่เนี้ยบมากก็ไม่เป็นไร เพราะตั้งใจไว้แต่แรกแล้วว่าอยากได้บ้านสไตล์นี้ดูดิบๆ ไม่ต้องเรียบร้อยมาก มีเฟอร์นิเจอร์น้อยๆ พื้นที่ข้างล่างนี้ถึงไม่ได้ทำอะไรเราก็ตั้งใจว่าอยากให้เปิดโล่งแบบนี้ เหมือนเป็นแกลเลอรี ตรงมุมนั่งเล่นก็มีแค่โซฟาแล้วทำเป็นเหมือนจอโปรเจ็กเตอร์ไว้นั่งดูหนังเพลินๆ แค่นั้นเอง”
หลังจากที่คุณเต็งหนึ่งรู้ว่าตัวเองสนุกและมีความสุขกับการทำขนมจนได้ไปเรียนเป็นเชฟอย่างจริงจัง จึงมีไอเดียอยากปรับเปลี่ยนพื้นที่ห้องนอน 1 ห้องในส่วนของชั้น 2 ให้เป็นสตูดิโอสำหรับทำขนมแทน “พอเรียนจบเราก็คิดแล้วว่าไม่ได้อยากมีร้านขนมใหญ่ๆ ไม่ได้มีเป้าหมายแบบนั้นเลย แต่อยากทำสตูดิโอเปิดสอนเวิร์กชอปทำขนมมากกว่า อยากมีสเปซของตัวเองไว้ฝึกทำขนม ก่อนหน้านี้ผมมีบ้านอีกหลังหนึ่งแต่ว่าขายไปแล้ว เราก็เปลี่ยนห้องนอนให้เป็นห้องครัวสำหรับใช้งาน เลยนำไอเดียนั้นมาใช้กับบ้านหลังนี้ด้วย เลือกห้องฝั่งที่มีแดดตอนบ่ายส่องเข้ามา เรารู้สึกว่าแสงตอนกลางวันดูสวยดี ทำให้ครัวดูอบอุ่นและยังได้แสงสว่างจากธรรมชาติอีกด้วย”
นอกจากการออกแบบและกำหนดฟังก์ชันสตูดิโอห้องครัวนี้ด้วยตัวเองแล้ว คุณเต็งหนึ่งยังให้อินทีเรียที่รู้จักกันมาช่วยแนะนำและจัดสรรพื้นที่ต่างๆ ให้ลงตัวมากขึ้น รวมไปถึงเรื่องระบบน้ำ ไฟ ที่ต้องวางแปลนใหม่ทั้งหมด มีฟังก์ชันการใช้งานเท่าที่จำเป็นแต่ครบครันทั้งส่วนเตรียม ส่วนปรุง และส่วนล้าง โดยออกแบบเคาน์เตอร์เป็นรูปตัว I ติดผนัง บิลต์อินเตาไฟฟ้าและเตาอบเข้ากับชุดครัวเพื่อความเรียบร้อยและใช้งานได้สะดวกสบาย
“โจทย์หลักของห้องครัวคือทำอย่างไรก็ได้ให้ดูไม่เรียบร้อย อย่างพื้นเราก็เปลี่ยนเป็นพื้นปูนขัดมันเหมือนกับชั้นล่าง ฝ้ากับเพดานก็ไม่ได้ปิดผิวหรือทาสี โชว์ให้เห็นโครงสร้างและงานระบบต่างๆ และเนื่องจากเดิมเป็นห้องนอนจึงต้องวางระบบน้ำไฟใหม่ทั้งหมด เดินท่อน้ำจากห้องน้ำอีกฝั่งไปไว้ในส่วนที่เป็นอ่างล้างจาน วางระบบน้ำทิ้งไปที่ด้านหน้าระเบียง ระบบไฟที่ต้องใช้กับเตาต่างๆ ส่วนฟังก์ชันเราก็กำหนดเองง่ายๆ ตามที่เราใช้งาน เลือกบิลต์อินเฉพาะส่วนที่จำเป็นอย่างเตาไฟฟ้า เตาอบ เครื่องดูดควัน อ่างล้างจาน นอกนั้นเลือกใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ถ้าเบื่อก็สามารถเคลื่อนย้ายเปลี่ยนมุมได้ มีชั้นสำหรับเก็บอุปกรณ์ทำขนมก็เพียงพอแล้ว”
แม้จะใช้โทนสีขาวเป็นหลักแต่ก็เพิ่มลูกเล่นด้วยการก่ออิฐแล้วทาสีขาวทับลงไปอีกทีอย่างหยาบๆ ให้พอปิดผิวของวัสดุ แม้จะดูไม่เรียบร้อยมากนักแต่ก็ช่วยให้ครัวดูมิติมากขึ้น เพิ่มความเท่ให้ครัวสีขาวนี้ด้วยประตูและหน้าต่างที่ตัดขอบด้วยงานเหล็กสีดำกรุกระจก เมื่อเข้าสู่ช่วงบ่ายแสงจากริมระเบียงจะส่องเข้ามาด้านในเกิดเป็นแสงและเงา อีกทั้งการตกแต่งมุมต่างๆ ด้วยสิ่งของชิ้นเล็กชิ้นน้อยอย่างหนังสือ กรอบรูป ต้นไม้ บวกกับการเลือกใช้งานไม้เข้ามาผสมผสานทั้งส่วนของหน้าบานชุดครัว โต๊ะและเก้าอี้ที่ถูกจัดวางไว้กลางห้อง ด้วยโทนไม้สีอ่อนสีเข้มสลับกันไปทำให้ห้องครัวนี้ดูอบอุ่นและมีชีวิตชีวาไม่น้อยเลยทีเดียว
“อย่างเวลามีคนมาเรียนทำขนม เราจะจัดเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างส่วนตัวตั้งแต่เรียนคนเดียวไปจนถึง 8-10 คน ทุกคนก็สามารถใช้งานได้คล่องตัว เราจะมีชั้นสำหรับเก็บอุปกรณ์ทำขนมไว้ด้านหลัง เป็นชั้นแบบเปิดที่หยิบของใช้งานได้สะดวก มองเห็นเลยว่าอะไรอยู่ตรงไหน ที่เลือกใช้ชั้นแบบนี้เพราะอุปกรณ์ทำขนมจะมีค่อนข้างเยอะและยิบย่อยกว่าอุปกรณ์ทำอาหารทั่วไป และเราก็อยากให้คนที่มาเรียนเขาได้ใช้อุปกรณ์กันทุกคน ก็ตอบโจทย์ที่เราตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกว่าอยากมีสตูดิโอทำขนมเล็กๆ ไว้ใช้งาน สอนทำขนมเหมือนเป็นคอมมูนิตีให้คนที่ชอบอะไรเหมือนกัน ทำขนมไปคุยกันไปเราก็มีความสุข” คุณเต็งหนึ่งกล่าวทิ้งท้าย
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.