8 สัญญาณอันตราย เสี่ยงเป็น “โรคหัวใจ”

ใจสั่น แน่นหน้าอก จุกแน่นจนหายใจไม่ออก จากภาวะโรคหัวใจ เป็นอาการที่ไม่สามารถสังเกตเห็นได้จากภายนอก และไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใดหรือเป็นบ่อยแค่ไหน หลายครั้งที่เมื่อเดินทางไปพบแพทย์ มักไม่แสดงอาการ ทำให้ยากต่อการวินิจฉัยว่าสาเหตุของอาการดังกล่าวเกิดจากอะไร มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจชนิดไหน จึงกล่าวได้ว่าโรคหัวใจ คือ ภัยเงียบที่น่ากลัวและไม่ควรมองข้าม

โรคหัวใจเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของคนไทย

นายแพทย์ธัญญ์ สุวัฒนวิโรจน์ แพทย์ประจำศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง กล่าวว่า โรคหัวใจเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของคนไทย และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในทุกๆ ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้จำนวนผู้ที่เจ็บป่วยด้วยโรคหัวใจมีเพิ่มมากขึ้น จากข้อมูลทางสถิติกระทรวงสาธารณสุข (2561) พบว่า คนไทยป่วยด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดจำนวน 432,943 คน มีอัตราการเสียชีวิต 20,855 คนต่อปี หรือชั่วโมงละ 2 คน ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจจากการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ทั้งในระดับบุคคล ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ

สาเหตุโรคหัวใจ

สำหรับสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจมาจากหลายปัจจัย เช่น

  • กรรมพันธุ์
  • เพศ
  • อายุที่มากขึ้น
  • การใช้ชีวิตแบบไม่ระมัดระวัง
  • ทำงานหนักติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ
  • เครียดสะสม
  • การรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว และไขมันทรานส์

ชนิดของโรคหัวใจ

สามารถแบ่งชนิดของโรคหัวใจได้ 6 ประเภท คือ

  1. โรคหลอดเลือดหัวใจ
  2. โรคลิ้นหัวใจพิการ
  3. โรคกล้ามเนื้อหัวใจ
  4. โรคเยื่อหุ้มหัวใจ
  5. โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด
  6. โรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องและมีผลต่อหัวใจ เช่น โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคความดันโลหิตสูง

สัญญาณอันตราย โรคหัวใจ

อาการแสดงและแนวทางในการรักษาโรคหัวใจแต่ละประเภทก็จะมีความแตกต่างกัน แต่ก็มีวิธีสังเกตสัญญาณเตือนว่ามีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้ คือ

  1. เหนื่อยง่าย
  2. หายใจลำบากเวลาออกกําลังกายหรือเดินเร็วๆ
  3. เจ็บหน้าอกหรือแน่นบริเวณกลางหน้าอก
  4. ไม่สามารถนอนราบได้เหมือนปกติ เพราะจะรู้สึกเหนื่อยและอึดอัด
  5. มีอาการหอบจนต้องตื่นขึ้นมานั่งกลางดึก
  6. เป็นลมหมดสติโดยไม่ทราบสาเหตุ
  7. ขาหรือเท้าบวมโดยไม่ทราบสาเหตุ
  8. ปลายมือ ปลายเท้า และริมฝีปากมีลักษณะเขียวคล้ำ

ในประเทศไทยมีผู้ป่วยและเสียชีวิตด้วย “โรคหลอดเลือดหัวใจ” มากที่สุด เทคโนโลยีสำคัญที่จำเป็นต่อการช่วยลดอัตราการสูญเสีย คือ เทคโนโลยีห้องปฏิบัติการสำหรับการตรวจสวนหัวใจและหลอดเลือด (Cardiac Catheterization Lab) หรือ เรียกสั้นๆ ว่า Cath Lab ซึ่งเป็นห้องเอกซเรย์ชนิดพิเศษที่มีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงในการประมวลภาพหลอดเลือดหัวใจ และหลอดเลือดตามส่วนอื่นๆ สามารถปรับหมุนได้รอบทิศทาง ทำให้แพทย์ดูภาพได้จากทุกมุมตามต้องการ สามารถตรวจดูซ้ำได้อย่างละเอียด ช่วยให้ง่ายต่อการวินิจฉัยโรค ว่ามีความรุนแรงอยู่ที่ระดับใด สามารถตรวจดูตำแหน่งผิดปกติและความรุนแรงของหลอดเลือดหัวใจตีบตัน นอกจากนี้ยังสามารถดูการหดตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ หากพบความผิดปกติ เส้นเลือดหัวใจตีบอุดตัน แพทย์จะสามารถทำการรักษาได้โดยการใส่บอลลูนขยาย และ/หรือใส่ขดลวดถ่างขยาย (Stent) ได้ทันท่วงที

อย่างไรก็ดี “โรคหัวใจ” เป็นโรคที่สามารถป้องกันและลดการเกิดการสูญเสียได้ ซึ่งวิธีการป้องกันก่อนการเกิดโรคเป็นวิธีการที่ดีที่สุด ด้วยการตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ พยายามรักษาโรคความดันโลหิต การรักษาโรคเบาหวาน ไขมัน หลอดเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยเสริมให้เป็นโรคหัวใจได้มากขึ้น รวมทั้งควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคด้วยการหมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ งดการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา เป็นต้น

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.