10 อันดับเมือง Work Life Balance ดีที่สุดในโลกประจำปี 2024

การสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคนทั่วโลก การมีสมดุลที่ดีมักจะส่งผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในปี 2024 มีรายงานจาก Forbes ที่จัดอันดับ 10 เมืองที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว โดยอ้างอิงจากข้อมูลของบริษัทซอฟต์แวร์ Kisi การจัดอันดับนี้พิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น วันลาที่มีค่าจ่าย ความปลอดภัยในการทำงาน และความยืดหยุ่นในการทำงานระยะไกล มาดูกันว่า 10 เมืองที่ดีที่สุดในการสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวในปี 2024 มีที่ไหนบ้าง

10 อันดับเมือง Work Life Balance ดีที่สุดในโลกประจำปี  2024

1.โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก คะแนนสมดุลชีวิตการทำงาน :70.5

โคเปนเฮเกนได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว โดยให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและคุณภาพชีวิตที่ดีเยี่ยม บริษัทต่างๆ ในเมืองนี้มักมีนโยบายการทำงานที่ยืดหยุ่น เช่น การกำหนดเวลาทำงานที่หลากหลาย และวันลาพักร้อนขั้นต่ำ 5 สัปดาห์ต่อปี ซึ่งสอดคล้องกับวิถีชีวิตแบบ "ฮิกเกะ" (Hygge) ของชาวเดนมาร์ก ที่เน้นการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและผ่อนคลาย

2.เฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ คะแนนสมดุลชีวิตการทำงาน: 65.1

เฮลซิงกิครองตำแหน่งรองอันดับหนึ่ง โดยส่งเสริมสมดุลชีวิตการทำงานอย่างแข็งขันผ่านการมุ่งเน้นชุมชนและวิถีชีวิตที่เป็นสุข นโยบายสังคมที่ก้าวหน้าของฟินแลนด์ รวมถึงการลาคลอดที่เป็นธรรมและวันลาพักร้อนที่ยาวนาน เป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการสร้างสมดุลชีวิตการทำงาน

3.สตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน คะแนนสมดุลชีวิตการทำงาน: 64.8

สตอกโฮล์ม ครองอันดับสามของเมืองที่มีสมดุลชีวิตการทำงานที่ดีเยี่ยม โดยมีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง คุณภาพชีวิตสูง และวัฒนธรรมที่เฟื่องฟู พนักงานชาวสวีเดนมีสิทธิได้รับวันลาพักร้อนขั้นต่ำ 25 วันต่อปี และรูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่นก็เป็นเรื่องปกติ

4.ออสโล ประเทศนอร์เวย์ คะแนนสมดุลชีวิตการทำงาน: 63.2

ออสโล ด้วยคุณภาพชีวิตที่สูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก จึงคว้าอันดับที่สี่มาครอง บริษัทต่างๆ ในออสโลมักมีนโยบายการทำงานที่ยืดหยุ่น อำนวยความสะดวกให้พนักงานสามารถปรับสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวได้อย่างลงตัว

5.อ็อกแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ คะแนนสมดุลชีวิตการทำงาน: 62.7

อ็อกแลนด์ เป็นอีกหนึ่งเมืองที่น่าจับตามอง โดยครองอันดับที่ 5 ด้วยบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเป็นมิตร เศรษฐกิจที่เติบโตและหลากหลาย ทำให้พนักงานในอ็อกแลนด์ทำงานเฉลี่ยเพียงสัปดาห์ละ 26.3 ชั่วโมง และได้สัมผัสกับสภาพแวดล้อมที่ช่วยให้รู้สึกสดชื่น

6.โกเธนเบิร์ก ประเทศสวีเดน คะแนนสมดุลชีวิตการทำงาน: 60.7

โกเธนเบิร์ก เมืองใหญ่อันดับสองของสวีเดน มอบความสะดวกสบายในการเข้าถึงชายหาดและธรรมชาติที่สวยงามให้แก่ผู้พักอาศัย ด้วยวันลาพักร้อนขั้นต่ำ 25 วันต่อปี โกเธนเบิร์กจึงเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการรักษาสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว

7.เรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์ คะแนนสมดุลชีวิตการทำงาน: 58.7

เรคยาวิก เมืองหลวงของไอซ์แลนด์ เป็นสวรรค์สำหรับผู้รักธรรมชาติ รัฐบาลไอซ์แลนด์ส่งเสริมให้ประชาชนมีสมดุลชีวิตการทำงานที่ดี โดยพนักงานมีสิทธิได้รับวันลาพักร้อน 24 วันต่อปี

8.กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย คะแนนสมดุลชีวิตการทำงาน: 58.5

กรุงเวียนนา ด้วยคุณภาพชีวิตอันยอดเยี่ยมและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ทำให้เป็นเมืองในฝันสำหรับผู้ที่ต้องการมีสมดุลชีวิตการทำงานที่ดีเยี่ยม ประเทศออสเตรียมอบวันลาพักร้อนที่ยาวนานและพื้นที่สีเขียวมากมาย

9.เอดินบะระ ประเทศสกอตแลนด์ คะแนนสมดุลชีวิตการทำงาน: 57.1

เอดินบะระ เมืองแรกของสหราชอาณาจักรที่ติดอันดับ 10 เมืองที่มีสมดุลชีวิตการทำงานที่ดีเยี่ยม มีทั้งมรดกทางวัฒนธรรมที่รุ่มรวยและความงามทางธรรมชาติที่น่าทึ่ง ด้วยวันลาพักร้อน 28 วันต่อปีและวันลาคลอดที่ยาวนาน ทำให้มีเวลาว่างสำหรับพักผ่อนหย่อนใจอย่างมากมาย

10.เบลฟาสต์ ไอร์แลนด์เหนือ คะแนนสมดุลชีวิตการทำงาน: 57

เบลฟาสต์ เมืองที่สองจากสหราชอาณาจักรที่ติดอันดับนี้ นำเสนอบรรยากาศที่คึกคักแต่ผ่อนคลายพร้อมกับภาคเทคโนโลยีที่กำลังเติบโต เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าด้วยวันลาคลอดที่ยาวนานและโอกาสมากมายในการเพลิดเพลินกับชีวิตในเมือง

เมืองเหล่านี้ได้รับการยอมรับจาก Forbes ในปี 2023 ว่าเป็นเมืองที่มุ่งมั่นสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการให้บุคคลสามารถปรับสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.