"ข้อนิ้วดำ" เกิดจากอะไร พร้อมวิธีแก้ไขอย่างได้ผล
ผิวหนังบริเวณข้อนิ้วดำคล้ำ อาจมีสาเหตุได้หลายประการ สีผิวที่เข้มขึ้นบริเวณข้อเข่านี้อาจเกิดจากกรรมพันธุ์ หรืออาจเป็นปฏิกิริยาจากยาที่คุณกำลังรับประทาน เช่น ยาคุมกำเนิด คอร์ติโคสเตียรอยด์ หรือไนอาซิน นอกจากนี้ ผิวหนังข้อเข่าที่ดำคล้ำยังอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงโรคบางอย่างที่ต้องได้รับการรักษา เช่น โรคเบาหวาน
ทุกคนไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็สามารถมีผิวหนังข้อนิ้วดำคล้ำได้ แต่พบได้บ่อยในผู้ที่มีสีผิวเข้มกว่า โดยบทความนี้จะกล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้ผิวหนังข้อนิ้วดำคล้ำ รวมถึงวิธีการรักษาต่างๆ ทั้งวิธีรักษาตามบ้าน
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ข้อเข่าดำ
ผิวหนังบริเวณข้อนิ้วที่ดำคล้ำอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพหลายชนิด นอกจากนี้อาจเกิดจากการขาดวิตามินและยาบางชนิด มาดูกันว่าอะไรคือสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด
1.โรคผิวหนังช้าง (Acanthosis nigricans) โรคผิวหนังช้าง (Acanthosis nigricans หรือ AN) เป็นภาวะที่ผิวหนังบริเวณหนึ่งหรือหลายบริเวณของร่างกาย เช่น ข้อนิ้วจะมีความเข้มขึ้นและหนาขึ้น ผิวหนังที่คล้ำลงมักจะมีลักษณะคล้ายกำมะหยี่ นอกจากนี้อาจรู้สึกคันหรือมีกลิ่นได้ โรคนี้พบได้ค่อนข้างบ่อย จากการศึกษาในปี 2010 พบว่ามีผู้ป่วยโรคนี้ถึง 19.6% ในทุกกลุ่มอายุ และพบว่าโรคนี้พบได้บ่อยในกลุ่มชาติพันธุ์พื้นเมืองอเมริกัน แอฟริกันอเมริกัน และฮิสแปนิก
ใครสามารถเป็นโรคผิวหนังช้างได้บ้าง
- มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน
- มีประวัติครอบครัวเป็นโรคผิวหนังช้าง
- เป็นคนเชื้อสายแอฟริกันอเมริกัน อเมริกันอินเดียน หรือฮิสแปนิก
- ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน
โรคผิวหนังช้างบางครั้งอาจถ่ายทอดทางพันธุกรรมและเกิดขึ้นได้แม้ในคนสุขภาพดี เชื่อกันว่าเกี่ยวข้องกับการกลายพันธุ์ของยีนที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยการเจริญเติบโตของไฟโบรบลาสต์ แต่บ่อยครั้งโรคนี้เป็นเพียงอาการหรือสัญญาณเตือนของโรคอื่นๆ เช่น โรคเบาหวาน
2.โรคเบาหวานก่อนเป็นโรค และโรคเบาหวาน
ผิวหนังข้อนิ้วที่ดำมักพบในผู้ป่วยเบาหวาน หรือผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานสูง โรคเบาหวานก่อนเป็นโรค หมายถึงระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ แต่ยังไม่สูงพอที่จะเป็นโรคเบาหวานเต็มตัว ตามข้อมูลจาก Mayo Clinic โรคเบาหวานก่อนเป็นโรคมักไม่มีอาการ ดังนั้นผิวหนังข้อนิ้วที่ดำจึงอาจเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญ เพราะการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและป้องกันไม่ให้โรคเบาหวานก่อนเป็นโรคพัฒนาไปสู่โรคเบาหวานได้
อย่างไรก็ตามยังไม่เข้าใจอย่างชัดเจนว่าทำไมผิวหนังข้อนิ้วจึงดำในผู้ป่วยเบาหวาน คาดว่าอาจเกี่ยวข้องกับระดับอินซูลินที่สูง ซึ่งส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวหนัง
3.ภาวะขาดวิตามินบี 12"
จากการศึกษาในปี 2016 พบว่า ผิวหนังข้อนิ้วที่ดำคล้ำอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงภาวะขาดวิตามินบี 12 ที่สำคัญ และบางครั้งอาจเป็นสัญญาณเดียวที่บ่งบอกถึงภาวะขาดวิตามินชนิดนี้ อาการอื่นๆ ของภาวะขาดวิตามินบี 12 ได้แก่ ความอ่อนล้า โลหิตจาง หายใจลำบาก เวียนหัว มึนงง และปัญหาทางระบบประสาท การศึกษาในปี 2017 พบว่าประมาณ 10% ของผู้ที่มีภาวะขาดวิตามินบี 12 มีผิวหนังข้อนิ้วที่ดำคล้ำ เมื่อรักษาภาวะขาดวิตามินบี 12 แล้ว ผิวหนังข้อนิ้วมักจะกลับมาเป็นสีปกติ
4.ปฏิกิริยาจากยา
บางคนอาจมีผิวหนังข้อนิ้วดำคล้ำเนื่องจากการรับประทานยาบางชนิด ยาที่พบบ่อยที่สุดที่ทำให้เกิดอาการนี้ได้แก่
- ยาคุมกำเนิด
- ยาฮอร์โมนเพศหญิง
- ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์
- ยาต้านเอชไอวีกลุ่มโปรทีเอสอินฮิบิเตอร์
- ไนอาซินและนิโคตินิกแอซิด
- อินซูลินที่ฉีด
หากคุณกำลังรับประทานยาเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางเลือกอื่นๆ โดยทั่วไป ผิวหนังข้อนิ้วที่ดำคล้ำจะหายไปเมื่อหยุดรับประทานยา
5.โรคผิวหนังและกล้ามเนื้ออักเสบ
โรคผิวหนังและกล้ามเนื้ออักเสบ (Dermatomyositis) เป็นโรคอักเสบที่พบได้น้อยชนิดหนึ่ง ซึ่งทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงและผื่นคันตามผิวหนัง ผื่นคันนี้มักปรากฏบริเวณข้อนิ้ว ใบหน้า หน้าอก เข่า หรือข้อศอก ผื่นอาจมีสีม่วงอมแดงหรือสีแดง และบางครั้งอาจมีผื่นคันโดยไม่มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงร่วมด้วย
6.โรคสเคลอโรเดอร์มา เป็นโรคภูมิต้านทานตนเองที่หายาก ซึ่งทำให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนมากเกินไป ส่งผลให้ผิวหนังและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันแข็งและตึง มีหลายประเภทของโรคสเคลอโรเดอร์มา และบางประเภทอาจทำให้เกิดความพิการ
หนึ่งในอาการของโรคสเคลอโรเดอร์มาคือ ผิวหนังแดง ซึ่งรวมถึงบริเวณมือและข้อนิ้ว ผิวหนังที่แดงอาจมีสีม่วงแดงหรือสีแดง อาการนี้บางครั้งอาจปรากฏโดยไม่มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคสเคลอโรเดอร์มามักพบในเด็กอายุระหว่าง 5-15 ปี หรือผู้ใหญ่ที่มีอายุประมาณ 40-60 ปี โรคนี้ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด แต่สามารถรักษาอาการต่างๆ ได้
โรคนี้พบได้บ่อยที่สุดในเด็กอายุระหว่าง 5-15 ปี หรือผู้ใหญ่ที่มีอายุประมาณ 40-60 ปี ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคนี้ให้หายขาด แต่สามารถรักษาอาการต่างๆ ได้
7.โรคแอดดิสัน เป็นโรคที่พบได้น้อย เกิดจากต่อมหมวกไตไม่สามารถผลิตฮอร์โมนสเตียรอยด์ที่สำคัญสองชนิด ได้แก่ คอร์ติซอลและอัลโดสเตอโรน ได้เพียงพอ อาการทั่วไปที่พบได้บ่อยคือ ความอ่อนล้าและผิวหนังคล้ำ โดยผิวหนังที่คล้ำมักปรากฏบริเวณรอยแผลเป็น หรือรอยพับของผิวหนัง เช่น ข้อนิ้ว อาการของโรคนี้มีความหลากหลาย แต่โดยทั่วไป ผิวหนังคล้ำมักจะปรากฏก่อนอาการอื่นๆ
ในสหรัฐอเมริกามีผู้ป่วยเป็นโรคแอดดิสันประมาณ 1 ใน 100,000 คน โรคนี้มักพบในผู้ที่มีอายุระหว่าง 30-50 ปี โรคแอดดิสันสามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาเพื่อควบคุมอาการ
8.โรคถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (PCOS) เป็นภาวะที่ร่างกายของผู้หญิงผลิตฮอร์โมนเพศชายมากกว่าปกติ อาการหนึ่งที่พบบ่อยคือ ผิวหนังคล้ำ โดยเฉพาะบริเวณรอยพับของผิวหนัง โรคนี้สามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การควบคุมน้ำหนักและการออกกำลังกาย
หากคุณสังเกตเห็นว่าข้อนิ้วของคุณดำคล้ำขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ควรปรึกษาแพทย์ บอกแพทย์เกี่ยวกับอาการอื่นๆ ที่คุณอาจมี เช่น ความอ่อนล้า เวียนหัว หรือปวดเมื่อย คุณสามารถค้นหาแพทย์ใกล้บ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากข้อนิ้วของคุณดำคล้ำขึ้นอย่างฉับพลัน ควรไปพบแพทย์ทันที อาการนี้อาจเป็นสัญญาณของภาวะร้ายแรงที่ต้องได้รับการรักษาโดยเร็ว
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.