3 น้ำมันธรรมชาติตัวท็อป วิตามินแร่ธาตุเพียบ บำรุงร่างกาย ข้อเข่าไม่ลั่น
ผู้รักสุขภาพทุกท่านคงจะเคยได้ยินมาบ้างว่า "อาหารคือยา" การดูแลสุขภาพจากภายในจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้นซึ่งหมายถึงร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลง และต้องการการดูแลเป็นพิเศษ หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพที่ดี คือ การบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใส่ใจกับส่วนประกอบต่างๆ ของอาหาร และ "น้ำมัน" ก็เป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารประจำวันของเรา
เราจะมาทำความรู้จักกับน้ำมันธรรมชาติ 3 ชนิดที่ได้รับความนิยม และมีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นอย่างมากได้แก่ น้ำมันงาดำ น้ำมันงาขี้ม้อน และน้ำมันสาหร่าย ซึ่งล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยบำรุงร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของกระดูกและข้อ ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในผู้ที่มีอายุเพิ่มมากขึ้น
บทความนี้จะพาคุณไปค้นพบคุณประโยชน์อันน่าทึ่งของน้ำมันธรรมชาติทั้ง 3 ชนิดนี้ว่ามีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกายอย่างไรบ้าง และจะนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดีและมีชีวิตชีวาได้อย่างไร พร้อมทั้งคำแนะนำในการเลือกใช้น้ำมันเหล่านี้ให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์
3 น้ำมันจากธรรมชาติตัวท็อป
1.น้ำมันงาดำ
เป็นเมล็ดพืชขนาดเล็กแบน มีน้ำมันสูง พบได้ในฝักของพืชเซซามัม อินดิคัม ซึ่งถูกเพาะปลูกมาหลายพันปีแล้ว เมล็ดงามีหลากหลายสี เช่น ดำ น้ำตาล แทน เทา ทอง และขาว โดยเมล็ดงาดำส่วนใหญ่ผลิตในเอเชีย แต่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั่วโลก ความนิยมที่เพิ่มขึ้นนี้อาจมาจากความเชื่อว่าเมล็ดงาดำดีต่อสุขภาพ
ประโยชน์ของน้ำมันงาดำ
เมล็ดงาดำเป็นสุดยอดอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด อาทิ วิตามินบีรวม (B1, B2, B3, B5, B6, B9), แคลเซียม, แมกนีเซียม, โพแทสเซียม, โซเดียม, ฟอสฟอรัส, สังกะสี และเหล็ก ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกายเกือบทุกส่วน และเหมาะสมกับคนทุกวัย โดยเฉพาะผู้หญิงที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยทอง งาดำจะช่วยป้องกันโรคภาวะกระดูกพรุนอย่างได้ผล
อีกทั้งเพราะงาดำอุดมไปด้วยแร่ธาตุหลักและแร่ธาตุรองอย่างโดดเด่น ร่างกายของเราต้องการแร่ธาตุรองในปริมาณน้อย แต่ต้องการแร่ธาตุหลักในปริมาณมากขึ้น การบริโภคแร่ธาตุหลักอย่างแคลเซียมและแมกนีเซียมในปริมาณสูงนั้นสัมพันธ์กับปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจที่ลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความดันโลหิตสูง
แร่ธาตุรองบางชนิดในเมล็ดงาดำ เช่น เหล็ก ทองแดง และแมงกานีส มีความสำคัญต่อการควบคุมการเผาผลาญอาหาร การทำงานของเซลล์ และระบบภูมิคุ้มกัน รวมถึงการไหลเวียนออกซิเจนทั่วร่างกาย และกิจกรรมอื่น ๆ เนื่องจากเมล็ดงาดำมากกว่าครึ่งประกอบด้วยน้ำมัน จึงเป็นแหล่งที่ดีของไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนที่มีประโยชน์ หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ล่าสุดชี้ให้เห็นว่า การแทนที่อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูงด้วยอาหารที่มีไขมันไม่อิ่มตัวสูงอาจลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
2.น้ำมันงาขี้ม้อน งาม้อน หรือ งาขี้ม้อน
เป็นพืชสมุนไพรที่มีประวัติยาวนาน โดยเฉพาะในภาคเหนือของประเทศไทย ต้นงาม้อนมีลักษณะคล้ายพืชตระกูลเดียวกับกระเพรา โหระพา และแมงลัก เมล็ดมีขนาดเล็ก กลม และมีสีน้ำตาลเข้ม
ประโยชน์ของน้ำมันงาขี้ม้อน
น้ำมันงาขี้ม้อน เป็นสุดยอดแหล่งโอเมก้า 3 สิ่งที่โดดเด่นของงาม้อนคือปริมาณกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่สูงมาก ซึ่งใกล้เคียงกับปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน และปลาทูน่า กรดไขมันโอเมก้า 3 นี้มีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของระบบประสาท ช่วยพัฒนาสมองและความจำ
นอกจากนั้นน้ำมันงาขี้ม้อนยังช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง งาม้อนอุดมไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการสร้างและบำรุงกระดูกและฟัน ทำให้งาม้อนเป็นอาหารเสริมที่เหมาะสำหรับเด็กที่กำลังเจริญเติบโตและผู้สูงอายุที่ต้องการป้องกันโรคกระดูกพรุน นอกจากนี้ วิตามินบีในงาม้อนยังช่วยบำรุงสมอง ป้องกันอาการสมองเสื่อม ไมเกรน และอาการเหน็บชา
อย่างไรก็ตามน้ำมันงาขี้ม้อนยังมีคุณสมบัติต้านมะเร็ง งานวิจัยพบว่างาม้อนมีสารเซซามอล ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งบางชนิด สำหรับน้ำมันงาม้อนคุณภาพสูงคือน้ำมันงาม้อนที่สกัดจากธรรมชาติ ยังคงรักษารสชาติ กลิ่น และสีตามธรรมชาติ สามารถนำมาใช้ปรุงอาหารได้หลากหลาย เช่น ทำน้ำสลัด หรือใช้ผัดอาหาร
3.น้ำมันสาหร่าย
สกัดมาจากสาหร่ายทะเลชนิด Schizochytrium sp. ซึ่งเป็นสาหร่ายขนาดเล็กนั้นอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น แคลเซียม ธาตุเหล็ก ไฟเบอร์ โฟเลต และแมกนีเซียม นอกจากนี้สารสำคัญอีกชนิดหนึ่งที่พบมากในน้ำมันสาหร่ายก็คือ DHA ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการบำรุงสายตาและพัฒนาการของสมอง
ประโยชน์ของน้ำมันสาหร่าย
น้ำมันสาหร่ายอุดมไปด้วยสารอาหารและสารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายอย่างสารฟูคอยแดน มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการอักเสบเรื้อรังที่เป็นต้นเหตุของโรคต่างๆ นอกจากนั้นยังมีสารโพลีแซคคาไรด์ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันการติดเชื้อและโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ
อีกทั้งสารโพลีแซคคาไรด์ในน้ำมันสาหร่ายยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและภาวะแทรกซ้อนที่ตามมา รวมไปถึงสารฟิวโคแซนธิน (Fucoxanthin) ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันในร่างกาย ช่วยลดไขมันส่วนเกินและเพิ่มพลังงาน
น้ำมันธรรมชาติทั้ง 3 ชนิดนี้ล้วนมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน การเลือกใช้ควรพิจารณาจากความต้องการและสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ควบคู่ไปกับการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำมันธรรมชาติทั้ง 3 ชนิดอย่างไวตาเนเจอร์พลัส น้ำมันงาดำผสมน้ำมันงาขี้ม้อน (Vitanature+ Black Sesame Oil with Perilla Oil) จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและมีสุขภาพที่ดีได้อย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนตัดสินใจรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.