เจาะ! สาเหตุน้องสาวกลิ่นแรง พร้อม 5 วิธีลดกลิ่นน้องสาวได้อย่างอยู่หมัด

สวยแต่หน้าอย่างเดียวไม่ได้! เพราะถ้าน้องสาวมีกลิ่นอาจพาให้ไม่มั่นใจไปอีกยาว ซึ่งปัญหานี้ไม่ใช่แค่เพียงช่วงเวลาของการมีเซ็กส์เท่านั้นถึงจะได้กลิ่น แต่สาว ๆ บางคนอาจถึงขั้นกลิ่นทะลุกางเกงหรือกระโปรงออกมาเลยทีเดียว ซึ่งอาจมาจากการทำความสะอาดที่ไม่ดีพอ พร้อมกับปัจจัยหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรับประทานอาหารที่มีกลิ่นแรง การสวมใส่ชั้นในที่ไม่ถ่ายเทอากาศจนกลายเป็นการอับชื้น การติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา รวมไปถึงการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์  นอกจากนี้ การมีภาวะตั้งครรภ์ยังส่งผลให้กลิ่นของน้องสาวรุนแรงขึ้นได้อีกด้วยนะคะ

5 วิธีดูแลและจัดการปัญหาน้องสาวมีกลิ่นให้อยู่หมัด

ถ้าไม่อยากสูญเสียความมั่นใจในเรื่องของกลิ่นน้องสาว แนะนำ 5 วิธีการดูแลและจัดการกลิ่นแบบอยู่หมัด ที่สาว ๆ ทุกคนสามารถทำได้ เพียงแค่ดูแลอย่างต่อเนื่อง รับรองเลยค่ะว่ากลิ่นหอมสดชื่นแน่นอน

1.การทำความสะอาดต้องถูกวิธี

การทำความสะอาดน้องสาวอย่างถูกวิธี คือ การใช้น้ำสะอาดและสบู่อ่อน ๆ เท่านั้น ไม่ควรใช้สารเคมีใด ๆ สวนล้าง เพราะอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้ง่าย ส่วนการทำความสะอาดระหว่างวัน ควรเช็ดจากหน้าไปหลัง เพื่อป้องกันไม่ให้ช่องคลอดติดเชื้อ

2.เลี่ยงการทานอาหารกลิ่นฉุน

อาหารที่มีกลิ่นฉุน มีส่วนสำคัญมากที่จะทำให้น้องสาวของคุณมีกลิ่นอย่างรุนแรง เช่น การรับประทานกระเทียม เครื่องเทศ หัวหอม หรือแม้แต่ขนมหวานที่น้ำตาลจะเข้าไปทำลายแบคทีเรียดี ภายในระบบย่อยอาหาร จึงไม่มีแบคทีเรียนี้มาปกป้อง ทำให้เกิดเชื้อราบริเวณจุดซ่อนเร้นได้ง่าย พร้อมอาหารที่มีกรดสูงอย่างหน่อไม้ฝรั่ง บลอกโคลี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือแม้แต่หมูเนื้อแดง จะทำให้สมดุลร่างกายเสียและเสี่ยงทำให้เกิดโรคกับกลิ่นได้มากอีกด้วย

3.ตัดขนน้องสาวออกบ้าง

ขนที่บริเวณจุดซ่อนเร้นจะมีข้อดีของการปกป้อง แต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน เพราะถ้ามีมากเกินไปอาจก่อให้เกิดความอับชื้น และเสี่ยงต่อการติดเชื้อราได้ง่าย ส่งกลิ่นปลาเค็มออกมาอย่างชัดเจน ดังนั้นหลังการทำความสะอาดแล้ว ควรเป็นการตัดหรือเล็มขนบริเวณนี้ออก เพื่อทำให้เกิดการถ่ายเทอากาศที่ดีขึ้น รักษาความสะอาดง่าย แต่ห้ามโกนเด็ดขาด

4.หยุดใช้น้ำยา

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น หรือน้ำยาต่าง ๆ ที่ถูกโฆษณาออกมาเป็นจำนวนมาก อาจจะทำให้รู้สึกเหมือนทำความสะอาดได้ดี แต่ในความเป็นจริงแล้วน้ำยาเหล่านี้ เมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานจะส่งผลเสีย เพราะเข้าไปทำลายแบคทีเรียดีที่อยู่บริเวณปากช่องคลอดทั้งหมด จึงก่อให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายมาก ซึ่งจะมาพร้อมกับกลิ่นที่เหม็นอย่างรุนแรง ดังนั้นแค่น้ำเปล่าและสบู่อ่อน ๆ ก็เพียงพอแล้ว

5.เปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 4 ชั่วโมง

ถ้าอยู่ในช่วงที่คุณเป็นประจำเดือนและไม่อยากให้มีกลิ่นคาวเลือด หรือกลิ่นใด ๆ ติดมาหลังประจำเดือนหยุดไปแล้ว แนะนำให้มีการเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 4-6 ชั่วโมงและทุกวัน เพื่อลดการติดเชื้อจากเลือดเสีย และช่วยลดกลิ่นได้ดีมาก  นอกจากนี้ ถ้าไม่ได้เป็นประจำเดือนแล้วก็ไม่ควรใช้แผ่นอนามัย เพราะจะเป็นตัวทำให้ติดเชื้อบริเวณช่องคลอดได้ง่ายมากขึ้น

การดื่มน้ำก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน เพราะจะเป็นตัวช่วยกระตุ้นให้เกิดการขับสารคัดหลั่งที่บริเวณช่องคลอด ซึ่งถือเป็นกระบวนการทำความสะอาดตามธรรมชาติของร่างกาย จึงช่วยลดกลิ่นเหม็นที่บริเวณน้องสาวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้การปัสสาวะ หรือการทำกิจกรรมใด ๆ ภายในห้องน้ำ ควรมีการทำความสะอาดและเช็ดหรือซับด้วยทิชชู่ให้เรียบร้อย จะช่วยป้องกันกลิ่นอับได้เป็นอย่างดี

 

 

 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.