9 เทคนิคเปลี่ยนผมบางให้ดูหนาขึ้น ช่วยให้หน้าดูอ่อนเยาว์

ใครที่มีปัญหาผมบาง คงจะเข้าใจดีว่าการจะหาไอเดียจัดทรงผมให้ดูหนาขึ้นนั้นช่างยากเย็นเหลือเกิน บางคนอาจจะลองใช้สารเคมีดัดผม ยืดผม หรือต่อผม แต่ก็ล้วนมีผลเสียต่อเส้นผมในระยะยาว บทความนี้ Vogue ขอพาทุกคนมาพบกับเคล็ดลับสุดพิเศษจากช่างผมชื่อดัง Luke Hersheson ผู้มีประสบการณ์จัดทรงผมให้กับเหล่าเซเลบริตี้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Dua Lipa หรือ Victoria Beckham เคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้ผมบางของคุณดูหนาขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีใดๆ

1.แชมพูและครีมนวดผมไม่ได้ช่วยให้ผมหนาขึ้นจริงหรือ?

หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า การใช้แชมพูและครีมนวดผมสูตรเพิ่มวอลลุ่มจะช่วยให้ผมหนาขึ้น แต่ Luke Hersheson ช่างผมชื่อดังกลับบอกว่า สิ่งสำคัญที่แท้จริงคือ อะไรที่เราไม่ควรทำ มากกว่า

"การใช้ครีมนวดผมที่ไม่เหมาะสม หรือใช้มากเกินไป อาจทำให้ผมดูหนักลงและลีบแบน ส่งผลให้ผมดูบางลงได้" Hersheson อธิบาย "ผมแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้มาส์กผมและครีมนวดผมเนื้อหนัก เพื่อช่วยคงความหนาและวอลลุ่มของเส้นผม"

แทนที่จะทุ่มเทเวลาและเงินไปกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ Hersheson แนะนำให้เรามุ่งเน้นไปที่วิธีการดูแลเส้นผม ดังนี้

  • สระผมอย่างถูกวิธี: เลือกแชมพูที่เหมาะกับสภาพผม สระผมด้วยน้ำอุ่น และนวดหนังศีรษะเบาๆ ล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำเย็น
  • ใช้ครีมนวดผมในปริมาณที่พอเหมาะ: ทาครีมนวดผมเฉพาะปลายผม นวดทิ้งไว้สักครู่แล้วล้างออกให้สะอาด
  • หลีกเลี่ยงความร้อน: การเป่าผมด้วยความร้อนสูง การหนีบผม หรือการม้วนผมบ่อยๆ ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมเสียและแห้งกร้าน ส่งผลให้ผมดูบางลง
  • เล็มปลายผมเป็นประจำ: การเล็มปลายผมที่แห้งเสียแตกปลายออก จะช่วยให้ผมดูหนาขึ้นและสุขภาพดี
  • ทานอาหารที่มีประโยชน์: ทานอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อเส้นผม เช่น ไบโอติน สังกะสี และเหล็ก
  • จัดการความเครียด: ความเครียดเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาผมร่วง พยายามหาเวลาผ่อนคลาย ออกกำลังกาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

2.กุญแจสำคัญสู่ผมหนา: เริ่มต้นด้วยการตัดผมที่ดี

Hersheson บอกเราว่า กุญแจสำคัญสู่ผมที่ดูหนาที่สุดคือ การตัดผมที่ดี

"การตัดผมที่ดีเปรียบเสมือนรากฐานของการจัดแต่งทรงผมทุกประเภท จำเป็นต้องมีรูปทรงและการตัดแต่งที่ชัดเจนก่อน มิฉะนั้นก็เหมือนกับอาคารที่ไม่มีรากฐาน ผมที่ตัดไม่ดีจะต้านทานแรงโน้มถ่วงไม่ได้ เพราะน้ำหนักของมันจะดึงผมลง"

หากขาดการตัดผมที่ดี ต่อให้ใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องมือจัดแต่งทรงผมราคาแพงแค่ไหน ก็ยากที่จะสร้างวอลลุ่มให้กับเส้นผมได้

3.เพิ่มลูกเล่นด้วยผมสั้นบริเวณหน้าผาก ช่วยให้ผมดูหนาขึ้น

Hersheson บอกเราว่า การตัดผมสั้นบางส่วนบริเวณด้านหน้า เช่น การตัดหน้าม้าให้ยาวขึ้น หรือการซอยผมไล่ระดับบริเวณใบหน้า ก็สามารถช่วยให้ผมดูหนาขึ้นได้

"เทคนิคนี้ช่วยให้ผมดูหนาขึ้น แทนที่จะดูแบนตรงและเหมือนม่าน" Hersheson อธิบาย

การตัดผมสั้นบริเวณหน้าผากมีข้อดีดังนี้

  • ช่วยดึงความสนใจมาที่ใบหน้า ทำให้ผมดูหนาขึ้น
  • เพิ่มเท็กซ์เจอร์ให้กับทรงผม
  • ช่วยพรางรูปหน้า

ทรงผมสั้นบริเวณหน้าผากที่เหมาะกับผมบาง

  • หน้าม้าสั้น: หน้าม้าสั้นจะช่วยดึงความสนใจมาที่ดวงตา ทำให้ใบหน้าดูสว่างขึ้น
  • หน้าม้าปัดข้าง: หน้าม้าปัดข้างจะช่วยพรางรูปหน้าและทำให้ผมดูหนาขึ้น
  • ซอยไล่ระดับ: การซอยไล่ระดับบริเวณใบหน้าจะช่วยเพิ่มเท็กซ์เจอร์ให้กับทรงผม

Hersheson แนะนำเทคนิคการตัดผมสำหรับผมบางดังนี้

  • เลเยอร์: การตัดผมแบบเลเยอร์จะช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้กับเส้นผม โดยเฉพาะบริเวณโคนผม
  • ซอย: การซอยปลายผมจะช่วยให้ผมดูมีชีวิตชีวาและหนาขึ้น
  • หน้าม้า: หน้าม้าสามารถช่วยพรางผมบางบนหนังศีรษะได้
  • แสกข้าง: การแสกข้างจะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจจากหนังศีรษะและทำให้ผมดูหนาขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีเทคนิคอื่นๆ ที่สามารถช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้กับผมบางได้ เช่น

  • ดัดผม: การดัดผมจะช่วยให้ผมดูมีวอลลุ่มและหนาขึ้น
  • ม้วนผม: การม้วนผมจะช่วยเพิ่มเท็กซ์เจอร์ให้กับเส้นผมและทำให้ผมดูหนาขึ้น
  • ใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม: ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมบางชนิด เช่น สเปรย์เพิ่มวอลลุ่ม มูส หรือครีมจัดแต่งทรงผม สามารถช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้กับผมบางได้

ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปใช้ รับรองว่าผมของคุณจะดูหนาขึ้น สุขภาพดี และมีวอลลุ่มมากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

4.ผมบางบริเวณขมับและด้านข้าง? แก้ปัญหาด้วย "ฟิลเลอร์ผม"

หลายคนประสบปัญหาผมบางบริเวณขมับและด้านข้างของศีรษะ โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้น "ฟิลเลอร์ผม" หรือการต่อผมแบบเฉพาะจุดบริเวณด้านข้างศีรษะ สามารถช่วยเพิ่มความหนาของเส้นผมได้

Hersheson อธิบายว่า ฟิลเลอร์ผมเหล่านี้จะถูกติดตั้งอย่างแนบเนียน ไม่ได้ดูเป็นการต่อผมแบบหนาๆ จนดูไม่เป็นธรรมชาติ ดาราหลายคนต่างใช้เทคนิคนี้บนพรมแดง "และคุณอาจจะไม่เคยสังเกตเห็นเลย"

ข้อดีของการใช้ฟิลเลอร์ผม

  • ช่วยเพิ่มความหนาของเส้นผมบริเวณที่บาง
  • ปกปิดหนังศีรษะที่บาง
  • เพิ่มความมั่นใจ
  • ติดตั้งและถอดออกได้ง่าย
  • ไม่ทำลายเส้นผม

ใครเหมาะกับการใช้ฟิลเลอร์ผม

  • ผู้ที่มีปัญหาผมบางบริเวณขมับหรือด้านข้างของศีรษะ
  • ผู้ที่ต้องการเพิ่มความหนาให้กับทรงผม
  • ผู้ที่ต้องการปกปิดหนังศีรษะที่บาง
  • ผู้ที่ต้องการลองเปลี่ยนทรงผมโดยไม่ต้องตัดผมจริง

ข้อควรระวัง

  • ควรเลือกฟิลเลอร์ผมจากร้านที่มีมาตรฐาน
  • ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญติดตั้งฟิลเลอร์ผม
  • ควรดูแลรักษาฟิลเลอร์ผมอย่างถูกวิธี

ฟิลเลอร์ผมเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมบาง สามารถช่วยเพิ่มความหนาของเส้นผม ปกปิดหนังศีรษะที่บาง และเพิ่มความมั่นใจ

5.เปลี่ยนข้างแสก เพิ่มวอลลุ่มให้ผมง่ายๆ

Hersheson เผยเคล็ดลับเพิ่มวอลลุ่มให้ผมแบบง่ายๆ และรวดเร็ว เพียงแค่เปลี่ยนข้างแสกและสลับผมไปอีกด้าน

"ลองนึกถึงลุคผมปาดข้างสุดคลาสสิกของคิม เบซิงเกอร์" Hersheson อธิบาย "การแสกกลางจะทำให้ผมดูลีบแบน แต่การสลับผมไปอีกด้านจะช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้กับเส้นผมได้อย่างง่ายดาย"

เทคนิคการสลับผมเพิ่มวอลลุ่ม

  1. สระผมและเป่าผมให้แห้งสนิท
  2. แสกผมตามปกติ
  3. ใช้มือสางผมไปด้านตรงข้ามกับที่แสกไว้
  4. ใช้ไดร์เป่าผมเป่าผมในทิศทางตรงข้ามกับที่แสก ประมาณ 10-15 วินาที
  5. จัดแต่งทรงผมตามต้องการ

ข้อดีของการสลับผมเพิ่มวอลลุ่ม

  • ช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้กับผมที่ดูลีบแบน
  • เปลี่ยนลุคให้ดูใหม่โดยไม่ต้องเปลี่ยนทรงผม
  • ทำได้ง่ายและรวดเร็ว
  • ไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมเพิ่มเติม

ข้อควรระวัง

  • ผมที่สลับไปอีกด้านอาจจะดูไม่เป็นธรรมชาติในตอนแรก
  • ควรใช้สเปรย์หรือเจลจัดแต่งทรงผมเพื่อช่วยให้ผมอยู่ทรง
  • ไม่ควรสลับผมบ่อยๆ เพราะอาจทำให้ผมเสีย

การสลับผมเพิ่มวอลลุ่มเป็นเทคนิคง่ายๆ ที่สามารถช่วยให้ผมของคุณดูหนาขึ้น มีชีวิตชีวา และมั่นใจมากขึ้น

6.ดันผมให้พองที่โคนศีรษะ: เทคนิคสร้างวอลลุ่มแบบ Brigitte Bardot

ยังจำการ "ยีผม" เทคนิคการจัดแต่งทรงผมแบบโบราณได้ไหม? Hersheson บอกเราว่า เทคนิคนี้ยังมีประโยชน์อยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อต้องการสร้างวอลลุ่มให้กับผมบริเวณโคนศีรษะให้ดูหนาขึ้น แต่ควรหลีกเลี่ยงการยีผมแบบดั้งเดิมที่ใช้หวี

"ใช้แปรงขนผสมดึงผมขึ้นแล้วดันแปรงลงด้านล่างบริเวณโคนศีรษะ เทคนิคนี้จะช่วยสร้างลุคแบบ Brigitte Bardot และช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติ" Hersheson อธิบาย

วิธีการดันผมให้พองที่โคนศีรษะ

  1. สระผมและเป่าผมให้แห้งสนิท
  2. แบ่งผมส่วนบนออกเป็นช่อเล็กๆ
  3. ดึงผมแต่ละช่อขึ้นแล้วใช้แปรงขนผสมดันลงด้านล่างบริเวณโคนศีรษะ
  4. ทำซ้ำกับผมแต่ละช่อจนทั่วศีรษะ
  5. จัดแต่งทรงผมตามต้องการ

ข้อดีของการดันผมให้พองที่โคนศีรษะ

  • ช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้กับผมบริเวณโคนศีรษะ
  • สร้างลุคแบบ Brigitte Bardot
  • ช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติ
  • ทำได้ง่ายและรวดเร็ว

ข้อควรระวัง

  • ควรดันผมเบาๆ ไม่ควรดึงผมแรงๆ เพราะอาจทำให้ผมเสีย
  • ไม่ควรดันผมมากเกินไป เพราะอาจทำให้ผมดูลีบแบน
  • ควรใช้สเปรย์หรือเจลจัดแต่งทรงผมเพื่อช่วยให้ผมอยู่ทรง

7.มูสเพิ่มวอลลุ่ม: อีกหนึ่งตัวช่วยผมหนา

Hersheson บอกเราว่า มูสจัดแต่งทรงผมรุ่นใหม่ๆ สามารถช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้กับผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะบริเวณโคนผม

มูส Zhoosh สูตรใหม่จาก Hersheson ช่วยให้เส้นผมดูหนาขึ้นและมีวอลลุ่ม โดยไม่ทำให้ผมเหนียวเหนอะหนะ ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่น่าลองใช้ ได้แก่ Oribe’s Grandiose Hair Plumping Mousse และ Virtue’s Volumising Mousse

เคล็ดลับในการเลือกมูสเพิ่มวอลลุ่ม

  • เลือกมูสที่เหมาะกับสภาพผมของคุณ
  • ทดสอบมูสบนช่อผมเล็กๆ ก่อนใช้จริง
  • ทามูสบริเวณโคนผมที่เปียกหมาดๆ
  • นวดมูสให้ทั่วศีรษะ
  • เป่าผมด้วยไดร์เป่าผม

ประโยชน์ของการใช้มูสเพิ่มวอลลุ่ม

  • ช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้กับผม
  • ช่วยให้ผมอยู่ทรง
  • ปกป้องผมจากความร้อน
  • ช่วยให้ผมดูหนาขึ้น

ข้อควรระวัง

  • ไม่ควรใช้มูสมากเกินไป เพราะอาจทำให้ผมดูลีบแบน
  • ควรล้างมูสออกให้สะอาดก่อนนอน

มูสเพิ่มวอลลุ่มเป็นตัวช่วยที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่มีปัญหาผมบาง ลีบแบน หรือต้องการเพิ่มวอลลุ่มให้กับทรงผม

8.เป่าผมให้ถูกวิธี เพิ่มวอลลุ่มง่ายๆ

Hersheson เผยเคล็ดลับการเป่าผมให้ผมดูหนาขึ้น เพียงแค่เปลี่ยนทิศทางการเป่า "เทคนิคง่ายๆ เช่นนี้สามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างมาก" Hersheson อธิบาย "แทนที่จะเป่าผมจากด้านบนลง ให้ลองเป่าจากด้านล่างใต้โคนผมขึ้นไป"

วิธีการเป่าผมให้ถูกวิธี

  1. สระผมและเช็ดผมจนหมาด
  2. แบ่งผมออกเป็นช่อเล็กๆ
  3. ถือไดร์เป่าผมไว้ใต้โคนผม
  4. เป่าลมร้อนจากด้านล่างขึ้นไป
  5. ทำซ้ำกับผมแต่ละช่อจนทั่วศีรษะ
  6. จัดแต่งทรงผมตามต้องการ

ข้อดีของการเป่าผมให้ถูกวิธี

  • ช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้กับผม
  • ช่วยให้ผมแห้งเร็วขึ้น
  • ปกป้องผมจากความร้อน
  • ช่วยให้ผมดูมีสุขภาพดี

ข้อควรระวัง

  • ไม่ควรเป่าผมด้วยความร้อนสูงเกินไป
  • ไม่ควรเป่าผมนานเกินไป
  • ควรใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันความร้อนก่อนเป่าผม

การเป่าผมให้ถูกวิธีเป็นเทคนิคง่ายๆ ที่สามารถช่วยให้ผมของคุณดูหนาขึ้น มีชีวิตชีวา และมั่นใจมากขึ้น

9.เพิ่มมิติให้ผมด้วยสีผม: เทคนิคผมหนาขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

Hersheson บอกเราว่า การใช้ไฮไลท์และสีผมที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มมิติให้กับเส้นผม ทำให้ผมดูหนาขึ้น "เมื่อคุณเริ่มเพิ่มเท็กซ์เจอร์หรือคอนทราสต์ด้วยสี ผมของคุณจะดูมีมิติมากขึ้น และช่วยให้ผมดูหนาขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ" Hersheson อธิบาย "การเพิ่มโทนสีที่แตกต่างกันอย่างละเอียดอ่อนทั่วทั้งศีรษะจะช่วยแก้ปัญหาผมบางได้เป็นอย่างดี"

เทคนิคการใช้สีผมเพื่อเพิ่มมิติ

  • ไฮไลท์: การไฮไลท์เส้นผมด้วยสีที่สว่างกว่าสีผมธรรมชาติจะช่วยเพิ่มมิติให้กับเส้นผม ทำให้ผมดูหนาขึ้น
  • โลว์ไลท์: การโลว์ไลท์เส้นผมด้วยสีที่เข้มกว่าสีผมธรรมชาติจะช่วยเพิ่มความลึกให้กับเส้นผม ทำให้ผมดูมีมิติ
  • บัลayage: เทคนิคการไล่เฉดสีผมแบบธรรมชาติ จะช่วยเพิ่มมิติให้กับเส้นผม ทำให้ผมดูมีชีวิตชีวา
  • Ombre: เทคนิคการไล่เฉดสีผมแบบไล่ระดับ จะช่วยเพิ่มมิติให้กับเส้นผม ทำให้ผมดูหนาขึ้น

ข้อดีของการใช้สีผมเพื่อเพิ่มมิติ

  • ช่วยให้ผมดูหนาขึ้น
  • เพิ่มมิติให้กับเส้นผม
  • ทำให้ผมดูมีชีวิตชีวา
  • เปลี่ยนลุคให้ดูใหม่โดยไม่ต้องเปลี่ยนทรงผม

ข้อควรระวัง

  • ควรเลือกสีผมที่เหมาะกับสีผิวของคุณ
  • ควรปรึกษาช่างทำผมที่มีประสบการณ์
  • ควรดูแลรักษาเส้นผมอย่างถูกวิธี

การใช้สีผมเพื่อเพิ่มมิติเป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาผมบาง

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.