ทําไมเวลากินสับปะรดแล้วแสบลิ้น แล้วกินยังไงไม่ให้แสบลิ้น

สับปะรด ผลไม้ที่ใครหลายคนชอบรับประทานกัน นอกจากรสชาติหวานซ่อนเปรี้ยวที่ทำให้คนกินรู้สึกสดชื่นแล้ว สับปะรดยังอุดมไปด้วยประโยชน์ไม่แพ้ผลไม้ชนิดอื่นเลย แต่ทว่าหลายคนที่กินสับปะรดแล้วชอบบ่นว่าแสบลิ้น หรือคันบริเวณริมฝีปากขึ้นมาซะอย่างนั้น ทำให้คนไม่ค่อยโปรดปรานผลไม้ชนิดนี้สักเท่าไร

แล้วอาการที่ว่ามันเป็นเพราะอะไรกันนะ? วันนี้ ทางสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น จะมาไขข้อสงสัยที่ว่า ทําไมเวลากินสับปะรดแล้วแสบลิ้น แล้วจะมีวิธีกินสับปะรดแบบไหนไม่ให้แสบลิ้นบ้าง ไปหาคำตอบพร้อม ๆ กัน

ประโยชน์ของสับปะรด

ก่อนอื่นเลยต้องพาทุกคนมารู้จักกับประโยชน์ของสับปะรดก่อน โดยสับปะรดอุดมไปด้วย วิตามินและแร่ธาตุ ได้แก่ วิตามินซี วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามันบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี6 กรดโฟลิก แคลเซียม โพแทสเซียม แมงกานีส ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก เป็นต้น

นอกจากนี้ สับปะรดยังมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสอยู่เสมอ อีกทั้งช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยและความแก่ชราอีกด้วย

ทำไมกินสับปะรดแล้วแสบลิ้น ?

สาเหตุที่เรารู้สึกแสบลิ้นเวลากินสับปะรดเป็นเพราะในสับปะรดมีเอนไซม์ที่ชื่อว่าโบรมีเลน (bromelain) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่มีคุณสมบัติย่อยสลายโปรตีน ไม่ให้โปรตีนตกค้างในลำไส้ ซึ่งโปรตีนที่เคลือบผิวลิ้นอยู่ก็จะถูกย่อยจนเกิดอาการแสบลิ้นขึ้นมา

แต่ไม่ต้องตกใจไปนะคะเพราะหากเราหยุดทานสับปะรดไปสักพัก ลิ้นจะทำการสร้างโปรตีนขึ้นมาใหม่ได้เอง ดังนั้นอาการแสบลิ้นเวลากินสับปะรดจึงเกิดแค่ชั่วระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น

กินสับปะรดอย่างไรไม่ให้แสบลิ้น ?

เคล็ดลับกินสับปะรดอย่างไรไม่ให้แสบลิ้น เพียงแค่นำสับปะรดที่ปอกแล้วไปแช่น้ำเกลืออ่อน ๆ ประมาณ 10 นาที วิธีดังกล่าวจะช่วยให้เอนไซม์โบรมีเลนที่อยู่ในสับปะรดลดลง หรือจะกินสับปะรดจิ้มกับเกลือแทนก็ได้เช่นกัน เพราะเกลือจะเข้าไปช่วยลดความเข้มข้นของเอนไซม์โบรมีเลนที่มีในสับปะรด ทำให้เอนไซม์ดังกล่าวไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั่นเอง เพียงเท่านี้เราก็สามารถกินสับปะรดได้โดยที่ไม่ต้องแสบลิ้นกันแล้ว

หากใครอ่านมาถึงตรงนี้คงหมดข้อสงสัยกันแล้วนะว่าทำไมเวลาที่เรากินสับปะรดแล้วถึงแสบลิ้น รวมทั้งได้รู้วิธีกินสับปะรดอย่างไรไม่ให้แสบลิ้นกันไปแล้ว สำหรับใครที่ไม่ค่อยชอบกินสับปะรดสักเท่าไร ลองนำวิธีดังกล่าวไปลองกันค่ะ เผื่อจะช่วยให้การกินสับปะรดของคุณอร่อยมากยิ่งขึ้น

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.