10 ผลไม้น้ำตาลต่ำ อยากหวานทานได้ น้ำตาลในเลือดไม่พุ่ง

การลดน้ำตาลเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ แต่การอดใจจากของหวานนั้นยากเหลือเกิน คุณอาจตัดน้ำตาลที่ปรุงแต่งออกไปแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้ว่าผลไม้เองก็มีน้ำตาลอยู่เหมือนกัน หรือบางคนอาจเป็นโรคเบาหวานและต้องการเลือกผลไม้ที่จะส่งผลต่อน้ำตาลในเลือดน้อยที่สุด แม้ว่าผลไม้จะมีสารอาหารสำคัญมากมาย แต่บางชนิดก็มีน้ำตาลมากกว่าชนิดอื่น ๆ บทความนี้จะแนะนำผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อยที่สุด ช่วยให้คุณอิ่มอร่อยกับของหวานได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำตาล

10 ผลไม้น้ำตาลต่ำ

1.มะนาว และมะกรูด เป็นผลไม้รสเปรี้ยวที่มีวิตามินซีสูง มะกรูดมีน้ำตาลเพียง 1.13 กรัม และมะนาวมีน้ำตาล 2.1 กรัม ด้วยความเปรี้ยวและน้ำตาลต่ำ มะนาวและมะกรูดจึงเป็นตัวเลือกที่ลงตัวสำหรับการเพิ่มรสชาติให้กับน้ำเปล่าโดยไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำตาล นอกจากนี้ มะนาวและมะกรูดยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น

  • เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน: วิตามินซีในมะนาวและมะกรูดช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  • ต้านอนุมูลอิสระ: วิตามินซีในมะนาวและมะกรูดช่วยต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังบางชนิด
  • ช่วยย่อยอาหาร: กรดซิตริกในมะนาวและมะกรูดช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำย่อยอาหาร ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
  • บำรุงผิว: วิตามินซีในมะนาวและมะกรูดช่วยบำรุงผิวพรรณ ให้ผิวกระจ่างใส
  • ลดความเสี่ยงของนิ่วในไต: กรดซิตริกในมะนาวและมะกรูดอาจช่วยลดความเสี่ยงของนิ่วในไต

มะนาวและมะกรูด จึงเป็นผลไม้ที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่ เหมาะสำหรับการนำมาประกอบอาหาร เครื่องดื่ม หรือทานสด เพื่อสุขภาพที่ดี

2.ราสเบอร์รี่ ผลไม้หวานน้อย อุดมด้วยไฟเบอร์ ราสเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย เพียง 5 กรัมต่อถ้วย ซึ่งเทียบเท่ากับน้ำตาลประมาณ 1 ช้อนชา ราสเบอร์รี่ยังมีไฟเบอร์สูง ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้อง ราสเบอร์รี่จึงเป็นหนึ่งในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่น่าทึ่งที่ควรนำมารับประทาน

ประโยชน์ของราสเบอร์รี่

  • น้ำตาลน้อย: ราสเบอร์รี่มีน้ำตาลน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมปริมาณน้ำตาล
  • ไฟเบอร์สูง: ราสเบอร์รี่มีไฟเบอร์สูง ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้อง ดีต่อระบบย่อยอาหาร
  • วิตามินซี: ราสเบอร์รี่เป็นแหล่งวิตามินซีที่ดี ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  • แมงกานีส: ราสเบอร์รี่เป็นแหล่งแมงกานีสที่ดี ช่วยบำรุงกระดูกและเนื้อเยื่อ
  • สารต้านอนุมูลอิสระ: ราสเบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังบางชนิด

3.สตรอเบอร์รี่ แม้จะมีรสหวานฉ่ำและอร่อย แต่สตรอเบอร์รี่กลับมีน้ำตาลน้อยอย่างน่าประหลาดใจ สตรอเบอร์รี่ดิบ 1 ถ้วย มีน้ำตาลเพียง 7 กรัม  และยังมีวิตามินซีมากกว่า 100% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวันอีกด้วย

ประโยชน์ของสตรอเบอร์รี่:

  • น้ำตาลน้อย: สตรอเบอร์รี่มีน้ำตาลน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมปริมาณน้ำตาล
  • วิตามินซีสูง: สตรอเบอร์รี่เป็นแหล่งวิตามินซีที่ดี ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  • แมงกานีส: สตรอเบอร์รี่เป็นแหล่งแมงกานีสที่ดี ช่วยบำรุงกระดูกและเนื้อเยื่อ
  • ใยอาหาร: สตรอเบอร์รี่มีใยอาหารสูง ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้อง ดีต่อระบบย่อยอาหาร
  • สารต้านอนุมูลอิสระ: สตรอเบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังบางชนิด

4.แบล็กเบอร์รี่ เป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อยเช่นกัน มีน้ำตาลเพียง 7 กรัมต่อถ้วย และยังมีจุดเด่นเพิ่มเติมคือ เป็นผลไม้สีเข้มที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและไฟเบอร์

ประโยชน์ของแบล็กเบอร์รี่:

  • น้ำตาลน้อย: แบล็กเบอร์รี่มีน้ำตาลน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมปริมาณน้ำตาล
  • สารต้านอนุมูลอิสระสูง: แบล็กเบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังบางชนิด
  • ไฟเบอร์สูง: แบล็กเบอร์รี่มีไฟเบอร์สูง ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้อง ดีต่อระบบย่อยอาหาร
  • วิตามิน: แบล็กเบอร์รี่มีวิตามินซี วิตามินเค แมงกานีส และวิตามินอื่น ๆ อีกมากมาย
  • แร่ธาตุ: แบล็กเบอร์รี่มีแร่ธาตุ เช่น โพแทสเซียม แมกนีเซียม และฟอสฟอรัส

5.กีวี ผลไม้สีเขียวเนื้อนุ่มขนปุยนี้ จัดเป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ กีวีอุดมไปด้วยวิตามินซี แต่มีน้ำตาลต่ำ เพียง 6.7 กรัมต่อผล กีวีหาซื้อได้ง่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปตลอดทั้งปี

ประโยชน์ของกีวี:

  • วิตามินซีสูง: กีวีเป็นแหล่งวิตามินซีที่ดี ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  • ใยอาหารสูง: กีวีมีใยอาหารสูง ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้อง ดีต่อระบบย่อยอาหาร
  • โพแทสเซียม: กีวีมีโพแทสเซียมสูง ช่วยควบคุมความดันโลหิต
  • แมกนีเซียม: กีวีมีแมกนีเซียมสูง ช่วยบำรุงระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
  • วิตามินเค: กีวีมีวิตามินเค ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน
  • สารต้านอนุมูลอิสระ: กีวีมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังบางชนิด

6.เกรปฟรุต ผลไม้ตระกูลส้มอีกชนิดหนึ่งที่ติดโผผลไม้หวานน้อย แม้เกรปฟรุตจะมีรสเปรี้ยวกว่าองุ่น แต่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับอาหารเช้า โดยเกรปฟรุตครึ่งลูก มีน้ำตาลเพียง 10.6 กรัม

ประโยชน์ของเกรปฟรุต:

  • น้ำตาลต่ำ: เกรปฟรุตมีน้ำตาลต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมปริมาณน้ำตาล
  • ไฟเบอร์สูง: เกรปฟรุตมีไฟเบอร์สูง ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้อง ดีต่อระบบย่อยอาหาร
  • วิตามินซี: เกรปฟรุตเป็นแหล่งวิตามินซีที่ดี ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  • สารต้านอนุมูลอิสระ: เกรปฟรุตมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังบางชนิด
  • ช่วยลดน้ำหนัก: เกรปฟรุตมีไฟเบอร์สูง ช่วยให้อิ่มท้องนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

7.อะโวคาโด อาจไม่ใช่ผลไม้ที่หลายคนนึกถึง แต่แท้จริงแล้ว อะโวคาโดจัดเป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง และมีน้ำตาลต่ำตามธรรมชาติ อะโวคาโดดิบ 1 ผล มีน้ำตาลเพียง 1 กรัมเท่านั้น อะโวคาโดยังอุดมไปด้วยไขมันดี ช่วยให้อิ่มท้องนาน

ประโยชน์ของอะโวคาโด:

  • น้ำตาลต่ำ: อะโวคาโดมีน้ำตาลต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมปริมาณน้ำตาล
  • ไขมันดีสูง: อะโวคาโดอุดมไปด้วยไขมันดี เช่น ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
  • ใยอาหารสูง: อะโวคาโดมีใยอาหารสูง ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้อง ดีต่อระบบย่อยอาหาร
  • วิตามินและแร่ธาตุ: อะโวคาโดมีวิตามินและแร่ธาตุมากมาย เช่น วิตามินซี วิตามินเค โพแทสเซียม แมกนีเซียม
  • สารต้านอนุมูลอิสระ: อะโวคาโดมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังบางชนิด

8.แตงโม ผลไม้หน้าร้อนสุดคลาสสิก หลายคนอาจคิดว่าทานแตงโมแล้วจะอ้วน แต่แท้จริงแล้ว แตงโมมีน้ำตาลต่ำ แตงโมหั่นเต๋า 1 ถ้วย มีน้ำตาลน้อยกว่า 10 กรัม

ประโยชน์ของแตงโม:

  • น้ำตาลต่ำ: แตงโมมีน้ำตาลต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมปริมาณน้ำตาล
  • น้ำสูง: แตงโมมีน้ำสูง ช่วยให้ร่างกายชุ่มชื้น
  • วิตามินและแร่ธาตุ: แตงโมเป็นแหล่งวิตามินเอ วิตามินซี โพแทสเซียม แมกนีเซียม และแร่ธาตุอื่นๆ อีกมากมาย
  • สารต้านอนุมูลอิสระ: แตงโมมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังบางชนิด
  • ช่วยลดความร้อน: แตงโมช่วยลดความร้อนในร่างกาย เหมาะสำหรับทานในช่วงหน้าร้อน

9.แคนตาลูป มีเนื้อสีส้มสดใส ซึ่งเป็นผลมาจากวิตามินเอที่มีสูง เมลอนแสนอร่อยนี้ 1 ถ้วย มีน้ำตาลน้อยกว่า 13 กรัม แม้จะมากกว่าผลไม้ชนิดอื่น ๆ แต่ก็ยังน้อยกว่าน้ำอัดลมกระป๋องขนาด 12 ออนซ์ ซึ่งมีน้ำตาลเกือบ 40 กรัม และมีคุณค่าทางโภชนาการน้อยมาก

ประโยชน์ของแคนตาลูป:

  • วิตามินเอสูง: แคนตาลูปเป็นแหล่งวิตามินเอที่ดี ช่วยบำรุงสายตา เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  • วิตามินซี: แคนตาลูปเป็นแหล่งวิตามินซีที่ดี ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  • โพแทสเซียม: แคนตาลูปมีโพแทสเซียมสูง ช่วยควบคุมความดันโลหิต
  • ใยอาหาร: แคนตาลูปมีใยอาหารสูง ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้อง ดีต่อระบบย่อยอาหาร
  • สารต้านอนุมูลอิสระ: แคนตาลูปมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังบางชนิด

10.ส้ม เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของว่างหวานๆ ที่คุณสามารถทานได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแคลอรี่หรือน้ำตาลมากเกินไป ส้มยังเป็นแหล่งวิตามินซีชั้นดีอีกด้วย ส้มสายน้ำผึ้งทั่วไป 1 ผล มีน้ำตาลประมาณ 14 กรัม และให้พลังงาน 77 แคลอรี่

ประโยชน์ของส้ม:

  • วิตามินซีสูง: ส้มเป็นแหล่งวิตามินซีที่ดี ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  • ใยอาหาร: ส้มมีใยอาหารสูง ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้อง ดีต่อระบบย่อยอาหาร
  • โพแทสเซียม: ส้มมีโพแทสเซียมสูง ช่วยควบคุมความดันโลหิต
  • สารต้านอนุมูลอิสระ: ส้มมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังบางชนิด
  • ช่วยลดน้ำหนัก: ส้มมีใยอาหารสูง ช่วยให้อิ่มท้องนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.