อ.วิศวฯ จุฬาฯ เตือนคนไทยหมดยุคโลกร้อน เข้าสู่ โลกเดือด
ศ.ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยถึงสถานการณ์ของอุณหภูมิโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เลขาธิการสหประชาชาติ (United Nations) ออกมาประกาศว่าปัจจุบันโลกของเราได้สิ้นสุด "ยุคโลกร้อน" (Global Warming) และกำลังเข้าสู่ "ยุคโลกเดือด" (Global Boiling)
ศ.ดร.พิสุทธิ์ อธิบายว่า ยุคโลกเดือด (Global Boiling) หากอธิบายง่ายๆ ก็เปรียบเหมือนน้ำที่กำลังเดือดปุดๆ อยู่บนไฟตลอดเวลา และโลกเดือดนี้จะส่งผลกระทบไปทุกภาคส่วนของโลก ไม่ว่าจะทั้งมนุษย์ สัตว์ หรือธรรมชาติ เช่น อุณหภูมิความร้อนสูง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้สูงอายุ, กลุ่มเปราะบาง หรือกลุ่มทำงานกลางแจ้ง ที่อาจเจ็บป่วยจากอากาศร้อนได้ รวมถึงสภาพอากาศที่แปรปรวน ก็ส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตร
และด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่น่ากลัว ตลอดจนอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้หลายภาคส่วนต้องมีส่วนร่วมกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มีการสำรวจคาร์บอนฟุตพริ้นภายในคณะ พบว่า จากข้อมูลปี 2565 คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวม 2,879 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และมีเป้าหมายที่จะลดลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตามที่ประเทศไทยได้ประกาศว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 30
ซึ่งหากพิจารณาจากข้อมูลจำนวนคาร์บอนฟุตพริ้นเมื่อปี 2565 ทางคณะวิศวฯ จำเป็นต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรเหลือ 2,015 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ในปี 2030 และเตรียมมาตรการสำหรับการลดก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่อง ด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่คณะจะจัดขึ้นในตลอดทั้งปี
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.