ไขรหัส “ไซโคพาธ” โรคต่อต้านสังคมขั้นรุนแรง

เคยสงสัยหรือไม่ว่าอะไรคือแรงผลักดันให้คนคนหนึ่งมีพฤติกรรมรุนแรง และไม่มีทีท่าว่าจะมีความรู้สึกผิดหรือเห็นใจผู้อื่นในสถานการณ์ความรุนแรงนั้น ในทางการแพทย์คนที่มีบุคลิกลักษณะนี้อาจเข้าข่ายโรคทางจิตเวชที่เรียกว่า “โรคไซโคพาธ”

แพทย์หญิงณัฏฐพัชร์ ลำเลียงพล จิตแพทย์ โรงพยาบาล BMHH – Bangkok Mental Health Hospital อธิบายว่า โรคไซโคพาธ (Psychopaths) เป็นความผิดปกติทางจิตเวชชนิดหนึ่ง เป็นกลุ่มหนึ่งของโรคบุคลิกภาพผิดปกติชนิดต่อต้านสังคมขั้นรุนแรง ในทางการแพทย์เชื่อว่าเกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างสมองส่วนหน้า และส่วนควบคุมอารมณ์ นอกจากนี้ คาดว่าอาจเกิดจากพันธุกรรม สภาพแวดล้อม และประสบการณ์ในวัยเด็ก เช่น ถูกทารุณกรรม ได้รับความรุนแรงจากคนในครอบครัวซ้ำ ๆ หรือได้รับการเลี้ยงดูที่ผิดวิธี ส่งผลให้มีพฤติกรรมต่อต้านสังคม และแสดงอาการออกมาใน 4 ด้าน ดังนี้

  • ด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ไซโคพาธจะเป็นคนที่มีเสน่ห์แบบผิวเผิน ขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ชอบเอาแต่ใจ เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง ไม่มีความรับผิดชอบ เมื่อทำอะไรผิดพลาด คนกลุ่มนี้จะชอบโทษผู้อื่นก่อนเสมอ และมักพูดจาดี หลอกล่อเก่ง
  • ด้านอารมณ์ ความรู้สึก ไซโคพาธจะไม่สามารถเข้าถึงอารมณ์ได้อย่างลึกซึ้ง ทำให้ไม่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ขาดศีลธรรมในการแสดงออกต่อผู้อื่น
  • ด้านไลฟ์สไตล์ ไซโคพาธมักชอบตามหาความตื่นเต้น เร้าใจ หรือทำอะไรที่กระตุ้นให้เกิดอารมณ์ต่าง ๆ เช่น การก่ออาชญากรรม การขโมย ก่อเหตุทะเลาะวิวาทหรือความรุนแรง เป็นต้น และเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลม วางแผนเก่ง
  • ด้านพฤติกรรม ไซโคพาธจะมีพฤติกรรมต่อต้านสังคม สามารถทำร้ายผู้อื่นได้ มักเริ่มมีอาการตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น หรือในบางคนหากเป็นมากจะมีพฤติกรรมที่มีปัญหาตั้งแต่วัยเด็ก เช่น ชอบต่อสู้ ชอบทะเลาะวิวาท รังแกเพื่อน ทารุณกรรมสัตว์ ขี้โกหกหรือชอบโขมยของ ซึ่งจะเรียกว่าโรคดื้อต่อต้าน

เสน่ห์ของไซโคพาธเป็นสิ่งที่อันตรายมาก เพราะไซโคพาธจะสามารถพูดจาหว่านล้อม หรือพูดโกหกได้ว่าตัวเองมีความเห็นอกเห็นใจ จนผู้อื่นเข้าใจว่านั่นคือตัวตนที่แท้จริงของเขา ท้ายที่สุดอาจกลายเป็นเหยื่อของไซโคพาธได้ เพราะฉะนั้นควรระวังตัวเองจากเสน่ห์ของไซโคพาธ เช่น ระวังคนที่พูดจาหวานและชอบเสนอสิ่งที่ดี ๆ ให้มากเกินจริง, อย่าหลงเชื่อคำพูด, สังเกตพฤติกรรมให้ดี ๆ ว่ามีความสอดคล้องกับคำพูดหรือไม่, หากสงสัยให้ลองตรวจสอบประวัติของพวกเขา, และให้เชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง หากรู้สึกว่าเริ่มอันตรายควรถอยออกมา

โรคไซโคพาธเป็นโรคที่รักษายากจนถึงขั้นรักษาไม่ได้ แต่หากจำเป็นต้องรักษา วิธีที่ดีที่สุดคือการทำจิตบำบัด ประเภทความคิดและพฤติกรรมบำบัด เพื่อดูว่าการที่เป็นไซโคพาธ เขามีความคิด ความรู้สึกและมีพฤติกรรมอะไรบ้าง จากนั้นต้องนำทั้ง 3 ประเด็นนี้มาวิเคราะห์ว่ามีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับชีวิตของเขาอย่างไร เมื่อวิเคราะห์จนเจอปมแล้ว นักจิตบำบัดจะพยายามคลี่คลายปมนั้นว่าสิ่งใดเป็นตัวกระตุ้น แล้วค่อย ๆ ให้แก้ทีละปม

อีกหนึ่งวิธีคือการกินยาตามอาการ เพราะไซโคพาธส่วนใหญ่มีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง แพทย์อาจพิจารณาให้ยาเพื่อลดพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง หากมีอารมณ์หงุดหงิดง่าย จะให้ยาลดอารมณ์หงุดหงิด

 

“โรคไซโคพาธ เป็นโรคทางจิตเวชที่รักษาได้ยาก เพราะลักษณะเฉพาะของไซโคพาธที่ชอบโกหก หรือตบตาจิตแพทย์และนักจิตวิทยา ทำให้เมื่อได้รับการทำจิตบำบัด เขาจะไม่สนใจและไม่ได้จริงจังในการทำบำบัด จึงไม่ได้ผลลัพธ์ในการรักษาเท่าที่ควร” แพทย์หญิงณัฏฐพัชร์กล่าว

 

แพทย์หญิงณัฏฐพัชร์ ลำเลียงพล จิตแพทย์

โรงพยาบาล BMHH – Bangkok Mental Health Hospital

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.