เกษรวิลเลจเผยตำนานบทใหม่ของ Gaysorn Amarin ภายใต้คอนเซปต์ Blooming Legacies

“เกษรวิลเลจ” (Gaysorn Village) Placemaking Destination แห่งแรกและแห่งเดียวใจกลางกรุงเทพฯ เผยโฉมปฐมบทครั้งใหม่ เกษรอัมรินทร์ (Gaysorn Amarin)  ภายในคอนเซ็ปต์ “Blooming Legacies” การเฉลิมฉลองตำนานและการเบ่งบาน ที่สวยงามอย่างเต็มรูปแบบของ เกษรวิลเลจ ซึ่งการเฉลิมฉลองครั้งนี้ ประกอบด้วย “Blooming Legacies Art Installation” งานศิลปะในคอนเซ็ปต์ ที่เปรียบดั่งการเฉลิมฉลองความหลากหลายของผู้คนที่อยู่รวมกัน ณ เกษรวิลเลจ “Blooming Legacies Fashion Show” แฟชั่นโชว์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่จัดในพื้นที่ระดับตำนาน Gaysorn Amarin Forum โดยมีแบรนด์ดีไซเนอร์แถวหน้าของเมืองไทย มาร่วมจัดแสดงคอลเล็กชั่นสปริงและซัมเมอร์ รวมถึงชิ้นมาสเตอร์พีซเพื่องานนี้โดยเฉพาะ “Raynue” Go Live Celebration งานเผยโฉมเล้าจ์แห่งใหม่ของย่านราชประสงค์ ที่มอบประสบการณ์ Taste of Time เติมเต็มไลฟ์สไตล์การกิน-ดื่ม กับ “รสชาติแห่งกาลเวลา”ในแต่ละช่วงเวลาของวัน ไม่เพียงเท่านี้ เกษรอัมรินทร์ยังได้เปิด “THE URBAN” พื้นที่รีเทลแห่งใหม่ ที่จะสร้างแรงบัลดาลใจและความคิดสร้างสรรค์ แบบไม่รู้จบให้แก่ผู้มาเยือน เพื่อต่อยอดแรงบันดาลใจและเพิ่มพลังของการใช้ชีวิตในแบบ Live Your Own Legacy

Blooming Legacies Fashion Show

ต้อนรับตำนานบทใหม่ ของเกษรอัมรินทร์อย่างยิ่งใหญ่ “เกษรวิลเลจ จึงได้จัดงาน “Blooming Legacies Fashion Show” แฟชั่นโชว์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่จัดในพื้นที่ระดับตำนาน ณ จตุรัสอันโอ่อ่า แห่งเกษรอัมรินทร์ (Gaysorn Amarin Forum) โดยมีแบรนด์ดีไซเนอร์แถวหน้าของเมืองไทยอย่าง La Boutique, Painkiller Atelier และ POEM จัดเต็มกับคอลเล็กชั่นสปริงและซัมเมอร์ สมทบด้วยอีก 8 แบรนด์ไทย ได้แก่ Fah Chak, IRADAA WEAR, Kemissara, NICHp, Senada, TEEMA RUCKSAJIT, Vickteerut, และ VINN PATARARIN ที่มาโชว์ชิ้นมาสเตอร์พีซเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ให้แฟชั่นนิสต้าได้อัพเดตและครีเอทลุครับซัมเมอร์สุดสดใส พร้อมเสริมบรรยากาศความมันบนรันเวย์ไปอีกสเต็ปด้วยการแสดงสดจากวง The Parkinson งานนี้มีเหล่าเซเลบริตี้และคนดังแถวหน้าของวงการแฟชั่นไทยตบเท้าเข้ามาร่วมสัมผัสความ Blooming legacy กันอย่างคับคั่ง

“Raynue” Go Live Celebration

งานเผยโฉม พื้นที่แฮงก์เอาต์สุดชิค เล้าจ์แห่งใหม่ของย่านราชประสงค์ ซึ่งถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการพบปะสังสรรค์ พร้อมมอบประสบการณ์ Taste of Time ผ่านการผสมผสานของรสชาติอาหาร เครื่องดื่ม และดนตรี ตั้งแต่ตัวเลือก อาหารเช้าที่ให้คุณได้สดชื่นพร้อมต้อนรับวันใหม่ ไปจนถึงเมนูง่ายๆ ยามบ่ายที่สร้างสรรค์มาอย่างพิถีพิถัน และเมนูในช่วงเวลาหลังพระอาทิตย์ตกที่แพริ่งไปกับเครื่องดื่ม และบรรยากาศ ที่ให้ความรู้สึกและสัมผัสที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา

• Taste of Sunrise เริ่มต้นยามเช้ากับการนั่งจิบกาแฟดีๆ สัมผัสกับแสงแรกและลมโชยอ่อนๆ ที่สาดเข้ามาบริเวณ โซน “Sky Lobby” พร้อมอาหารเช้าหรือ Brunch สไตล์เมดิเตอร์เรเนียนที่รังสรรค์ด้วยวัตถุดิบคุณภาพส่งตรงจากฟาร์มถึงทุก ๆ จานที่เรณู ที่พร้อมต้อนรับทุกท่านตั้งแต่ 8 โมงเช้า เป็นต้นไป
• Taste of Sunset หากกำลังมองหาเวลาที่ได้พักผ่อนจากความเหนื่อยล้ายามบ่าย ขอเชิญให้ทุกท่านมาเพลินเพลิดไปกับเมนูของว่างเบาๆ ชุด Afternoon Tea พิเศษ หรือเครื่องดื่มเย็น ๆ บริเวณ “Salone Bar” ที่พร้อมให้บริการตั้งแต่ 00 น.เป็นต้นไป หรือเมนูไวน์ที่ถูกคัดมาจากลิสต์โปรดของเหล่าซอมเมอลิเยร์คอมมูนิตี้ทั่วโลก ที่จะให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับ Aperitivo Hour ที่แสนรื่นรมย์ในทุกๆวัน
• Taste of Moonrise สัมผัสกับประสบการณ์ยามเย็นจนถึงค่ำคืนอันน่าหลงใหล ณ บริเวณ “Ionic Terrace” พื้นที่แฮงค์เอ้าท์แห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพมหานครฯ ที่ให้คุณมาพบปะกับผู้คนและเพื่อนฝูง พร้อมดื่มด่ำกับเครื่องดื่มที่มาในคอนเซ็ปต์ “Pollen & Botanica” ณ Pollen Bar จากเหล่าบาร์เทนเดอร์ชั้นนำที่มีรางวัลการันตี บาร์เปิดตั้งแต่ 17:00 – เที่ยงคืน ทุกวัน โดยเครื่องดื่มทุกแก้วจะถูกรังสรรค์มาจากดอกไม้แต่ละชนิดเพื่อให้ได้ทั้งรสสัมผัส และกลิ่นที่ไม่เหมือนใคร แพริ่งไปกับเมนูสไตล์ทาปาสร่วมสมัย พร้อมเคลิบเคลิ้มไปกับเสียงดนตรีสด หรือดีเจระดับมืออาชีพที่สลับกันมาสร้างบรรยากาศให้เป็นค่ำคืนที่น่าจดจำและแสนพิเศษในทุก ๆ วัน

โดยงาน Raynue Go Live ในครั้งนี้ เกษรวิลเลจได้เปลี่ยน Raynue เป็นพื้นที่สำหรับ After Party สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ยกไลน์อัพความสนุกทั้ง The Parkinson และ Phum Viphurit ที่ขับกล่อมแขกในงานกันแบบสดๆ พร้อมด้วย DJ Paulie Sirisant และ DJ Bomber Selecta ที่ทำให้ทุกคนได้ปลดปล่อยความเป็น Blooming Legacies แบบเต็มที่

Blooming Legacies Art Installation

งานศิลปะในคอนเซ็ปต์ Blooming Legacies ที่ผู้ออกแบบดึงเอกลักษณ์พิเศษของสถานที่ (Place Identity) ซึ่งมีกลิ่นอายของ Postmodern สอดประสานกับดอกไม้หลายรูปแบบ เปรียบดั่งการเฉลิมฉลองความหลากหลายของผู้คนที่อยู่รวมกัน ณ เกษรวิลเลจ พื้นที่ “ที่มีความหมาย” (Placemaking Destination) แห่งนี้นั่นเอง งาน Blooming Legacies Art Installation ต้อนรับผู้มาเยือนตั้งแต่ทางเชื่อมรถไฟฟ้าเข้าตัวอาคาร ด้วยกลีบดอกไม้สีโทนส้มแสดและชมพูที่กำลังผลิบานและ Gaysorn Cocoon ที่คนจดจำได้ดี แรงบันดาลใจจากกลีบของดอกพิกุลที่ถูกนำมาเรียงใหม่ในแนวตั้ง ที่สื่อถึงการบ่มเพาะแรงบันดาลใจของผู้มาเยือน และเมื่อกระทบกับแสงในแต่ละช่วงวันจะเกิดเป็นมุมมองที่หลากหลาย สะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่สิ้นสุดที่เกิดขึ้นในพื้นที่แห่งนี้ ต่อเนื่องไปจนถึงบริเวณ Gaysorn Atrium ที่มี Greeting Blossom ช่อดอกไม้ที่โน้มกิ่งลงมาจากเพดานสูง คอยทักทายผู้คนที่เข้ามายังเกษรอัมรินทร์ ถัดไปคือจุดไฮไลต์ของงาน Blooming Legacies Art Installation ณ Forum จตุรัสใจกลางเกษรอัมรินทร์ ซึ่งมี Celebration Bouquet ช่อดอกไม้ขนาดใหญ่ที่วางเคียงคู่กับเพดานกระจกโปร่งแสงลวดลายดอกพิกุลอันเป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมสไตล์ Postmodern ที่มีเสาโรมันสีเทาเข้มและหัวสีทอง งาน Blooming Legacies Art Installation เป็นผลงานการรังสรรค์ของ Likay Bindery สตูดิโอที่เชี่ยวชาญงานประติมากรรมจากกระดาษ ร่วมกับ Duck Unit ที่ถ่ายทอดงานในรูปแบบ Kinetic Art งานศิลปะที่มีมิติแห่งการเคลื่อนไหว สื่อถึงการเดินทางของกาลเวลาที่ไม่หยุดนิ่งที่เกษรวิลเลจ

THE URBAN

พื้นที่รีเทลที่มอบความคิดสร้างสรรค์และเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจที่ไม่สิ้นสุด ร่วมกับความคลาสสิก สู่สีสันแห่งความร่วมสมัยแบบ Postmodern จากดีไซน์เนอร์แบรนด์ไทย ที่หมุนเวียนกันมาส่งมอบประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับผู้ที่มาเยือนเกษรอัมรินทร์ โดยพื้นที่ชั้น 1 CREATIVE GROUND (แฟชั่นและสไตล์ความคิดสร้างสรรค์ตามฤดูกาลที่ไม่มีขีดจำกัด) โดยชั้นนี้จะมีแฟชั่นแบรนด์ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาให้คนรักการแต่งตัวได้สนุกไม่ซ้ำกันในแต่ละฤดูอย่าไร้ขีดจำกัด อาทิ ASV, FAH CHAK, TEEMA, TORBOON และ VICKTEERUT ในส่วนของพื้นที่ชั้น 2 INSPIRE ESSENCE (แรงบันดาลใจใหม่ๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน) โดยชั้นนี้ได้คัดสรรแบรนด์ของใช้ที่ช่วยยกระดับไลฟ์สไตล์ของทุกคนให้สนุกมากขึ้นในทุกๆ วัน อาทิ GADHOUSE, PHAYANCHANA, และ SEDAR.W พร้อมดื่มด่ำกับเครื่องดื่มสุดพิเศษที่ CRAFTSMAN ROASTERY ขณะเดียวกันในบนชั้น 3 ART, DESIGN LIVING & CRAFT จะพื้นที่สำหรับงานคราฟท์ ศิลปะและงานดีไซน์ที่เหนือกาลเวลา จากศิลปินชั้นนำของวงการ อาทิ 247 JEWELRY, A LUAHOME, AYODHAYA, KALABARA, และ SILKYSINN เป็นต้น