อาหาร 5 ชนิดพิชิตความแก่ เสริมความอ่อนเยาว์จากภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แน่นอนว่าวิธีการดูแลผิวหน้าให้สดใสเหมือนผิวหน้าเด็ก สามารถทำได้ด้วยการทาเซรั่มบำรุงผิวหน้า แต่ยังมีอีกหนึ่งวิธีธรรมชาติที่สาวๆ สามารถทำได้เลย แถมยังเป็นวิธีที่ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ได้อย่างหลากหลายอีกด้วย ซึ่งนั่นก็คือ การกินอาหาร 5 ชนิดช่วยชะลอความแก่ได้อย่างมีประสิทธิภาพดังนี้ค่ะ

อาหาร 5 ชนิดช่วยชะลอความแก่

1.ดาร์กช็อกโกลแต

เหตุผลที่ดาร์กช็อกโกแลตช่วยในเรื่องของการชะลอความแก่ได้ นั่นเป็นเพราะว่า ในดาร์กช็อกโกแลตมีสารฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ โดยสารชนิดนี้มีความสามารถในการบำรุงผิวและช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว ตลอดจนสามารถต่อสู้กับความเสียหายของผิวที่เกิดจากการสัมผัสแสงแดดในแต่ละวันได้อีกด้วย

2.ปลา

ปลา โดยเฉพาะปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า3 อย่างเช่น ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน หรือปลาทู คือปลาที่ช่วยในเรื่องของการชะลอความแก่ของผิวได้ดีเช่นกัน เนื่องจากกรดไขมันโอเมก้า3 ที่อุดมอยู่ในปลาเหล่านี้ ล้วนมีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบ และช่วยในเรื่องของการคงความยืดหยุ่นของผิวหนัง จึงทำให้ผิวเกิดริ้วรอยได้ยาก

3.ผักใบเขียว

ผักใบเขียว โดยเฉพาะผักคะน้าและผักโขม อุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระที่ส่งผลดีต่อสุขภาพผิว แถมยังช่วยในเรื่องของสุขภาพโดยรวมอีกด้วย ดังนั้นถ้าสาวๆ อยากมีผิวหน้าใส แนะนำให้หมั่นกินผักใบเขียวหลากหลายชนิดในทุกๆ วันจะช่วยในเรื่องนี้ได้ดี

4.ถั่วและเมล็ดพืช

ถั่วและเมล็ดพืชชนิดต่างๆ เช่น อัลมอนด์ เมล็ดเจีย เมล็ดแฟลกซ์ และวอลนัท จัดเป็นแหล่งที่ดีของสารต้านอนุมูลอิสระและไขมันดี ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ถือเป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อการช่วยบำรุงผิวและสุขภาพโดยรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยทีเดียว

5.ผลไม้ตระกูลเบอร์รี

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี เช่น สตรอเบอร์รี บลูเบอร์รี แบล็กเบอร์รี และราสเบอร์รี จัดเป็นผลไม้ที่มากมายไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะสารต้านอนุมูลอิสระอย่างสารแอนโทไซยานิน ซึ่งสารชนิดนี้มีคุณสมบัติช่วยในเรื่องของการต่อต้านความชราอย่างได้ผล

สาวๆ ที่กำลังมองหาวิธีการทำให้ผิวหน้าใส หรือต้องการชะลอความแก่ของผิวด้วยวิธีธรรมชาติ โดยไม่ต้องอาศัยการใช้เซรัมราคาสูง แถมยังช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ได้อย่างหลากหลายไปพร้อมๆ กันด้วยนั้น แนะนำให้หมั่นกินอาหารทั้ง 5 ชนิดที่เราได้แชร์ไปข้างต้นกันค่ะ พยายามจัดสรรปริมาณของอาหารเหล่านี้ให้เหมาะสมเพื่อให้ร่างกายได้กินอย่างหลากหลาย ทั้งนี้เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย